ตั้งแต่ปี 2560 ที่ผ่านมา กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้เดินหน้าจัดกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แคมเปญที่มีชื่อว่า “King Power Thai Power พลังคนไทย” ด้วยแนวคิดที่เชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทย หากคนไทยทำอะไรอย่างจริงจังแล้ว เชื่อว่าสามารถทำออกมาได้ดีไม่แพ้ชาติใดในโลก แต่ที่ผ่านมาศักยภาพของคนไทยบางส่วนขาดการสนับสนุน ส่งผลให้เป็นที่รู้จักเพียงในประเทศเท่านั้น กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จึงเข้ามาเติมเต็มในส่วนดังกล่าว พร้อมผลักดันอย่างเต็มสูบให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก
นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า King Power Thai Power พลังคนไทย คือ กิจกรรมเพื่อสังคม โดยยังคงเน้นกิจกรรมผ่าน 4 ด้านหลักของโครงการ ได้แก่ ด้านกีฬา, ด้านดนตรี, ด้านชุมชน และด้านการศึกษา และสุขภาพ ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากทุกภาคส่วน เห็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น
httpv://youtu.be/yI16gDUEl30
สำหรับด้านกีฬา (SPORT POWER) ได้ส่งเสริมเยาวชนไทยที่ชื่นชอบการเล่นฟุตบอล จัดกิจกรรม ‘FOX HUNT ตามล่าจิ้งจอกสายพันธุ์สยาม’ ปีนี้เป็นรุ่นที่ 3 คัดเลือกเด็กไทย ไปฝึกทักษะกีฬาฟุตบอลที่สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ประเทศอังกฤษ และสโมสร OH Leuven ของประเทศเบลเยียม พร้อมมอบทุนการศึกษาระหว่างฝึกซ้อม นอกจากนี้ยังมอบลูกฟุตบอลให้กับเด็กไทยทั่วประเทศแล้วเป็นจำนวนกว่า 1 ล้านลูก และสนามหญ้าเทียมอีก 100 สนาม โดยตั้งเป้าแล้วเสร็จตามจำนวนภายในปี 2565
ด้านดนตรี (MUSIC POWER) คิง เพาเวอร์ ได้กลับมาปลุกกระแสงานแข่งขันดนตรีระดับนานาชาติในประเทศให้กลับมาคึกคักขึ้นอีกครั้ง โดยจัดโครงการแข่งขันวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติแห่งประเทศไทย ซึ่งได้โรงละครอักษรา ในฐานะโรงละครไทยร่วมสมัยที่มีเทคนิคการแสดงแสง สี เสียงได้มาตรฐานเทียบเคียงกับโรงละครชั้นนำระดับโลก เป็นหนึ่งสถานที่แข่งขัน
สำหรับชุมชน ได้เปิดโอกาสให้สินค้าไทย อย่างสินค้าหัตถกรรม อาหาร ขนม และ ของที่ระลึก สามารถนำมาขายแก่นักท่องเที่ยวทั่วโลกได้ในสถานที่คิง เพาเวอร์ ยกตัวอย่าง ผลงาน “แก้วเป่า” สินค้า OTOPที่ขายดีที่สุดในหมวดสินค้าของที่ระลึกจากคิง เพาเวอร์ ผู้อยู่เบื้องหลังผลงานชิ้นเอกนี้ คือ ภพต์ เทภาสิต ประธานสหกรณ์บริการผลิตภัณฑ์คนพิการไทย ชายหนุ่มผู้ไม่ยอมแพ้ให้โชคชะตาหลังจากคิง เพาเวอร์ เข้าไปช่วยเพิ่มให้ความรู้ แนะนำในเชิงธุรกิจทำให้อาชีพเป่าแก้วที่เคยทำรายได้น้อยนิดหาเช้าไม่พอกินค่ำกลายเป็นอาชีพเงินล้าน ท้ายสุดกับอีกหนึ่งความสำเร็จของการพาสินค้าชุมชนไปอวดสายตาชาวโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิ คือ คอลเลกชั่น INDIGO (อินดิโก้) สำหรับเป็นของที่ระลึกสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งจะนำไปวางจำหน่าย ณ เดอะ ซิตี้ แฟนสโตร์ แอท คิง เพาเวอร์ สเตเดียม เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ผลงานแห่งความภาคภูมิใจนี้ คิง เพาเวอร์ ทำหน้าที่เป็นคู่คิดและคู่ค้าร่วมกับชุมชนบ้านนาขาม จ.สกลนคร โดยยังคงชูจุดแข็งและภูมิปัญญาของชาวบ้านไว้ และต่อยอดสินค้าให้ตอบโจทย์ตลาดต่างประเทศ และเป็นช่องทางในการจัดจำหน่ายสินค้า
ด้านสุดท้ายคือ การศึกษาและสุขภาพ โดยเล็งเห็นความสำคัญ ‘คุณภาพชีวิตที่ดีต้องมาก่อน’ อย่างโครงการ ‘พลังคนไทย สุขาสุขใจ’ ส่งมอบห้องน้ำในรูปแบบสากล สำหรับชาย หญิง และผู้พิการ เพื่อให้เป็นห้องน้ำของทุกคนอย่างแท้จริง ติดตั้งยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์แหล่งท่องเที่ยวไทยให้กับชาวไทยและต่างชาติ ในส่วนเรื่องการศึกษาได้สานต่อแนวคิดจากมูลนิธิคิง เพาเวอร์ ที่ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อ 13 ปีที่แล้ว มอบอุปกรณ์การเรียน สื่อการเรียนการสอน ช่วยซ่อมแซมอาคารเรียนและสร้างห้องสมุด เพื่อสร้างรากฐานอนาคตที่ดีแก่เยาวชนไทย