อุตสาหกรรมเกมนั้น เป็นอุตสาหกรรมที่มีเงินแพร่สะพัดอย่างมาก และสามารถสร้างผู้บริโภครุ่นใหม่ ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง แถมจากผู้บริโภคเหล่านี้ที่เปลี่ยนมาเป็นลูกค้านั้นก็ยังสามารถมารวมตัวกันสร้างชุมชนอันเข้มแข็ง สำคัญอื่นใด อัตราการใช้จ่ายของกลุ่มคนเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายเงินเพื่อซื้อไอเท็ม การจ่ายเพื่อซื้อเกมใหม่ จนถึงซื้อเครื่องเกมรุ่นใหม่เมื่อออกใหม่ได้อยู่เสมอ ทั้งนี้ด้วยเงินหมุนเวียนที่ผ่านการเติมเงินต่าง ๆ จนถึงชุมชนที่แข็งแกร่งเหล่านี้ ทำให้อุตสาหกรรมเกมนั้นมีบทเรียนที่น่าสนใจสำหรับนักการตลาดอย่างมากในการศึกษาว่าทำการสื่อสารอย่างไร
เมื่อไม่นานมานี้มีกิจกรรมเกมของโลกคือ E3 ซึ่งแม้ว่าตัวงานจะมีความสำคัญน้อยลงไปจากทุกปี เพราะแต่ละค่ายเกมเริ่มไปจัดกิจกรรมของตัวเอง แต่อย่างน้อย E3 กลับกลายเป็นงานที่มีความน่าสนใจพอ ๆ กับ Tech Event ของโลกไปอีกงานหนึ่ง มีคนติดตามมากมายที่อยากรู้ว่าจะมีเกมอะไรใหม่ๆ ออกมา ความเคลื่อนไหวค่ายเกม จนถึงการโตของตลาดต่าง ๆ ทั้งนี้อุตสาหกรรมเกมนั้นเป็นอุตสาหกรรมที่สามารถทำเพื่อตอบสนองกลุ่มเป้าหมายได้ดี แถมยังสร้างกลุ่มเป้าหมายให้รวมตัวกันกลายเป็นชุมชนที่สามารถกระตุ้นให้ใช้จ่ายเพิ่มเติมกันได้อีกด้วย ซึ่งจากรายงานของ Mary Meeker 2017 Internet Report ยังระบุว่า เกมคือรูปแบบ Social Media ที่มีอัตราการปฏิสัมพันธ์นั้นสูงที่สุด ซึ่งทำให้เกมนั้นมีความน่าสนใจที่จะเรียนรู้ และนี่คือ 4 บทเรียนของอุตสาหกรรมเกมที่น่าสนใจสำหรับนักการตลาด
1. อุตสาหกรรมเกมเป็นอุตสาหกรรมที่เข้าใจความซับซัอนของกลุ่มเป้าหมายตัวเองและพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายตัวเอง : ในการที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของตัวเองนั้น นักการตลาดต้องเข้าใจว่ากลุ่มเป้าหมายบริโภคสื่ออย่างไรและมีพฤติกรรมกับการใช้เวลากับสื่อหรืออุปกรณ์ใด ๆ มากที่สุด ในอุตสาหกรรมเกมนั้นความซับซ้อนมีสูงกว่านั้น เนื่องด้วยมีผู้เล่นทั้งต่างเพศ ต่างอายุ ต่างความชอบ ต่างอุปกรณ์ และการใช้เวลาที่แตกต่างกัน ทำให้นักการตลาดของอุตสาหกรรมนั้นต้องเอาข้อมูลเหล่านี้มาจำแนกเพื่อหาคุณลักษณะของกลุ่มเป้าหมายตัวเองออกมา และใช้กลยุทธ์รูปแบบใหม่ ๆ ที่ไม่ได้ใช้ในการตลาดทั่วไป เช่นการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนเกม เข้าใจ subcultures นั้น ๆ ออกมาและสื่อสารให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อคนเล่มเกม ให้มีประสบการณ์ที่ดีมากขึ้นในการเล่นเกมของนักการตลาดเอ
