“TikTok Shoppertainment” เทรนด์การค้าพลิกโฉม Retail Landscape ด้วยคอนเทนต์ ผสานคอมเมิร์ซ สร้างประสบการณ์ช้อปไร้รอยต่อ

  • 1.7K
  •  
  •  
  •  
  •  

 

หากย้อนไปเมื่อกว่า 10 – 20 ปีที่แล้ว ในยุคที่อีคอมเมิร์ซเพิ่งเริ่มต้น ใครเลยจะรู้ว่าวันหนึ่ง “ช้อปปิ้งออนไลน์” ก็เป็นเรื่องสนุกได้ ให้ทั้งความบันเทิง และความเพลิดเพลิน มากกว่าแค่เข้ามาเลือกดูสินค้าที่ต้องการ หยิบใส่ตะกร้า กดซื้อ ชำระเงิน แล้วออกจากแพลตฟอร์ม

แต่วันนี้ภาพดังกล่าวเกิดขึ้นจริงแล้ว ด้วยการค้ารูปแบบใหม่ที่เรียกว่า Shoppertainment” เป็นการหลอมรวมระหว่าง “Entertainment” กับCommerce” เข้าด้วยแล้ว โดยมี TikTok” ปักธงผู้นำ Shoppertainment ที่ผสานคอนเทนต์ความบันเทิงกับการค้า ด้วยโมเดลEntertainment first, Commerce second” คือ ใช้คอนเทนต์ความบันเทิงนำ แล้วตามด้วยการขาย ทำให้ผู้บริโภคค้นพบสินค้าใหม่อยู่เสมอ และสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่อ

เป็นที่จับตากันว่าการเกิดขึ้นของ Shoppertainment จะพลิกโฉม Retail Landscape ทั่วโลก ไม่ว่าจะช้อปผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ หรือในรูปแบบ O2O (Online to Offline) และสร้างโอกาสมหาศาลให้กับธุรกิจต่างๆ พร้อมทั้งเปลี่ยนพฤติกรรมการช้อปของผู้คน

จากรายงานวิจัย Future of Commerce โดยความร่วมมือระหว่าง TikTok และ Boston Consulting Group (BCG) คาดการณ์ว่าในปี 2025 มูลค่า Shoppertianment ในภูมิภาคเอเชีแปซิฟิก จะพุ่งทะยานถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และในประเทศไทยจะอยู่ที่ 12.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ยิ่งในช่วงเทศกาล Mega Sales” ที่จัดขึ้นในวัน Double Day ไม่ว่าจะเป็น 9.9, 10.10, 11.11 และ 12.12 เป็นช่วงเวลาการช้อปแห่งปีของผู้บริโภคที่แบรนด์ไม่ควรพลาดโอกาสการขายนี้ โดยนำโมเดล Shoppertainment พร้อมด้วยเครื่องมือครีเอทีฟและโซลูชั่นการขายของ TikTok มาปรับใช้ในการเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย และปิดการขายได้สำเร็จ!

มาค้นคำตอบกันว่าทำไม “Shoppertainment” จึงเป็นโมเดลการค้าแห่งยุค ทั้งในวันนี้และอนาคต พร้อมเจาะลึก Consumer Insights เกี่ยวกับการช้อป รวมทั้งข้อมูลเชิงลึก Mega Sales และโซลูชั่นการขายบน TikTok เพื่อให้แบรนด์เตรียมความพร้อมเข้าสู่ยุค Shoppertainment อย่างเต็มรูปแบบ

 

ทำความรู้จัก “Shoppertainment” การค้าแห่งยุคที่จะพลิกโฉม Retail Landscape

Shoppertainment คือ การค้ายุคใหม่ที่ผสานระหว่าง “ความบันเทิง” (Entertainment) กับ การค้า” (Commerce) เข้าด้วยกันอย่างลงตัว นำเสนอผ่านคอนเทนต์ความบันเทิง ที่ให้ทั้งความสนุก หรือสอดแทรกด้วยความรู้/คำแนะนำ เพื่อสร้าง Emotional Connection หรือการเชื่อมต่อทางอารมณ์กับผู้บริโภค ทำให้ผู้บริโภคเกิดประสบการณ์ที่ดี แล้วนำไปสู่การขาย ซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น

