5 ขั้นสำคัญในการวาง Content Strategy

  • 352
  •  
  •  
  •  
  •  

Content Marketing เป็นเครื่องมือสำคัญอย่างมากในตอนนี้ที่สามารถทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ ได้ขึ้นมา แต่ไม่ใช่ที่นักการตลาดทุกคนนั้นทำ Content แล้วจะประสบความสำเร็จได้ นอกจากนี้หลาย ๆ คนที่เป็น Content Creator เมื่อผันตัวมาทำงานให้แบรนด์ก็คิดว่า การทำ Content Marketing ของแบรนด์นั้นจะง่ายกว่าการทำ Content แบบ Content Creator ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมีความแตกต่างกันอย่างมาก เพราะการทำ Content ให้แบรนด์นั้นจะมีข้อจำกัดมากมายจากการภาพลักษณ์แบรนด์ที่มีไว้ และสิ่งที่ทำไม่ได้ต่าง ๆ ทำให้การที่จะสร้าง Content Marketing ที่ได้ผลสำหรับแบรนด์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย

content-marketing1

ทั้งนี้นอกจากการที่ต้องทำ Branded Content ให้ตอบโจทย์เรื่องภาพลักษณ์แบรนด์แล้ว ก็ยังต้องทำให้ตอบโจทย์ทางการตลาดอีกด้วย ซึ่งสิ่วงหนึ่งที่ช่วยได้ในการที่จะทำให้ตอบโจทย์ทางการตลาดคือการเข้าใจในเรื่อง SEO ที่จะทำให้ Content ของตัวเองนั้นเข้าไปติดในคำค้นหาที่ผู้บริโภคหาอยู่นั้นเอง แต่นอกจากนี้แล้วต้องขึ้นอยู่กับการสร้างกลยุทธ์ที่ดีของ Content นั้น ๆ ขึ้นมา ซึ่งวันนี้เราจะมารู้จัก 5 ขั้นในการที่จะสร้าง Content Strategy ที่จะทำให้ Content ที่สร้างมาเพื่อการตลาดนั้นได้ผล

1. วางเป้าหมายและเข้าใจเป้าหมาย : สิ่งหนึ่งที่ควรรู้ตั้งแต่แรกในการทำ Content คือ Objective ของ Content ที่ทำขึ้นมานี้ทำขึ้นมาเพื่ออะไร และอยากจะได้อะไรจากการทำ Content นี้ เพื่อที่จะทำให้สามารถออกแบบ Content หรือหาข้อมูลมาทำ content ได้ถูกต้องได้ นอกจากนี้คือการรับรู้ว่า State ของ Brand ในสายตาของกลุ่มเป้าหมายอยู่ที่ไหน และคู่แข่งอยู่ที่ไหน รวมทั้งใครกันแน่ที่จะเป็นกลุ่มเป้าหมายของการทำ Content. เหล่านี้ เพราะส่ิงเหล่านี้จะทำให้คุณรู้ว่า Content ที่ทำนั้นต้องทำอย่างไรเพื่อให้เหมาะสมกับจุดยืนที่แบรนด์อยู่ รวมทั้งตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่อยากจะเจาะเข้าไปพูดคุย ซึ่งไม่จำเป็นว่าต้องทำ Content เดียวตอบทุกกลุ่ม แต่อาจจะสร้างรูปแบบ content ที่หลากหลายในการที่จะเข้าไปเจาะในแต่ละ Segment ของกลุ่มเป้าหมายก็ได้

2. สร้าง Editorial Line : การสร้าง Editorial Line นั้นคือการสร้าง Concept ของ Content นี้เพื่อเป็นไกด์ในการที่จะทำ Content ต่อไปให้ตอบโจทย์ตามข้อ 1 ขึ้นมา ซึ่ง Editorial Line นั้นจะประกอบด้วย 1-2 ประโยคสั้น ๆ ว่าเราจะทำอะไรหรือใช้วิธีการสื่อสารแบบไหนออกไป โดยอย่างที่ได้เล่าไปคือถ้ามี Segment หลาย ๆ กลุ่ม อาจจะต้องสร้างคำจำกัดความของแต่ละกลุ่มมาว่า จะต้องใช้เรื่องราวหรือหัวข้ออะไรในการสื่อสารของแต่ละกลุ่มขึ้นมา เพื่อให้การทำ Content นี้จะได้ตอบโจทย์ ซึ่งอาจจะวางเป็น guideline เพิ่มเติมว่าใน Content ต้องประกอบด้วย Keyword และ เรื่องราวประมาณไหน เพื่อทำให้ Content ที่ทำมาตอบโจทย์ตามเป้าหมายที่วางไว้ให้ได้มากที่สุด