2. ให้ Content ที่เกมเมอร์ต้องการ : นักการตลาดเข้าใจในการให้ Content ที่กลุ่มเป้าหมายตัองการดี แต่ในกลุ่มเกมเมอร์นั้นต้องคิดให้มากกว่ากลุ่มผู้บริโภคปกติว่า กลุ่มนี้อยากได้เนื้อหาแบบไหนที่กำลังต้องการ ต้องคิดแบบคนที่ติดตามเกมต่าง ๆ ซึ่งความต้องการของคนเล่นเกมนั้นง่ายมาก คืออยากได้ข่าวอัพเดท อย่างได้ประกาศเกมใหม่ และอยากเห็นตัวเกมใหม่ ๆ ออกมา ซึ่งตัวอย่าง Content ที่ทำให้กลุ่มนี้ติดตามและตอบสนองได้ดี ลองดูตัวอย่างจาก IGN ที่มีคนติดตามเนื้อหาอย่างมาก และมี Conversation ที่ปฏิสัมพันธ์กันมากมายเมื่อมี Content ใหม่ออกมา
httpv://www.youtube.com/watch?v=NanXoHKCM1E
3. เพื่อจะเข้าถึงเกมเมอร์ คุณต้องอยู่ในที่ของกลุ่มเป้าหมาย : กลุ่มเกมเมอร์นั้นไม่ได้รวมตัวกันใน Facebook หรือ Social media ต่างๆ แต่จะเข้าไปอยู่ในช่องทางที่ตัวเองติดตามอย่างมาก เช่น Twitch.tv ถ้านักการตลาดทั่วไปก็คงมองผ่านเพราะมีคนอยู่แค่ 9.7 ล้านคนจากทั่วโลก และมี 2 ล้านคนที่ทำ Livestream แต่ถ้าเป็นนักการตลาดเกมจะสนใจมาก เพราะในความ niche เช่นนี้กลับมีพลังที่สูงมากเพราะแต่ละคนที่อยู่ใน Twitch มีกิจกรรมและการใช้เวลาที่สูงมาก เมื่อเทียบกับ Social media อื่น ๆ ซึ่งการที่จะเข้าไปจับกลุ่มนี้ได้ ต้องเข้าใจว่าในช่องทางเหล่านี้กลุ่มเป้าหมายไปทำอะไร เสพสื่อแบบไหนและการสื่อสารเป็นแบบไหน เพื่อที่จะทำให้เข้าถึงและปฏิสัมพันธ์กันได้ออกมา
4. ติดตามกระแสอนาคตอยู่เสมอ : สิ่งที่อุตสาหกรรมเกมทำนั้นคือการติดตามอนาคตและลองสิ่งใหม่ ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ให้ผู้เล่นอยู่เสมอ ดังที่เห็นเกมที่เป็น VR/AR หรือ MR เองก็ตามที่ออกมาสร้างกระแส และทำให้คนนั้นอยากลอง อยากเล่น เพื่อให้ได้ประสบการณ์เหมือนเข้าไปอยู่ในเกมจริง ๆ ขึ้นมา รวมทั้งทำให้เกมนั้นมีเทคโนโลยีที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ จนเห็นงานวิจัยด้านการเคลื่อนไหวของเกม การใช้ CGI หรือการใช้ Motion capture จากคนจริง ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดออกมาของการเล่นเกม ทำให้คนที่เล่นนั้นเกิดการอยากเล่นและเอาไปบอกต่อกันถึงคุณภาพและสิ่งที่เกมทำออกมา
ทั้งนี้เกมในยุคนี้ไม่ใช่เรื่องของเด็ก ๆ อีกต่อไป แต่กลับกลายเป็นอุตสาหกรรมที่จริงจังอย่างมากในการสร้างลูกค้าใหม่ และรักษาลูกค้าเก่า รวมทั้งการทำให้เกิดการใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง สร้างเนื้อหาที่เกิดประสบการณ์ที่ดี และสร้างประสบการณ์ที่ดีในทุกจุด จากการเข้าใจกลุ่มเป้าหมายของตัวเองในระดับความคิดและเข้าไปปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างถูกจุด ซึ่งเป็นสิ่งที่นักการตลาดนั้นควรจะเอาเป็นแบบอย่าง