ย้อนตำนานห้างขายยาอังกฤษ “ตรางู” จากโรงปรุงยาสู่ธุรกิจ Personal Care

  • 386
  •  
  •  
  •  
  •  

หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่กล้าบอกได้เลยว่ามีต้นกำเนิดจากประเทศไทย ต้องยกให้ “แป้งเย็น” นั่นเพราะแป้งเย็นอยู่คู่กับสังคมไทยมาอย่างยาวนาน เรียกได้ว่าคนไทยส่วนใหญ่เกิดมาก็ต้องรู้จักแป้งเย็น โดยในอดีตแป้งเย็นมีทั้งสูตรน้ำและสูตรแป้งโรยตัว นอกจากนี้แป้งเย็นยังมีส่วนช่วยลดการเกิดโรคผิวหนัง อันเนื่องมาจากสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวจนเหงื่อออก และเป็นต้นเหตุของโรคผิวหนังหลากหลายชนิด

แต่เมื่อพูดถึงผลิตภัณฑ์แป้งเย็นแล้ว หลายคนก็มักจะนึกถึงแบรนด์ “ตรางู” ที่ปัจจุบันมีอายุผ่านร้อนผ่านหนาวมากว่า 130 ปี ภายใต้การบริหารธุรกิจจากรุ่นสู่รุ่นและยังสามารถยืนหยัดอยู่ในตลาดแป้งเย็นมาอย่างยาวนาน แม้จะไม่ได้ถือกำเนิดโดยนักธุรกิจชาวไทยตั้งแต่ตอนเริ่มต้น แต่ก็ถือเป็นแบรนด์ที่เกิดขึ้นมาในประเทศไทยก่อนจะถูกส่งต่อมายังตระกูล “ว่องวานิช” จนถึงปัจจุบัน

 

ต้นกำเนิดตรางูสู่ตระกูล “ว่องวานิช”

ย้อนกลับไปในอดีตช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่างการแพทย์ดั้งเดิมกับการแพทย์สมัยใหม่ โดยเฉพาะการถือกำเนิดโรงพยาบาล “ศิริราช” พร้อมๆ กับการศึกษาวิชาการแพทย์สมัยใหม่ นายแพทย์โธมัส เฮย์วาร์ด เฮส์ หรือที่หลายคนเรียก “หมอเฮส์” ได้รับคัดเลือกให้เข้ารับตำแหน่งแพทย์ใหญ่ประจำโรงพยาบาลศิริราช พร้อมๆ กับการเป็นอาจารย์สอนวิชาแพทย์สมัยใหม่

สิ่งที่หมอเฮส์มองเห็น คือ คนไทยยังนิยมยาแผนโบราณประเภทยาหม้อ เนื่องจากร้านขายยาสมัยใหม่คนไทยไม่รู้จัก อีกทั้งการแพทย์สมัยใหม่จำเป็นต้องพึ่งพายาสมัยใหม่ด้วย นั่นจึงทำให้หมอเฮส์ตัดสินใจเปิดร้านขายยาขึ้นโดยใช้ชื่อ “British Dispensary” พร้อมกับใช้โลโก้รูปงูมีศรปัก ซึ่งงูเป็นสัญลักษณ์สากลของการแพทย์ หรืออีกนัยหนึ่งงูหมายถึงโรคภัยต่างๆ ซึ่งคนไทยก็รู้สึกความอันตรายของงู การที่มีศรปักที่งูจึงหมายถึงยาที่ใช้ในการรักษาโรคร้ายนั่นเอง

ด้วยชื่อภาษาอังกฤษที่คนไทยในสมัยนั้นน้อยคนที่จะอ่านออก คนทั่วไปจึงมักเรียกห้างขายยาอังกฤษแล้วเรียกชื่อตามรูปโลโก้ว่า “ตรางู” จากนั้นในปี พ.ศ.2449 หมอเฮส์ก็ขายกิจการให้กับ นายแมคเบธ (Mr.Mcbeth) ที่นอกจากจะปรุงยาเองแล้ว ยังเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์เซนลุกซ์จากประเทศอังกฤษ ต่อมามีเหตุให้นายแมคเบธต้องกลับประเทศของตัวเอง จึงขายกิจการทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ ลิขสิทธิ์และสูตรตำรับยาต่างๆ ให้กับ นายล้วน ว่องวานิช ในปี พ.ศ.2471

 