รายงานวิจัย Future of Commerce คาดการณ์ว่า Shoppertainment จะนำมาซึ่งโอกาสทางธุรกิจกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และสำหรับประเทศไทยมีโอกาสเติบโตสูงถึง 12.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2025

มูลค่าทางธุรกิจดังกล่าว ตอกย้ำให้เห็นว่า Shoppertainment จะพลิกโฉม Retail Landscape ทั้งในฝั่งผู้ขาย และฝั่งผู้ซื้อให้สะดวกขึ้น ง่ายขึ้น และทำให้การซื้อขายเป็นไปด้วยความสนุก

 

 

เปิดอินไซต์นักช้อป ทำไม Shoppertainment มีผลต่อการตัดสินใจซื้อ ?

ทุกวันนี้พฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคซับซ้อนขึ้น และ demanding มากขึ้น ดังนั้นหัวใจสำคัญคือ ทำอย่างไรให้ผู้บริโภคตัดสินใจได้ทันที ได้ง่ายขึ้น หนึ่งในกลยุทธ์คือ Shoppertainment ด้วยการสร้างสรรค์คอนเทนต์ความบันเทิงให้สนุกน่าสนใจ เพื่อทำให้ผู้ชมเกิดประสบการณ์ที่ดี ก่อนปิดการขาย

– 77% ของผู้บริโภคซื้อสินค้าจากอิทธิพลของคอนเทนต์ความบันเทิงที่สร้างความสนุกสนาน

– 2 ใน 3 ของผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าครั้งแรกจากความต้องการทางจิตใจ (Emotional Demands)

 

 

Shoppertainment จึงเป็นรูปแบบการค้าที่สำคัญ เพราะผู้บริโภคคาดหวังเนื้อหาที่เป็นประโยชน์กับตัวเขาเอง ไม่ว่าจะในมิติความบันเทิง ความสนุก หรือความสนุกสอดแทรกสาระความรู้ ขณะที่เมื่อก่อนแบรนด์มักแทรกเนื้อหาขายของเข้าไป แต่ผู้บริโภครู้สึกว่าแบรนด์ยัดเยียดการขายมากเกินไป โดยผลวิจัย Future of Commerce ระบุว่า

– 6 ใน 10 ของผู้บริโภคบอกว่าการรับชมคอนเทนต์ของแบรนด์ (Branded Content) ไม่ได้กระตุ้นให้ต้องการซื้อสินค้า

– 34% ของผู้บริโภคกดข้ามคอนเทนต์ของแบรนด์ (Branded Content) และพวกเขาไม่ซื้อสินค้าเหล่านั้น

 

 

จากพันธกิจของ “TikTok” มุ่งส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และแบ่งปันความสุขให้กับผู้คนในทุกวัน ด้วยแพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสให้กับผู้คนได้ใช้พื้นที่แห่งนี้แบ่งปันความคิดเห็น หรือเรื่องราวต่างๆ ให้กับชุมชนบน TikTok โดยมีผู้ใช้เข้าถึงแพลตฟอร์มกว่า 325 ล้านคนในแต่ละเดือน และให้การสนับสนุนภาคธุรกิจกว่า 15 ล้านธุรกิจทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการค้ารูปแบบ “Shoppertainment” ที่ผสานระหว่าง “Entertainment first, Commerce second” คือ ใช้คอนเทนต์ความบันเทิงเป็นตัวนำ แล้วตามด้วยการขาย

ทำให้ผู้บริโภคไม่รู้สึกว่าแบรนด์ยัดเยียดการขายจนเกินไป! หากแต่กลับกัน เป็นการสร้างประสบการณ์ความบันเทิงให้กับผู้ชมได้รับทั้งความสนุก ผ่อนคลาย และได้ช้อปสินค้าในเวลาเดียวกัน

– 70% ของผู้บริโภคเชื่อในคอนเทนต์บน TikTok นำไปสู่การตัดสินใจซื้อ

– 1 ใน 4 ของผู้ใช้ TikTok พิจารณาซื้อสินค้าบน TikTok Shop เพราะคอนเทนต์ความบันเทิง เรียล รีวิวจริง ทั้งจากครีเอเตอร์ ผู้มีชื่อเสียง แบรนด์ และผู้ใช้จริง

 

 

