กรณีศึกษา 5 องค์กรชั้นนำ กับกลยุทธ์ CSR เพื่อความยั่งยืน  

  • 4.1K
  •  
  •  
  •  
  •  

ในยามเกิดปัญหาหรืออยู่ในภาวะวิกฤต เราจะได้เห็นหลายองค์กรจากหลากหลายธุรกิจที่ได้ออกมาแสดงพลังให้ความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ผ่านโครงการ CSR และจะดีมากแค่ไหนหากโครงการเหล่านั้นจะถูกต่อยอดและมีการดำเนินต่อเนื่อง เพื่อช่วยแก้ไขปัญหา พัฒนาชุมชน และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคมให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

เหมือนเช่นองค์กรชั้นนำที่เราขอยกขึ้นมานำเสนอในวันนี้ ซึ่งไม่เพียงกำหนดการรับผิดชอบต่อสังคมและการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมให้เป็นหัวใจของการขับเคลื่อนองค์กร ประเด็นที่น่าสนใจไปกว่านั้น ก็คือ โครงการต่าง ๆ ที่ทำไม่ได้สนับสนุนและส่งเสริมเพียงในระยะสั้น หรือแค่ทำตามกระแส แต่เป็นการ ‘สร้าง’ และ ‘ให้’ โอกาสในการพัฒนาและยกระดับทั้งสังคม สิ่งแวดล้อม และคน แบบยั่งยืน หรือ sustainable ในระยะยาว

 

เครือซีพี ขับเคลื่อนผ่านทุกส่วน

 

เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือเครือซีพี เป็นองค์กรใหญ่ที่วางนโยบายด้าน CSR เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญที่จะมีการดำเนินการผ่านบริษัทในเครือทั้งหมด และทำในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนเงินทุน, การทำโครงการต่าง ๆ ที่ยกระดับสังคมและความเป็นอยู่ของคนทั้งด้านการศึกษา ด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงพัฒนาชุมชนในองค์รวม

อย่างช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ทางเครือซีพีได้บริจาคเงินสนับสนุนและเครื่องมือทางการแพทย์ ตลอดจนใช้เงิน 100 ล้านบาทในการสร้างโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยมอบให้เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และโรงพยาบาลต่าง ๆ สำหรับใช้ต่อสู้กับโควิด-19 เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายโครงการน่าสนใจจากบริษัทในเครือ เช่น บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF กับโครงการ ‘เลี้ยงไก่ไข่’ ที่ทำมากว่า 30 ปี เพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนทั่วประเทศเข้าถึงการบริโภคไข่ไก่อย่างเพียงพอ รวมถึงเป็นแหล่งเรียนรู้ที่เด็กและเยาวชนไทยสามารถนำประสบการณ์การเรียนรู้เลี้ยงไก่ไข่ไปประกอบอาชีพได้ในอนาคต, โครงการ ‘กองทุนซีพีเอฟ คืนสุข ผู้สูงวัย’ สร้างสังคมไทยเป็นสังคมของการเอื้ออาทร กตัญญูรู้คุณ และส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้สูงอายุ

บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด(มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และ เซเว่น เดลิเวอรี่ กับโครงการ ‘คนไทยไม่ทิ้งกัน’ ในการส่งมอบสิ่งของที่จำเป็นชุดอุปโภคบริโภคกับผู้ได้รับผลกระทบจากวิกฤตต่าง ๆ เป็นต้น

 

คิง เพาเวอร์พลังแห่งการให้และหนุนศักยภาพคนไทย สู่เวทีโลก

 

หลายองค์กรอาจทำ CSR ระดับในประเทศ แต่ด้วยความเชื่อของ ‘คิง เพาเวอร์’ (KING POWER) ที่เชื่อว่า ศักยภาพของคนไทยไม่แพ้ชาติใด จึงให้การสนับสนุนและส่งเสริมโครงการเพื่อสังคม ภายใต้คอนเซปต์ ‘คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย’ ที่ไม่เพียงเดินหน้าสนับสนุนและส่งเสริมให้คนไทยได้แสดงความสามารถในประเทศเท่านั้น ยังต่อยอดไปสู่เวทีระดับโลก ซึ่งมีองค์กรไม่มากนักที่สามารถทำแบบนี้ได้

สำหรับโครงการเพื่อสังคมของคิง เพาเวอร์ โฟกัสใน 3 ด้านหลักที่ถือเป็นรากฐานในการพัฒนาอย่างยั่งยืน  เป็นโครงการตัวอย่างที่ชัดเจนด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ที่มีผลต่อการพัฒนาศักยภาพของคนไทย ตลอดระยะเวลากว่า 4 ปี ได้แก่ ด้านกีฬา, ด้านดนตรี และด้านชุมชน โดยทั้ง 3 ด้านนี้ทาง คิง เพาเวอร์ ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องและครอบคลุมในทุกระดับ เริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ ตั้งแต่ระดับชาวบ้าน ชุมชน โรงเรียน จังหวัด ในประเทศ และต่อยอดไปสู่ระดับโลก