ผลิตภัณฑ์แป้งเย็น…ดันตรางูโด่งดัง

การเข้ามาถือครองกิจการห้างขายยาอังกฤษตรางูของนายล้วนส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างมากกับธุรกิจ โดยนายล้วนไม่ได้เรียนจบแพทย์ แต่ด้วยความสนใจส่วนตัวทำให้นายล้วนศึกษาการแพทย์ด้วยตัวเอง ประกอบกับมีนายแพทย์ชาวเยอรมันถ่ายทอดวิชาการแพทย์ให้ และด้วยประสบการณ์การทำงานในร้านห้างขายยามาหลายแห่ง ทำให้นายล้วนมีความสามมารถทางด้านแพทย์ จนชาวบ้านมักจะเรียกติดปากว่า “หมอล้วน”

การเข้ามาของหมอล้วนไม่ได้เปลี่ยนแปลงหรือพลิกโฉมห้างขายยาอังกฤษตรางูแต่อย่างใด โดยยังคงรักษารูปแบบธุรกิจเดิมไว้ทั้งหมด แต่เนื่องจากประเทศไทยมีสภาพอากาศร้อนชื้น นั่นจึงทำให้มีการคิดค้นสูตรผสมสมุนไพรที่ทำให้เกิดความเย็นและความหอม โดยผสมลงไปในผลิตภัณฑ์แป้งน้ำที่ได้รับความนิยมในสมัยนั้น จนเกิดเป็นแบรนด์ “ควินนา” และเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่คนไทย

ทว่าช่วงเวลานั้นชาวต่างชาติโดยเฉพาะยุโรปเดินทางเข้ามาทำงานในประเทศไทยจำนวนมาก ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนทำให้ชาวต่างชาติไม่คุ้นชินส่งผลให้เกิดผดผื่นขึ้นเป็นจำนวนมาก จนมีชาวต่างชาติที่รู้จักกับหมอล้วนอยากให้ช่วยแก้ปัญหาเรื่องอาการผดผื่น หมอล้วนจึงนำแป้งน้ำเย็นควินนามาพัฒนาต่อยอด โดยปรับจากแป้งน้ำมาเป็นแป้งฝุ่นที่ชาวต่างขาตินิยมมากกว่า พร้อมชื่อแบรนด์ “แป้งเย็นปริกลี่ฮีทตรางู” โดยคำว่า “Prickly Heat” หมายถึงอาการผดผื่นคันที่เกิดจากความร้อน จนมีการเรียกชื่อสั้นลงเหลือแป้งเย็นตรางู พร้อมๆ กับบรรจุภัณฑ์กระป๋องเหล็กสี่เหลี่ยม

 

ผลกระทบสงครามสะเทือนตรางู

นับตั้งแต่ห้างขายยาอังกฤษตรางูอยู่ในมือของหมอล้วน ก็มีการขยายสาขารวมไปถึงการส่งผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมา จวบจนกระทั่งสงครามมหาเอเชียบูรพาหรือสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดขึ้น หลายธุรกิจได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ห้างขายยาอังกฤษตรางูก็เช่นกันที่ได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น เดินทางเข้ามาถึงประเทศไทยเพื่อขอผ่านทางไปยังพม่า

เนื่องจากประเทศที่กองทัพญี่ปุ่นโจมตีอย่างประเทศจีนได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง ชาวจีนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก หมอล้วนที่เป็นชาวจีนเข้ามาประเทศไทยตั้งแต่ยังเด็กจึงมีการจัดส่งยาและเวชภัณฑ์เพื่อไปช่วยเหลือชาวจีนที่ได้รับบาดเจ็บจากภัยสงคราม ส่งผลให้รัฐบาลไทยในยุคนั้นที่มีความสันพันธ์อันดีกับกองทัพญี่ปุ่น ไม่พอใจต่อการกระทำของหมอล้วน และอาจทำให้กองทัพญี่ปุ่นไม่พอใจ จึงมีการจับกุมหมอล้วนและครอบครัวพร้อมทั้งเนรเทศไปที่ฮ่องกง

ระหว่างนั้นมีการมอบหมายให้ ดร.บุญยง ว่องวานิช ทายาทรุ่นที่ 2 กลับมาที่ประเทศไทยเพื่อดูแลกิจการห้างขายยาอังกฤษตรางู ในช่วงเวลานั้น ได้รับผลกระทบทางธุรกิจส่งผลให้ธุรกิจห้างขายยาอังกฤษตรางูกำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤติ ไม่ว่าจะเป็นภาวะสงคราม ความขัดแย้งกับรัฐ และการไม่ได้อยู่ดูแลกิจการเป็นระยะเวลานาน

 