Mega Sales” เทศกาลช้อปแห่งปีที่ผู้บริโภคเฝ้ารอ – แบรนด์ไม่ควรพลาดโอกาสการขาย

TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่มี Community ขนาดใหญ่ และผู้คนชอบแบ่งปันประสบการณ์ ความบันเทิง ความรู้ หรือคำแนะนำต่างๆ จนเกิดการส่งต่อในวงกว้าง ซึ่งความบันเทิงบนแพลตฟอร์ม TikTok ทำให้ผู้คนได้ค้นพบสินค้าใหม่ๆ โปรโมชั่นส่งเสริมการขาย และคอนเทนต์ส่งเสริมการขายรูปแบบใหม่อยู่เสมอ จนอาจกล่าวได้ว่า TikTok คือแพลตฟอร์มที่จุดกระแสวัฒนธรรม “ป้ายยา” ขยายไปทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทยด้วยเช่นกัน ผ่าน hashtag ยอดนิยม

#TikTokMakeMeBuyIt ที่มียอดการรับชมกว่า 6 หมื่นล้านครั้งทั่วโลก

#TikTokป้ายยา ในประเทศไทย ที่มียอดการรับชมกว่า 1.5 พันล้านครั้ง

 

 

ขณะเดียวกันบนแพลตฟอร์ม TikTok มี TikTok Shop” อีคอมเมิร์ซโซลูชั่นที่เปิดโอกาสให้ร้านค้าสามารถขายสินค้าบนแพลตฟอร์ม เป็นการผสานช่องทางการซื้อเข้าไว้ด้วยกันให้ครบจบในที่เดียว เพื่อสร้าง “เส้นทางการค้าพบสินค้าจนถึงการซื้อสินค้า” (Closed-loop Journey from Discovery to Purchase) มีความลื่นไหล และส่งมอบ “ประสบการณ์การช้อปปิ้งไร้รอยต่อ” (Shopping Seamless Experience) ให้กับผู้ใช้

นั่นหมายความว่าบนหน้า For You Page ของผู้ใช้ TikTok ทุกคน จะนำไปสู่การค้นพบสิ่งใหม่ที่ผู้ใช้คนๆ นั้นสนใจ ไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์วิดีโอจากครีเอเตอร์ คอนเทนต์จากแบรนด์ที่นำเสนอลูกเล่นสุดครีเอท โปรโมชั่นสุดพิเศษ หากคอนเทนต์นั้นติด Product Tag ผู้ใช้กดเข้าไปดูสินค้านั้นได้ทันที และกด Add to cart หรือกด Buy Now ได้ทันที หรือหากคอนเทนต์นั้นไม่ได้ติด Product Tag ผู้ใช้ก็สามารถค้นหาสินค้าจาก Search Tab เมื่อเจอสินค้าที่ต้องการซื้อ เพียงแค่กด Add to cart หรือกด Buy Now นอกจากนี้ใน TikTok Shop ยังช่วยให้ผู้ใช้ค้นพบสินค้าต่างๆ จากหลากหลายแบรนด์ เลือกดู เลือกช้อปกันอย่างจุใจ

 

 

 

ผลสำรวจของ Toluna เผยว่า 97% ของผู้ใช้ TikTok ในประเทศไทยตัดสินใจกด Add to Card หรือซื้อสินค้าหลังรับชมโฆษณาบน TikTok

 

โดยรูปแบบคอนเทนต์บน TikTok ที่กระตุ้นให้คนกด Add to Cart

– ข้อเสนอแบบจำกัดเวลา 56%

– ครีเอเตอร์รีวิวและทดลองสินค้า 52%

– ครีเอเตอร์ทำการ Livestream 50%

– แบรนด์สาธิตการใช้ผลิตภัณฑ์ 49%

– ครีเอเตอร์สาธิตการใช้ผลิตภัณฑ์ 48%

– แบรนด์ทำการ Livestream 47% 

ยิ่งเวลานี้ใกล้เทศกาล “Mega Sales” ครั้งใหญ่บน TikTok ได้แก่ 9.9 ในเดือนกันยายน, 10.10 เดือนตุลาคม, 11.11 เดือนพฤศจิกายน และส่งท้ายด้วย 12.12 เดือนธันวาคม ซึ่งเดือนนี้มีทั้ง Double Day และเทศกาล Black Friday หรือ Cyber Monday เป็นช่วงเวลาแห่งการช้อปที่ผู้บริโภครอคอย และมองหาข้อเสนอ – โปรโมชั่นที่ดีที่สุดจากแบรนด์ จึงเป็นช่วงเวลาที่ผู้ใช้ TikTok พร้อมจับจ่ายมากขึ้น

