Facebook เปิดบริการเครื่องมือทางการตลาดใหม่ 2 ตัวล่าสุดที่จะทำให้ Content มีความน่าสนใจมากขึ้น โดยบริการ Canvas พัฒนาสำหรับภาคธุรกิจในการทำโฆษณาบนอุปกรณ์โมบาย ให้สามารถแสดงผลได้แบบ Full-Screen จากเดิมที่ต้องติดอยู่แค่ในกรอบสี่เหลี่ยมเล็กๆ กลาง Feed ของ Facebook
Canvas นั้นเริ่มต้นเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการวันที่ 26 ก.พ. ที่ผ่านมาทำให้การโฆษณาบนอุปกรณ์โมบายมีสีสันสนุกสนานมากขึ้น เน้นให้ธุรกิจที่มี Page ของตัวเองบน Facebook สามารถสร้างสรรค์โฆษณาได้แบบอิสระมากขึ้น สามารถใส่รูปภาพ วิดีโอ หรือปุ่มกด ที่เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ หรือสื่ออื่นๆ
วิธีการสร้าง Engagement กับลูกค้าคือ เมื่อลูกค้าพบโฆษณาที่น่าสนใจเพียงกดครั้งเดียว Canvas จะแสดงผลโฆษณาอย่างรวดเร็ว (Instant) ดูไปคล้ายๆ กับ Catalog ไว้นำเสนอสินค้าและบริการแบบครบวงจรซึ่ง Facebook ระบุว่าการทำโฆษณาผ่าน Canvas นั้น ดึงดูดใจผู้บริโภคได้ดีกว่า โดยจากการสำรวจพบว่า ใช้เวลาอยู่กับโฆษณานั้นเฉลี่ยประมาณ 31 วินาที ซึ่งถือว่ายาวนานกว่าปกติ
สำหรับแบรนด์ที่เริ่มนำ Canvas มาใช้งาน เช่น Burberry, Coca-Cola, ASUS, L’Occitane, Lowe’s เป็นต้น
Facebook Canvas Ads – Snart i Sverige
httpv://youtu.be/5NXSuLm8BLE
ก่อนหน้านี้ Facebook เปิดบริการ Instant Article ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับ Canvas แต่ใช้ต่างเป้าหมาย เพราะ Instant Article พัฒนามาสำหรับ Publisher ใช้เพื่อเผยแพร่ข่าวสาร ข้อมูล โดยเฉพาะ โดย Platform นี้สามารถใส่รูปภาพ วิดีโอ และเนื้อหาได้เหมือนกัน และยังสอดแทรกโฆษณาระหว่างเนื้อหาได้ด้วย จุดเด่นสำคัญคือ ความเร็วในการโหลด ขึ้นมาเกือบทันที (Instant) เพราะปกติถ้าใช้เวลาในการโหลดนาน ผู้อ่านก็อาจจะปิดและเลิกอ่านไปแล้ว
การเปิดอ่าน Instant Article จะมีการนับจำนวนผู้อ่าน โดย Facebook บอกว่าเพื่อให้ Publisher ยังสามารถติดตั้งโฆษณาบนบทความได้ตามเดิม และจะนับจำนวนผู้อ่าน (view) ไปถึงที่เว็บไซต์ให้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้ยังมีการถกเถียงกันระหว่าง Publisher อยู่ว่า จะทำให้จำนวนผู้เข้าเว็บไซต์น้อยลงหรือไม่ (แต่จำนวนผู้เข้าFacebook อาจเพิ่มขึ้น) แต่ต้องยอมรับว่า การเข้าถึงข่าวและบทความในทุกวันนี้ ส่วนใหญ่เข้าผ่านทางโซเชียล โดยเฉพาะ Facebook เป็นหลัก
ทั้ง Canvas และ Instant Article ถือเป็นเครื่องมือการตลาดใหม่ของ Facebook ที่มาช่วยให้การสร้างสรรค์ผลงานทั้งจาก Publisher และจากธุรกิจ Brand ต่างๆ มีอิสระในการทำผลงานออกมามากขึ้น จากนี้ต้องรอดูว่า Platform ใหม่ทั้ง 2 ว่าจะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคดีหรือไม่
