การแข่งขันในตลาด Hyper Market หรือ Discount Store ในบ้านเราถือว่าดุเดือดและรุนแรงตลอดทั้งปี มีทั้งผู้เล่นที่ถอนตัวออกไปแล้ว รวมถึงการเปลี่ยนมือเจ้าของ เช่น Big C ที่กลุ่มธุรกิจ TCC Group เข้ามาถือหุ้นหลัก หรือการเข้าถือครอง Makro ของกลุ่ม CP แต่กระนั้น Tesco Lotus ก็ยังคงครองส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดในประเทศไทย ดังนั้นการขยับตัวของเจ้าตลาดจึงเป็นที่จับตามอง รวมถึงการประกาศจุดยืน เดินหน้าลงทุนในไทย
จอห์น คริสตี้ ประธานกรรมการบริหาร Tesco Lotus บอกว่า ปีที่ผ่านมาแม้เศรษฐกิจจะอยู่ในช่วงที่ความท้าทายสำหรับภาคธุรกิจ แต่ Tesco Lotus ยังมียอดขายเติบโตขึ้น มียอดลูกค้าใหม่เข้าห้างประมาณ 2 ล้านราย และมีการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าทางออนไลน์กว่า 25 ล้านรายตลอดเวลา นี่คือ Key ที่ทำให้ Tesco Lotus มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น
ดังนั้นในปีนี้ Tesco Lotus มีแผนลงทุนใน 3 ส่วนของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอกย้ำว่า ไทย คือตลาดธุรกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากอังกฤษของกลุ่ม Tesco นี่คือตลาดที่สำคัญที่สร้างรายได้มาโดยตลอด ซึ่งการลงทุน 3 ส่วนประกอบด้วย
1. การลงทุนเพื่อขยายธุรกิจ แม้ทาง Tesco Lotus จะไม่เปิดเผยตัวเลขที่ชัดเจน และบอกเพียงว่าเป็นเม็ดเงินที่ไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมา แต่ดูจากการลงทุนในอดีต Tesco Lotus ลงทุนเฉลี่ยประมาณ 7,000 ล้านบาทต่อปี อาจเป็นตัวเลขที่ใช้อ้างอิงได้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเอาจริงเอาจังในการลงทุนขยายธุรกิจ ซึ่งประกอบด้วย การเปิดสาขาใหม่ไม่น้อยกว่า 65 แห่ง ทั้ง Tesco Lotus และ Tesco LotusExpress ซึ่งจะเกิดการจ้างงานไม่ต่ำกว่า 3,000 ตำแหน่ง จากปัจจุบันมีการจ้างงานอยู่ 60,000 ตำแหน่งทั่วประเทศ
อีกส่วนคือปรับปรุงสาขาเดิมประมาณ 18 แห่งให้สอดรับกับผู้บริโภคมากขึ้น และเน้นการทำตลาดช่องทางออนไลน์ให้มากขึ้น จากเดิมที่ Tesco Lotus เป็น Hyper Market รายแรกๆ ที่มีบริการส่งสินค้าอาหารสด โดยยังแบ่งเป็น 2 ช่องทางคือ shoponline.tescolotus.com มีสินค้าอุปโภคบริโภค อาหารสด รวมกว่า 20,000 รายการ และช่องทาง Lazada.co.th มีสินค้า Non-Food มากกว่า 8,000 รายการ
2. ลงทุนเพื่อลูกค้า นอกจากโปรโมชั่นที่จัดอย่างสม่ำเสมอแล้ว Tesco Lotus มีการปรับราคาลดลงถาวร เพื่อให้สอดคล้องกับช่วงเศรษฐกิจชะลอ และอาจกระทบกำลังซื้อของผู้บริโภค เช่น สินค้าอาหารสดค้าส่ง ที่ราคาต่ำกว่าคู่แข่ง 25%, สินค้าแม่และเด็ก ซึ่งเป็นสินค้าสิ้นเปลืองและใช้ปริมาณมาก ปรับลดลง 10% สินค้าขนมขบเคี้ยวปรับลดลง 10% เป็นการช่วยลดค่าครองชีพให้กับผู้บริโภค
3. ลงทุนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ดำเนินการผ่านโครงการ เทสโก้ โลตัส ประชารัฐ ร่วมใจ เป็นการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรผ่านการพัฒนาให้ความรู้และรับซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรโดยตรง มีแผนเพิ่มปริมาณเป็น 150,000 ตันต่อปี จากปีที่ผ่านมา 100,000 ตัน เช่น โครงการปลูกผักกลางนา ทุ่งกุลาฯ ยิ้มได้, โครงการรับซื้อลองกองจากชาวสวนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึง Tesco Lotus เป็นช่องทางจำหน่ายสินค้า SME ไทย และรับจ้าง SME ในการผลิตสินค้า OEM
ไตรมาสแรกผ่านไปแล้ว บอกได้ว่าการแข่งขันจะทวีความรุนแรงขึ้นไม่ต่างกับอากาศกลางฤดูร้อนระอุในเวลานี้ การประกาศจุดยืนของ Tesco Lotusเหมือนการออกมาย้ำว่าจะรักษาตำแหน่งผู้นำอย่างเหนียวแน่น ขณะที่ Big C ของกลุ่ม TCC Group ที่ทำให้สินค้าจำนวนมากของเครือ Thaibev มีช่องทางออกตลาดที่อิสระมากขึ้น และ Makro โดยกลุ่ม CP จะมีการเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไป ต้องจับตามองแบบไม่กระพริบ
ข้อมูลทั่วไป Tesco Lotus
-Tesco Lotus มีลูกค้าใช้บริการมากกว่า 15 ล้านคนในแต่ละสัปดาห์
– ลูกค้าที่เพิ่มขึ้น 2 ล้านคนเมื่อปี 58 คือลูกค้าจริงที่มาใช้บริการ ไม่นับรวมการซื้อขายทางออนไลน์
– Tesco Lotus มีจำนวนสาขาทั้งหมด 1,800 แห่งใน 73 จังหวัด
– Tesco Lotus มี 5 รูปแบบ ได้แก่ Extra, Hyper Market, Department Store, ตลาด และ Express