– ผลวิจัยชี้ว่าผู้ใช้ TikTok มีความพร้อมที่จะใช้จ่ายในเทศกาล Mega Sales สูงกว่าผู้ที่ไม่ได้ใช้งานTikTok ถึง 3.5 เท่า หรือคิดเป็นจำนวนเงินเฉลี่ยอยู่ที่ 10,000 – 17,600 บาท

ดังนั้น เทศกาล Mega Sales เป็นช่วงเวลาที่แบรนด์ควรคว้าโอกาสในการเข้าถึงผู้บริโภค และสร้างการเติบโตด้านยอดขาย

 

จากข้อมูลสถิติ Mega Sales ปี 2022 ของ TikTok พบว่า 80% ของนักช้อปซื้อสินค้าบน TikTok Shop โดยกลุ่มสินค้าที่ผู้ใช้ TikTok ประเทศไทยนิยมซื้อจาก TikTok Shop คือ

– 55% สินค้าแฟชั่นและเครื่องประดับ

– 46% สินค้าความงามและดูแลร่างกาย

– 40% อาหารและเครื่องดื่ม

– 34% สินค้าอิเล็กทรอนิกส์

– 29% สินค้าสุขภาพและออกกำลังกาย

– 24% สินค้าดูแลบ้าน

– 23% สินค้าดิจิทัล

– 23% เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน

 

 

 

ปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนการซื้อสินค้าของผู้ใช้ TikTok ในช่วงเทศกาล Mega Sales ครั้งใหญ่ ประกอบด้วย

– 67% จัดส่งฟรี

– 61% คูปองและส่วนลด

– 40% สามารถชำระเงินสดปลายทาง (COD)

– 35% สินค้าเป็นที่ชื่นชอบ หรือได้รับความเห็นเชิงบวกใน Social Media

– 35% มีรีวิวจากลูกค้าอื่น

 

 

ขณะที่ในปี 2023 พบว่านักช้อปวางแผนก่อนถึงวัน D-Day (Double Day / Mega Sales) เพราะฉะนั้นแบรนด์ควรเตรียมความพร้อมรับความต้องการลูกค้า

– 6 ใน 10 ของผู้ใช้ TikTok เริ่มสะสมคูปองส่วนลดออนไลน์ ดังนั้นแบรนด์ควรเริ่มปล่อยคูปองส่วนลด

– 71% เปรียบเทียบราคาบนเว็บไซต์ต่างๆ / ช้อป เพื่อหาส่วนลดที่ดีที่สุด

– 52% ค้นหาข้อมูลสินค้าที่ต้องการซื้อ

– 44% เลือกสินค้าที่ต้องการซื้อใส่ไว้ในตะกร้าออนไลน์ (Add to Cart) เตรียมไว้ก่อน เมื่อถึงวัน D-Day / Mega Sales จะได้ไม่พลาดส่วนลด หรือดีลดีๆ

– 39% อ่านรีวิวเกี่ยวกับสินค้าที่เขาต้องการซื้อ

 

โดย 2 ปัจจัยหลักที่มีอิทธิพลต่อผู้ใช้ TikTok ไทย ซื้อสินค้าบน TikTok Shop สำหรับช่วงเทศกาล Mega Sales 2023

– 71% โปรโมชั่น และดีลพิเศษ

– 63% ประสบการณ์การช้อปแบบไร้รอยต่อ

 

  

แบรนด์สร้างสรรค์คอนเทนต์ด้วย Creative Framework “3R” และ “TikTok Ad Solutions” ดันยอดขายสุดปัง!