หากจะเอ่ยถึงกิจกรรมที่เป็นที่กล่าวถึงมากที่สุด นั่นคือ โครงการล้านลูก ล้านพลัง สร้างฝันเด็กไทย ที่ตั้งเป้ามอบลูกฟุตบอลมาตรฐานให้กับเยาวชนทั่วทั้งประเทศจำนวน 1 ล้านลูก มุ่งหน้าสู่ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เน้นคอนเซ็ปต์ ไปไกลกว่าเดิม! ส่งลูกฟุตบอลถึงมือเด็ก ๆ ในถิ่นทุรกันดารบนพื้นที่ห่างไกลจากเหนือจรดใต้ ตามมาด้วยการสร้างสนามฟุตบอลหญ้าเทียมมาตรฐานสากล อีก 100 สนาม! ในโครงการ 100 สนามฟุตบอล สร้างพลังเยาวชนไทย โดยมอบให้กับโรงเรียน หรือชุมชนที่ขาดแคลน ให้มีพื้นที่ฝึกฝน และใช้เป็นพื้นที่เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของชุมชนได้อีกด้วย ความฝันของนักเตะไทยรุ่นจิ๋วอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว! นอกจากนี้ ยังมีโครงการส่งนักเตะรุ่นเยาวชนไทย Fox Hunt ไปเข้าอะคาเดมีไกลถึงเมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ซึ่งน้องๆ จะได้มีโอกาสเรียนรู้ และฝึกทักษะการเตะฟุตบอลแบบมืออาชีพกับสโมสรระดับพรีเมียร์ลีกอย่างเลสเตอร์ ซิตี้ ทั้งหมดนี้ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ และไม่ต้องใช้ทุนคืน!

สำหรับด้านดนตรี คิง เพาเวอร์ ได้ขยายโอกาสสู่วงกว้างด้วยเสียงดนตรีในการแสดงศักยภาพเพิ่มมากขึ้น จากเวทีประกวดวงดุริยางค์เครื่องเป่าการประกวดที่มีมาตรฐาน มีกรรมการตัดสินที่มีชื่อเสียงระดับโลก ล่าสุด! ได้ต่อยอดความสำเร็จก้าวไปอีกขั้น ปั้นเวทีประกวดวงดนตรีภายใต้ชื่อ โครงการ THE POWER BAND เวทีประกวดวงดนตรีสากลสมัยนิยมผสมเครื่องเป่า เป็นวงดนตรีคุณภาพในอนาคต

ปิดท้ายด้วย ด้านชุมชน’ ซึ่ง คิง เพาเวอร์ เปิดโอกาสให้สินค้าไทยไม่ว่าจะเป็นสินค้าหัตถกรรม อาหาร ขนม และของที่ระลึกได้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวต่างชาติ โดยเข้ามาสนับสนุนชุมชนในเรื่องการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ พัฒนาสินค้า และตอบโจทย์กับตลาดต่างประเทศไปด้วยกัน เพื่อสานต่อเจตนารมณ์ในการช่วยเหลือชุมชนให้สร้างอาชีพได้อย่างยั่งยืนและเพื่อนำเสนอสินค้าจากภูมิปัญญาของคนไทยให้แพร่หลายสู่นานาประเทศ

‘คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย’ โครงการเพื่อสังคมโดยกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ไม่เพียงสะท้อนความสำเร็จจากการพัฒนาและยกระดับสังคมให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืนเท่านั้น ยังมีรางวัลระดับนานาชาติเป็นเครื่องการันตี โดยคว้ารางวัลด้าน Social Empowerment หรือ การสร้างความเข้มแข็งให้สังคมจากงานประกาศรางวัล ‘Asia Responsible Enterprise Awards’ หรือ AREA  ถึง 2 ปีติดต่อกัน คือ ปี 2019-2020 ซึ่งรางวัลนี้ Enterprise Asia องค์กรอิสระที่สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพทางเศรษฐกิจ และสังคมแบบองค์รวมในเอเชีย และมุ่งส่งเสริมการพัฒนาความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรต่างๆ ในภูมิภาคเป็นผู้จัดขึ้น โดยแต่ละปีมีโครงการส่งเข้าร่วมกว่า 200 โครงการ จาก 19 ประเทศในภูมิภาคเอเชีย และรางวัลจากเวที ดีเอฟเอ็นไอ-ฟรอนเทียร์ เอเชีย แปซิฟิก อวอร์ด (DFNI-Frontier Asia Pacific Awards) สาขาผู้ประกอบการที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างยั่งยืน (CSR or Sustainability Initiative of the Year)

 

สิงห์เพราะทุกส่วนมีความสำคัญ

 

