5 สิ่งที่ต้องรู้และต้องเฝ้าระวังในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 ที่ไม่เหมือนเดิม

  • 7
  •  
  •  
  •  
  •  

เทศกาลสงกรานต์ถือเป็นเทศกาลแห่งความสุขของคนไทย เนื่องจากเป็นเทศกาลที่มีจำนวนของวันหยุดยาวนานใกล้เคียงกับเทศกาลส่งท้ายปีเก่าและขึ้นปีใหม่ ทำให้หลายคนที่เดินทางมาทำงานต่างบ้านต่างเมืองจะใช้โอกาสนี้ในการเดินทางกลับบ้านเพื่อพบปะพูดคุยกับครอบครัวและหมู่ญาติ รวมถึงการอยู่แบบพร้อมหน้าพร้อมตาและทานข้าวสังสรรค์ร่วมกัน ซึ่งจะช่วยสร้างพลังให้สามารถกลับมาต่อสู้กับการทำงานได้อีกครั้ง

หากแต่เทศกาลสงกรานต์ในปี 2565 นี้ แตกต่างไปจากเทศกาลสงกรานต์ในหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นเทศกาลสงกรานต์ครั้งแรกในรอบระยะเวลา 2 ปี หลังจากที่ประเทศไทยตกอยู่ในสถานการณ์โรคระบาด ขณะที่ประเทศไทยยังอยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้เกิดข้อกำหนดที่จะช่วยป้องกันการแพร่ระบาดบนพื้นฐานความสนุกสนานของเทศกาลสงกรานต์ โดยมี 5 สิ่งที่หลายคนควรจะต้องระมัดระวัง

 

ระวังการเดินทาง

เป็นที่ทราบกันดีว่าอุบัติเหตุบนท้องถนนของประเทศไทย ถือเป็นการสูญเสียที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง และเมื่อนับจำนวนการสูญเสียจากอุบัติเหตุจะพบว่ามีจำนวนมากกว่าความสูญเสียที่เกิดจากการแพร่ระบาด สำหรับช่วง 7 วันอันตรายในเทศกาลสงกรานต์ 2565 นี้ จะเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 12-18 เมษายน 2565 โดยสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุในช่วง 7 วันอันตรายส่วนใหญ่เกิดจากการเมาแล้วขับ

นอกจากนี้ การขับรถด้วยความเร็วและการทำผิดกฎจราจร ถือเป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุในช่วง 7 วันอันตราย โดยเฉพาะกลุ่มรถจักรยานยนต์ที่มีอัตราการเกิดอุบัติเหตุสูงกว่ายานพาหนะประเภทอื่นๆ เมื่อย้อนกลับไปดูสถิติในปีก่อนหน้านี้จะพบว่า ในปี 2561 เกิดอุบัติเหตุ 3,516 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 361 คน ในปี 2562 เกิดอุบัติเหตุ 3,338 ครั้ง เสียชีวิต 386 คน และในปี 2563 แม้จะเป็นปีแรกที่งดเทศกาลสงกรานต์ แต่ก็ยังเกิดอุบัติเหตุ 1,307 ครั้ง เสียชีวิต 167 ราย ขณะที่ปี 2564 เกิดอุบัติเหตุ 2,365 ครั้ง เสียชีวิต 277 ราย

 

ระวังทรัพย์สินมีค่า

นอกจากเรื่องของการเดินทางแล้ว สิ่งหนึ่งที่มักจะเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์คือการออกมาจับจ่ายใช้สอย ของเหล่าบรรดาลูกหลานที่กลับไปเยี่ยมผู้ใหญ่ที่บ้านเกิด ไม่ว่าจะเป็นการซื้อเครื่องประดับมีค่าอย่าง ทอง หรือการซื้อสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ทีวี ตู้เย็น เป็นต้น ซึ่งหากมองดูสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันจะพบว่า ประเทศไทยกำลังประสบปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ส่งผลให้หลายคนมีรายได้ลดลงและบางคนถึงกับไม่มีงานทำ

ซึ่งเห็นได้จากคดีลักจี้ชิงปล้นที่เกิดขึ้นอย่างมากมายในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา โดยเป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นถึงสภาพเศรษฐกิจที่ประเทศไทยกำลังประสบปัญหา ทั้งจากผลกระทบของสถานการณ์โรคระบาดและสภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกที่ตกต่ำ นั่นจึงทำให้การใช้จ่ายผ่านระบบออนไลน์หรือการใช้จ่ายในรูปแบบ Cashless จะช่วยลดปัญหาด้านอาชญากรรมและสร้างความปลอดภัยในด้านสุขภาพ

 

ระวังการใช้จ่าย

อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า ช่วงนี้ประเทศไทยกำลังประสบปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นผลกระทบมาจาก สถานการณ์การแพร่ระบาด รวมถึงสภาพเศรษฐกิจทั่วโลกที่ตกต่ำและปัญหาสงคราม ส่งผลให้ค่าครองชีพปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงทั้งราคาน้ำมันและราคาสินค้า ซึ่งตามหลักการตลาดหลายธุรกิจจะมีการนำโปรโมชั่นและกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อส่งเสริมการขาย โดยเฉพาะการลดแลกแจกแถม