เมื่อ TikTok คือ พื้นที่ที่ผสาน “คอนเทนต์” กับ “การค้า” เป็นหนึ่งเดียว ดังนั้นเพื่อให้ภาคธุรกิจสามารถใช้ TikTok เป็น Full Funnel Marketing ครบลูปตั้งแต่การสร้าง Awareness, Consideration ไปจนถึง Conversion จึงได้ได้พัฒนาโซลูชั่นสำหรับแบรนด์ ทั้ง Creative Framework 3R และ TikTok Ad Solutions ซึ่งในช่วงเทศกาล Mega Sales เป็นโอกาสที่ดีที่แบรนด์ได้ทดลองนำโซลูชั่นต่างๆ เหล่านี้ไปทดลองปรับใช้ในการเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย และสร้างการเติบโตด้านยอดขาย

 

– Creative Framework “3R” เพื่อให้แบรนด์ใช้สร้างสรรค์คอนเทนต์วิดีโอบน TikTok

  • Recut: การนำวิดีโอของแบรนด์ เช่น TVC มาตัดต่อใหม่ให้เป็น Vertical และสั้นลง เพื่อเหมาะกับแพลตฟอร์ม TikTok และ Target Audience
  • Remix: การนำวิดีโอ หรือ Asset ความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ ของแบรนด์ มาต่อยอด ให้ครีเอเตอร์สร้างสรรค์เป็นคอนเทนต์ขึ้นใหม่ในสไตล์ TikTok
  • Reimagine: การสร้างสรรค์คอนเทนต์ของแบรนด์ในมุมมองใหม่ ผ่านการใช้ฟีเจอร์ของ TikTok เช่น Branded Effects, Interactive Add-ons, TikTok Live เพื่อครีเอทคอนเทนต์ความบันเทิงที่เพิ่ม Engagement ได้มากขึ้น

 

 

– TikTok Ad Solutions สร้าง Seamless Touchpoint ให้ผู้บริโภคช้อปแบบไร้รอยต่อ

  • Live Shopping Ads (LSA): เป็น Live Video แสดงบน For You Page ของผู้ใช้ Tiktok ซึ่งจุดเด่นของ LSA คือ ช่วยสร้าง Engagement และปฏิสัมพันธ์กับผู้ชมได้ดี ผู้ชมสามารถสอบถามรายละเอียดสินค้า หรือคำแนะนำกับ Live Streamer ได้แบบเรียลไทม์ และสามารถกดเข้าไปดู​ Product Catalog เพื่อดูสินค้า จากนั้นลูกค้าเลือกกด Add to Cart ไว้ก่อนได้ หรือกด Buy Now ได้ทันที แล้วเลือกชำระเงิน

 

 

  • Video Shopping Ads (VSA): เป็นวิดีโอโฆษณาที่แสดงบน For You Page ของผู้ใช้งาน TikTok เมื่อลูกค้าสนใจ กดเข้าไปดู Product Catalog เพื่อดูสินค้า เมื่อต้องการสินค้า เพียงแค่กด Add to Cart ไว้ก่อน หรือกด Buy Now เพื่อสั่งซื้อสินค้า จากนั้นเลือกชำระเงิน

 

 

  • Search to Shop: ตอบโจทย์ผู้ใช้ TikTok ที่ดูคอนเทนต์แล้ว สนใจสินค้า แต่ในคอนเทนต์นั้นไม่ได้มี Product Tag ก็เข้าไปที่ Search Tab โดยใส่คีย์เวิร์ด เช่น ประเภทสินค้า, ชื่อแบรนด์ เมื่อเจอสินค้าที่ต้องการ กด Add to Cart หรือ Buy Now จากนั้นเลือกชำระเงิน

การออกแบบ Seamless Touchpoint ดังกล่าว ทำให้ขั้นตอนการซื้อขายบน TikTok ไม่เพียงแต่ตอบโจทย์ความสนุก ความบันเทิงให้กับนักช้อปเท่านั้น แต่ยังสร้างสะดวก ง่ายดาย เพียง 3 คลิก กดเลือกสินค้า – กดซื้อ – กดชำระเงิน สินค้าก็จัดส่งถึงบ้าน หรือปลายทางที่ระบุไว้

 

 

กรณีศึกษาแบรนด์เพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงลูกค้า และสร้างยอดขายด้วยโซลูชั่นจาก TikTok

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นในการทำ Seamless Touchpoint เช่น

Sabina (ซาบีน่า) ทำ Live Shopping Ads (LSA) ในช่วงเทศกาล Mega Sales 11.11 เพิ่มประสิทธิภาพทั้ง Product Click, Viewer Retention และ Complete Payment

ผลลัพธ์ที่ได้คือ ROAS (Return on Advertising Spend) ทั้งลูกค้าคลิกเข้าไปดูสินค้า กดซื้อสินค้า และกดชำระเงินสูงขึ้น 8.14 เท่า ขณะเดียวกันมูลค่าการสั่งซื้อสินค้า (Average Order Value) สูงขึ้น 23%