‘สิงห์ คอร์เปอเรชั่น’ นอกจากมีโครงการเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่องแล้ว การคำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อมยังถูกวางเป็นทิศทางการทำธุรกิจของบริษัทในเครือที่จะลงลึกไปถึงระดับพนักงานทั้งหมดด้วย โครงการสำคัญ ๆ ได้แก่ การสร้างโรงงานทุกโรงงานให้มีศูนย์บำบัดน้ำเสียครบวงจร เพื่อไม่ก่อให้เกิดมลภาวะต่อสภาพแวดล้อมภายนอก เช่น ‘บริษัท ขอนแก่นบริวเวอรี่ จํากัด’ ได้บริหารจัดการบำบัดน้ำภายในโรงงานผ่านวิธีธรรมชาติเพื่อนำไปใช้ในสนามกอล์ฟ, ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ‘บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด(มหาชน)’ นำพลาสติกไปใช้ให้เกิดประโยชน์ แทนการปล่อยให้ย่อยสลาย

‘สิงห์อาสา’ การผนึกกำลังระหว่างคนในองค์กรสิงห์, เครือข่ายพันธมิตรต่าง ๆ และคนในชุมชนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการทำโครงการช่วยเหลือสังคม ดูแลสิ่งแวดล้อม และด้านการศึกษา เช่น ‘มอบใจ ให้รอยยิ้ม’ โครงการส่งต่อโอกาสให้กับเด็กในพื้นที่ห่างไกลได้รับการศึกษาที่ดี

การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และแก้ปัญหาภัยพิบัติต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเก็บขยะ, การเก็บผักตกชวาตามลุ่มแม่น้ำต่าง ๆ เพื่อลดปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ที่ประสบปัญหานี้บ่อย ๆ, การซ่อมบ้าน เติมความสุข เพื่อผู้ยากไร้, การสร้างฝายพัฒนาแหล่งต้นน้ำ และการสร้างจิตอาสา เพื่อพัฒนาสังคม, แจกเครื่องนุ่งห่มให้กับคนในพื้นที่ทุรกันดาร ฯลฯ

 

โตโยต้าการช่วยเหลือคือหน้าที่

 

เพราะตระหนักเสมอถึงหน้าที่ในการช่วยเหลือและทำประโยชน์ให้กับชุมชน ทาง ‘โตโยต้า’ จึงดำเนินกิจกรรม CSR ในการช่วยเหลือชุมชนและส่งเสริมการพัฒนาในด้านสำคัญ ๆ ด้วยกิจกรรมที่เหมาะสมตามความต้องการในแต่ละชุมชน โดยในไทยกิจกรรมเด่นที่ขึ้นชื่อ ได้แก่ ‘ถนนสีขาว’ ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2531 ให้ทุกคนถึงความสำคัญในการเคารพกฎจราจร และมีน้ำใจต่อกันบนท้องถนนในการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย

‘โตโยต้าเมืองสีเขียว หรือ Toyota Green Town’ โครงการ CSR ด้านสิ่งแวดล้อมที่เผยแพร่องค์ความรู้สร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมแก่สังคมไทยผ่านกิจกรรมต่างๆ, ด้านการศึกษา เพื่อพัฒนาศักยภาพและความรู้ของเยาวชนไทยในทุกระดับชั้นให้มีขีดความสามารถทัดเทียมกับนานาประเทศ

‘โตโยต้าธุรกิจชุมชนพัฒน์’ โครงการนำความรู้และประสบการณ์การทำงานของโตโยต้าที่เรียกว่า Toyota Way หรือ วิถีแห่งโตโยต้า มาถ่ายทอดสู่ธุรกิจชุมชนเพื่อพัฒนาชุมชน ซึ่งเป็นรากฐานด้านเศรษฐกิจของประเทศให้มีการเติบโตอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน

 

เมืองไทยประกันภัย สังคมสำคัญต่อการทำธุรกิจ

 

‘เมืองไทยประกันภัย’ อีกองค์กรที่เชื่อว่า การช่วยเหลือสังคมในด้านต่าง ๆ เป็นสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจ ผ่านการพัฒนาโครงการที่ยั่งยืน และมีแนวคิดใหม่ ๆ ในการดำเนินการ อย่างการเป็นบริษัทประกันภัยแห่งแรกที่ทำ ‘กรมธรรม์โควิด-19’ มอบให้กับเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ของไทย นักรบด่านหน้าเพื่อสู้กับโควิด-19

รวมถึงมีโครงการอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น ‘ครัวมาดาม’ ในการแจกจ่ายอาหารให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากวิกฤต ไม่ว่าจะเป็น สำหรับคนยากไร้ ผู้ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ และช่วงวิกฤตโควิด-19, ‘การสร้างอาชีพแก่ผู้พิการ’

ส่วนด้านสิ่งแวดล้อม โครงการเด่นได้แก่ ‘เมืองไทยไร้ขยะ’ โครงการมอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อนำไปสู่การรีไซเคิล ในการช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาติและวิกฤตขยะล้น, ด้านกีฬา เช่น โครงการ Muang Thai Insurance Football Clinic การสานฝันเยาวชนที่รักฟุตบอล การมอบอุปกรณ์กีฬา เป็นต้น


  • 4.1K
  •  
  •  
  •  
  •  
CLOSE
CLOSE