แม้ว่าหลายธนาคารจะมีการเตรียมสำรองเงินในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยธนาคารกรุงเทพ มีการสำรองเงินสดช่วงสงกรานต์ 35,000 ล้านบาท ด้านธนาคารกสิกรไทย สำรองเงินสดไว้ 27,800 ล้านบาท ขณะที่ธนาคารไทยพาณิชย์ มีการสำรองเงินสดไว้ 45,000 ล้านบาท ส่วนธนาคารกรุงศรี มีการสำรองเงินสดราว 8,770 ล้านบาท และธนาคารทีเอ็มบีธนชาต (ttb) มีการสำรองเงินสดไว้ 16,000 ล้านบาท แต่ก็ควรจะมีการวางแผนการใช้จ่ายเพื่อให้ทุกการใช้จ่ายเกิดความคุ้มค่ามากที่สุด และยังมีเหลือพอหากเกิดสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด

 

ระวังการเล่นน้ำสงกรานต์

เนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากเทศกาลสงกรานต์เป็นฤดูกาลท่องเที่ยวของประเทศไทย ซึ่งนอกจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์แล้ว นักท่องเที่ยวชาวไทยก็ถือโอกาสนี้ในการท่องเที่ยวระยะยาวด้วยเช่นกัน โดยมีเป้าหมายในการเล่นน้ำสงกร่นต์หลังจากที่ห่างหายบรรยากาศการสาดน้ำไปกว่า 2 ปี

โดยในปีนี้ควรมีการตรวจสอบก่อนร่วมกิจกรรมสงกรานต์ ซึ่งภาครัฐมีการกำหนดอนุญาตให้เล่นน้ำและจัดกิจกรรมตามประเพณีได้ในพื้นที่กำหนด แต่ห้ามประแป้ง ปาร์ตี้โฟม รวมถึงจำหน่ายและบริโภคแอลกอฮอล์ในพื้นที่จัดงาน โดยต้องสวมหน้ากากตลอดเวลาที่ร่วมงาน นอกจากนี้ยังห้ามเล่นน้ำ ประแป้งบนพื้นที่สาธารณะหรือท้องถนน งดกิจกรรมการสัมผัสใกล้ชิด แต่สามารถจัดกิจกรรมในครอบครัวได้ เช่น รดน้ำดำหัว โดยต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา

ซึ่งเมื่อพูดตามความเป็นจริง อาจมีการบางข้อห้ามที่ไม่สามารถปฏิบัติได้ทั้งหมด จึงควรพิจารณาถึงการร่วมกิจกรรมบนพื้นฐานสถานการณ์การแพร่ระบาด

 

ระวังการแพร่ระบาด

ไม่เพียงแค่ต้องตรวจสอบว่ากิจกรรมใดสามารถทำได้บ้าง แต่การท่องเที่ยวในเทศกาลสงกรานต์ 2565 จำเป็นต้องระมัดระวัง โดยควรเลี่ยงการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มร่วมกัน ส่วนผู้สูงอายุควรได้รับวัคซีนให้ครบก่อนร่วมกิจกรรม ที่สำคัญผู่ป่วยและผู้มีความเสี่ยงสูงควรงดกิจกรรมทั้งหมด ทั้งนี้เป็นเพราะมีการคาดการณ์ว่าหลังเทศกาลสงกรานต์อาจมียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นกว่าปัจจุบัน

โดยยอดผู้ติดเชื้อก่อนเทศกาลสงกรานต์อยู่ที่ 19,982 รายและเสียชีวิตสูงถึง 101 ราย ดังนั้นสถานการณ์การแพร่ระบาดจึงยังไม่ควรมองข้าม แม้ว่าจะใกล้ถึงกำหนดที่โรคระบาดอุบัติใหม่อย่าง Covid-19 จะกลายเป็นโรคประจำถิ่น ดังนั้นผู้เข้าร่วมกิจกรรมจึงต้องคำนึงถึงหลักปฏิบัติที่ถูกยอมรับแล้วว่า ช่วยลดโอกาสการติดเชื้อได้ทั้งการสวมหน้ากากอนามัยตลาดเวลา การลดเลี่ยงอยู่ในพื้นที่คนหนาแน่น และการล้างมือด้วยแอลกอฮอล์บ่อยๆ เพื่อให้เทศกาลสงกรานต์ 2565 จะกลายเป็นเทศกาลแห่งความสุขที่ปราศจากโรคระบาด


  • 7
  •  
  •  
  •  
  •  
Gigolo
เมื่อเทคโนโลยีอยู่ใกล้กับชีวิตทุกคน มารู้เท่าทันเทคโนโลยีเพื่อใช้มัน แต่อย่าให้เทคโนโลยีมันใช้เรา