 

 

Maybelline (เมย์เบลลีน) ใช้ประโยชน์จาก Video Shopping Ads (VSA) เพื่อทำให้ผู้ใช้ TikTok ค้นพบผลิตภัณฑ์ Maybelline มากขึ้น และซื้อสินค้าจาก TikTok Shop เพิ่มขึ้น โดยมีการเลือก Audience Targeting ที่ตรงกับแบรนด์​ และทำ Retarget ผู้บริโภคที่เคย interact กับแบรนด์ แต่ยังไม่ได้กดซื้อสินค้า กลับมากด Add to Cart หรือกด Buy Now

ผลลัพธ์ที่ได้คือ ROAS (Return on Advertising Spend) เพิ่มขึ้น 3.3 เท่า ขณะที่ Conversion Rate เพิ่มขึ้น 40% และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย (Audience Reached) มากกว่า 503 แสนคน

 

 

– FreshDoze (เฟชรโดส) ผลิตภัณฑ์คอลลาเจน เป็นกรณีศึกษาตัวอย่างแบรนด์ที่ทำคอนเทนต์วิดีโอบน TikTok และสามารถสร้าง Impact การขายรูปแบบ O2O ได้สำเร็จ

โดย FreshDoze มองว่า TikTok เป็นช่องทางที่มีศักยภาพมากที่สุดในการนำพาลูกค้าไปซื้อผลิตภัณฑ์จากช่องทางร้านสะดวกซื้อ ทางแบรนด์จึงทำคอนเทนต์วิดีโอแบบเรียล และใช้เครื่องมือครีเอทีฟของ TikTok ทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้เพิ่มขึ้น 50% รวมทั้งสามารถเพิ่มยอดขายช่องทางออฟไลน์ 40% ทั่วประเทศ และ CPM (ต้นทุนต่อการแสดงผลโฆษณา 1,000 ครั้ง) ประสิทธิภาพดีขึ้น 23%

 

 

3 บทสรุปเทรนด์ Shoppertainment

  1. จากพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคที่ซับซ้อนขึ้น มองหาแรงบันดาลใจ และความบันเทิงต่างๆ ในการช้อป แสดงให้เห็นว่า Shoppertainment” จะเป็น The Next Big Thing ของการค้าที่สร้างโอกาสมหาศาลให้กับแบรนด์ ด้วยมูลค่าตลาด 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในเอเชียแปซิฟิก และประเทศไทย 12.4 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2025
  2. TikTok เป็นแพลตฟอร์มความบันเทิงที่ผสาน Content กับ Commerce เข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ และยังมี TikTok Shop และ Ads Solutions จึงตอบโจทย์แบรนด์ทั้ง Full Funnel Marketing พร้อมสร้างประสบการณ์การช้อปให้ลูกค้าอย่างราบรื่น
  3. เทศกาล Mega Sales เป็นโอกาสดีสำหรับแบรนด์ เพราะเป็นช่วงเวลาที่ผู้บริโภคพร้อมจับจ่าย ค้นหาโปรโมชั่น หรือดีลสุดพิเศษ แบรนด์ควรใช้ช่วงเทศกาลการช้อปนี้ ทดลอง เรียนรู้ ปรับใช้เครื่องมือและโซลูชั่นที่หลากหลายของ TikTok เพื่อเข้าถึงนักช้อป และเพิ่มยอดขาย

ดังนั้นแบรนด์ควรเข้าร่วมเปิดร้านบน TikTok Shop หรือหากเปิดร้านบน TikTok Shop อยู่แล้ว จะเพิ่มโอกาสในการเร่งสปีดการเติบโต ทั้งการขยายฐานลูกค้า ยอดขาย และยอด Traffic ลูกค้าเข้าเยี่ยมชมร้านค้าออนไลน์ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล Mega Sales ใกล้จะถึงนี้ ควบคู่กับการใช้เครื่องมือครีเอทีฟและโซลูชั่นการขายของ TikTok ในการทำ Full Funnel Marketing ครอบคลุมตั้งแต่ Awareness ผ่านการค้นพบบน For You Page ของผู้ใช้ ไปจนถึงขั้นตอนการซื้อ เพื่อสร้าง Seamless Shopping Experience ให้กับลูกค้า

 


  • 1.7K
  •  
  •  
  •  
  •