จุดพลิกผันตรางูด้วยวิสัยทัศน์ผู้บริหาร

ในช่วงระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ห้างขายยาอังกฤษตรางูถือว่าได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ส่วนหนึ่งเพราะการยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บจากไฟสงครามในประเทศจีน จนก่อให้เกิดความขัดแย้งกับรัฐบาลในเวลานั้นที่เป็นพันธมิตรกับกองทัพญี่ปุ่น จนมีการย้ายไปอยู่ที่ฮ่องกงช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งในช่วงเวลานั้นทำให้ห้างขายยาอังกฤษตรางูอยู่ภายใต้ไร้ทิศทาง

จนกระทั่งเมื่อ ดร.บุญยงได้กลับเข้ามาดูแลกิจการในประเทศไทย และมีการเปลี่ยนชื่อโดยตัดคำว่า “อังกฤษ” ออกไปเพื่อลดแรงกดดัน แต่ด้วยสถานการณ์ต่างๆ ทำให้ธุรกิจของตรางูได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจนเริ่มเข้าสู่ระดับวิกฤต ในเวลานั้น ดร.บุญยงได้ประคับประคองธุรกิจเพื่อให้ยังคงดำเนินผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ ขณะเดียวกันก็มองเห็นโอกาสในอนาคต

โดย ดร.บุญยง ได้ใช้เงินส่วนหนึ่งในการเข้าลงทุนในแร่ดีบุก ซึ่ง ดร.บุญยงมองว่า หลังสิ้นสุดสงครามแร่ดีบุกจะกลายเป็นที่ต้องการอย่างมากในอุตสาหกรรม และเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง อุตสาหกรรมกลับมาฟื้นตัว “ดีบุก” กลายเป็นแร่ที่มีความต้องการสูงและทำให้การลงทุนของ ดร.บุญยงสามารถสร้างรายได้มหาศาล และถูกนำมาใช้ในการพลิกฟื้นธุรกิจและพัฒนาธุรกิจห้างขายยาอังกฤษตรางูต่อไป

 

แป้งตรางูผ่านฝนผ่านหนาวจนถึงปัจจุบัน

หลังการเข้ามาดูแลกิจการอย่างเต็มตัวของ ดร.บุญยง ก็มีการขยายกิจการออกไปมากมาย รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง หนึ่งในนั้นคือการพัฒนารูปแบบธุรกิจไปสู่การเป็นโรงงานอุตสาหกรรมมากขึ้น ซึ่งนอกจากจะเป็นการผลิตสินค้าของตรางูแล้ว ยังรับจ้างผลิตในรูปแบบ OEM อีกด้วย รวมไปถึงการขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ไปสู่กลุ่มอื่นๆ อย่าง สบู่ แชมพู รวมไปถึงอาหารเสริม

 

จนกระทั่งทายาทมรุ่นที่ 3 ของตระกูลว่องวานิชอย่าง คุณอนุรุธ ว่องวานิช เข้ามารับช่วงกิจการในช่วงปี พ.ศ.2528 โดยช่วงแรกเป็นการศึกษาและทำความเข้าใจกับตรางู และนำไปสู่การขยายผลิตภัณฑ์ที่เจาะกลุ่ม Personal Care โดยที่ยังคงมีแป้งเย็นตรางูเป็นสินค้าหลัก โดยเฉพาะตัวกระป๋องเหล็กที่มีการวิจัยแล้วว่า กระป๋องเหล็กช่วยเก็บรักษาส่วนผสมที่ทำให้ยังคงความเย็นไว้

โดยปัจจุบันห้างขายยาอังกฤษตรางูมีการแตกบริษัทออกไปมากมาย รวมไปถึงการ Transform ธุรกิจเพื่อสอดรับกับผู้บริโภคและโลกยุดิจิทัล รวมไปถึงการคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่แตกต่างไปจากเดิม โดยยังคงเอกลักษณ์ของตรางูในเรื่องของความเย็น ขณะที่สินค้าดั้งเดิมก็ยังคงอยู่เนื่องจากยังมีฐานลูกค้าที่มี Loyalty สูง โดยเป้าหมายของตรางูคือการนำผลิตภัณฑ์ขยายตลาดไปสู๋ต่างประเทศ


  • 386
  •  
  •  
  •  
  •  
Gigolo
เมื่อเทคโนโลยีอยู่ใกล้กับชีวิตทุกคน มารู้เท่าทันเทคโนโลยีเพื่อใช้มัน แต่อย่าให้เทคโนโลยีมันใช้เรา