content-writing-and-marketing-framework-of-Paarami

3. สร้างความหลากหลาย และเริ่มทำ Optimized : เมื่อได้หัวข้อที่อยากจะทำ หรือเนื้อหาของ Content ที่ทำแล้ว สิ่งต่อมาที่ต้องวางแผนกันก็คือ จะทำ Content ออกมาในรูปแบบไหน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ตัวเนื้อหา Content นั้นไม่จำเป็นต้องมีรูปแบบเดียวก็ได้ นักการตลาดอาจจะสร้างเนื้อหานั้นให้มีความหลากหลายในรูปแบบที่มีความต่างกัน เช่น ทำเป็นบทความ ทำเป็นภาพ หรือจะเป็นวิดีโอ หรือให้ละเอียดก็เป็นบทความ การทำรูปแบบนี้จะทำให้สามารถเจาะความต้องการของกลุ่มเป้าหมายในแต่ละแบบได้ โดยยังคง Concept ของการสื่อสารเดิมเอาไว้ได้ และด้วยรูปแบบที่หลากหลายเหล่านี้ก็จะทำให้ Content นั้นสามารถถูกบริโภคได้ในหลากหลายรูปแบบ หรือพฤติกรรมของผู้บริโภค พอได้เนื้อหาที่มีความหลากหลายนี้แล้ว สิ่งที่ต้องทำคือการเริ่มมา Optimized ตัว content ให้มีความพอดีในแต่ละ Platform ว่าทำอย่างไรที่จะเหมาะสมและแสดงประสิทธิภาพสูงสุดขึ้นมาในแต่ละ Platform เช่นการใช้คำ ขนาดภาพ หรือรูปแบบการสื่อสารเพื่อให้เกิดการเจอ

4. ทำ Ecosystem ของ Content นั้น ๆ : เมื่อสร้างเนื้อหาออกมาแล้ว สิ่งที่ต้องทำคือการสร้างสิ่งแวดล้อมของ Content นั้น ๆ เพื่อให้ Content นั้นโตต่อไปได้ โดยการวางแผนว่าจะปล่อยในแต่ละช่องทางที่มีอยู่ในมืออย่างไร และจะใช้สื่อไหนในการโปรโมทหรือสร้างกระแสของ Content นั้นขึ้นมา เพื่อทำให้ Content นั้นเกิดประสิทธิภาพที่ต้องการขึ้นมาได้ นอกจากนี้การทำ Ecosystem นี้ไม่ใช่ทำครั้งเดียวแล้วจบไป แต่คุณอาจจะต้องวางแผนว่าจะใช้ช่วงเวลาที่มีในการปั่นกระแสของเนื้อหานี้ขึ้นมาได้อย่างไรและจะปฏิสัมพันธ์กลับไปยามมีกลุ่มเป้าหมายมาปฏิสัมพันธ์ด้วยอย่างไร

core-content-strategy-statement-template-600x315

5. วัดผล : สิ่งสุดท้ายของการทำ Content Strategy แบบมีประสิทธิภาพ คือการมีตัวชี้วัดที่ดีว่าจะวัดผลว่าจะวัดในแต่ละ Content อย่างไรออกมา หรือวัดความล้มเหลวต่าง ๆ ว่าจะวัดได้อย่างไรเพื่อปรับปรุงต่อไป ซึ่งวัดผลนี้ไม่จำเป็นต้องมาทำหลังจบงานทีเดียว แต่สามารถวัดในระหว่างการทำงานได้เลย เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของการทำงานให้ได้ผลดีที่สุด ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้


  • 352
  •  
  •  
  •  
  •  
Molek
Head of Strategic Marketing ใน Integrated Service Agency ที่หนึ่ง ผู้หลงใหลในหลาย ๆ ที่มีความอยากรู้และเรียนรู้ในเรื่อง Startup, นวัตกรรม, การตลาด จากมุมมองหลาย ๆ ด้านและวัฒนธรรมของแบรนด์ต่าง ๆ