ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา บ้านเรามี Co-Working เกิดขึ้นใหม่หลายแห่งทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด มีการคาดการณ์ว่าคาดการณ์ว่าในปีนี้ทั่วทั้งโลกจะมี Co-Working ทั้งหมด 17,725 แห่ง จากปีที่แล้ว 14,411 แห่งซึ่งเติบโตขึ้นถึง 20% และภายในปี 2022 จะมีมากถึง 30,432 แห่ง แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมการทำงานของคนรุ่นใหม่เปลี่ยนไป ไม่ต้องการอยู่ในกรอบเดิมๆ แต่ต้องการพื้นที่ที่กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ และให้อิสระในเรื่องเวลา เมื่อมีผู้เล่นรายใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็เป็นธรรมดาที่ต้องมีผู้จากไป
คุุณกวิน ว่องกุศลกิจ กรรมการผู้จัดการ และผู้ก่อตั้งโกลว์ฟิช เผยว่า บางคนมีอาคาร-สำนักงานให้เช่า แต่เมื่อไม่มีคนเช่า ก็ปรับพื้นที่ส่วนนั้นให้เป็น Co-Working ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ผิด เพราะนอกจากจะไม่ได้คนแล้ว ยังสูญเงินไปเปล่าๆ หากต้องการลุยธุรกิจ Co-Working จริงๆ ต้องทำสถานที่ให้เป็นมากกว่าที่ทำงาน สร้างคอมมูนิตี้ และตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าให้ได้
ความเข้าใจของคนไทย มักคิดว่ามีแค่ Startup เท่านั้นที่ใช้บริการ Co-Working ในความเป็นจริงทุกคนสามารถใช้บริการได้ ตั้งแต่บุคคลทั่วไป ผู้ประกอบการ SME บริษัทขนาดเล็ก-กลาง-ใหญ่ ซึ่งนี่เป็นโอกาสในการทำธุรกิจที่มองข้ามไม่ได้
Glowfish ไม่ใช่ Co-Working แต่เป็น Lifestyle Work Space
หนึ่งในข้อดีของการทำงาน Co-Working คือคุณจะได้พบผู้คนจากหลากหลายธุรกิจ ที่อาจต่อยอดธุรกิจของคุณได้ในอนาคต ดังนั้นการดึงดูดผู้ใช้ให้มาใช้บริการจึงเป็นส่วนสำคัญของธุรกิจ Co-Working ทางฝั่งโกลว์ฟิช จึงได้พลิกโฉมพื้นที่ย่านสาธรกว่า 4,000 ตรม. จากสำนักงานเช่า สู่แนวคิด พื้นที่ทำงานร่วมกันแบบไร้กรอบ ก้าวสู่การเป็น Lifestyle Work Space ที่ควบรวมออฟฟิสสำเร็จรูป และธุรกิจด้านไลฟ์สไตล์เข้าไว้ด้วยกัน โดยใช้งบลงทุนกว่า 600 ล้านบาท
ความแตกต่างของโกลว์ฟิช จาก Co-working space อื่นๆ ก็คือการสร้างระบบนิเวศการทำงาน หรือ Ecosystem ให้เป็นพื้นที่ทำงานที่ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจขนาดเล็ก และขนาดกลาง ในการสร้าง เครือข่ายระหว่างกัน ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจสร้างความแตกต่าง เพิ่มโอกาสในการเติบโตและพัฒนาไปอย่างเข้มแข็ง เพื่อเสริมศักยภาพการแข่งขันในตลาดให้มากขึ้น ด้วยการ(WORK) อย่างมืออาชีพและ มีประสิทธิภาพ ท่ามกลางบรรยากาศความสนุก (PLAY) พร้อมจุดความสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจ เอื้อให้เกิดการสร้างคอมมูนิตี้ และคอนเนคติวิตี้ (GROW) เพื่อต่อยอดธุรกิจให้เติบโตแบบออร์แกนิค และยั่งยืนให้แก่กัน
คุณกวิน เผยว่า เราไม่เรียกที่นี่ว่า Co-Working แต่เป็นคอมมูนิตี้ + ไลฟ์สไตล์ ที่รองรับเทรนด์การทำงานของคนรุ่นใหม่ยุค 4.0 ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตควบคู่กับการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ เพื่อสร้างความแตกต่างให้ โกลว์ฟิช สาขาสาธร ซึ่งเป็นสาขาที่มีคอนเซปต์ชัดเจนที่สุด โดยสัดส่วนลูกค้าไทยและต่างชาติใกล้เคียงกัน
ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์เติมเต็มไลฟ์สไตล์
การประกาศว่าเป็น Lifestyle Work Space ของโกลว์ฟิช ครอบคลุมทุกเรื่องของการใช้ชีวิตประวัน เริ่มจากโซนสันทนาการที่ตอบโจทย์ Work-Life Balance ด้วยฟิตเนสระดับโลก Physique 57 และ Base อีกทั้งยังมีร้านอาหารไทย ญี่ปุ่น และฟิวชั่นส์อย่าง Kuppadeli ในส่วนของความบันเทิงบริษัทฯ ได้ร่วมมือกับฟังใจ, Joox และ Event pop ในการจัดอีเว้นท์ต่างๆ
ปัจจุบันโกลว์ฟิส สาขาสาธร มีผู้เช่าเต็มที่พื้นที่ทั้ง 26 ยูนิตแล้ว โดยขนาดห้องเล็กที่สุดเริ่มต้น 14 ตร.ม และใหญ่สุด 30 ตร.ม ซึ่งให้เช่าระยะยาวตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป