9 เทรนด์ของ AI ที่น่าจับตาในปี 2024 นี้

  • 10
  •  
  •  
  •  
  •  

 

ตอนนี้ไม่ว่ามองไปที่ไหน ๆ ทุก ๆ คนก็กำลังมีความสนใจในการใช้ AI กันอย่างมาก และอุตสาหกรรม AI นั้นกำลังมีมูลค่ากว่า190.61พันล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกาในปี 2025 นี้ คิดเป็นอัตราการเติบโตต่อปีสูงถึง 36.62% อุตสาหกรรม AI โดยเฉพาะ AI Software นั้นกำลังเปลี่ยนโลกอย่างมาก และเทรนด์นี้มีแต่ที่จะมีอัตราการเติบโตที่สูงและแรงมากขึ้นในทุก ๆ วันนี้ และอนาคตที่จะมาถึง AI กำลังจะสร้างเทรนด์ที่น่าจับตาเหล่านี้ขึ้นมาในปี 2024

1. Generative AI ที่จะกลายเป็นเครื่องมือทั่วไปที่ทุกคนต้องใช้ : Generative AI เป็น AI ที่สามารถเรียนรู้และสร้างสรรค์เนื้อหาต่าง ๆ ขึ้นมาจากข้อมูลทีไ่ด้เรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็น ข้อความ, ภาพ, code, scripts, ดนตรี, emails, จดหมาย และอื่น ๆ อีกมากมาย ด้วยการที่ AI พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วนี้เองทำให้ การใช้ Generative AI จะโตขึ้นอย่างมาก และจะกลายเป็นเครื่องมือพื้นฐานในหลาย ๆ องค์กรที่คนทำงานจะใช้ในการช่วยทำงานกัน

2. BYOAI จะมา ในความหมาย BYOAI คือ (Bring Your Own Artificial Intelligence) จะกลายเป็นกระแสใหม่ในการทำงาน และที่ทำงาน เพราะจะเป็นที่ทำงานที่พนักงานทุกคนนั้นเอาเครื่องมือและ Application AI ต่าง ๆ ของตัวเองมาทำงาน มาช่วยให้การทำงานนั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้เป็นผลพวงจากการที่ AI นั้นให้ผู้ใช้พัฒนาเครื่องมือต่อยอดของตัวเอง และใช้งานได้ง่ายมากขึ้น จากการสำรวจของ Forrester พบว่า 60% ของพนักงานจะใช้ AI ที่ตัวทำมามาช่วยงานต่าง ๆ ที่ทำมากขึ้น

3. Open source AI ในเมื่อตอนนี้ AI ต่าง ๆ ที่ถูกสร้างมานั้นถูกผูกกับองค์กรหรือบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีต่าง ๆทำให้ธุรกิจหลายภาคส่วนไม่อยากผูกติดกับเทคโนโลยีบริษัทใดบริษัทหนึ่ง ทำให้ Open source AI นั้นกำลังเติบโตขึ้นมาเป็นทางเลือกในการใช้งานเช่น GPT-J ที่มีความโปร่งใสในการทำงาน การยืดหยุ่น การจัดการที่ง่ายและมีต้นทุนที่คุ้มค่า

4. AI coding เมื่อ AI พัฒนาขึ้นทำให้งานบางอย่างจะถูกโยนให้ AI แก้ปัญหาทันที โดยหนึ่งในงานนั้นคือการเขียนโปรแกรม โดย Gartner คาดการณ์ว่าในปี 2028 บริษัทที่ทำ Software นั้นจะใช้ AI มาช่วยในการเขียนโค้ด 3 ใน 4 จากที่สำรวจทั้งหมด ซึ่งในต้นปี 2023 พบว่ามีเพียง 1 ใน 10 เท่านั้นที่ใช้ AI มาช่วยเขียนโค้ด

5. AI risk hallucination policy การมีนโยบายความเสี่ยงของการใช้ AI สิ่งหนึ่งที่ AI ยังทำได้ไม่ดีอย่างมากคือการมั่วคำตอบในการที่ต้องการออกมา และถ้าผู้ใช้ขาดการตรวจสอบก็จะใช้ข้อมูลนั้นผิดไปอย่างมากได้ ซึ่งกลไกนี้เรียกว่า AI hallucinations ทำให้บริษัทต้องมีนโยบายการระวัง ถึงขั้นมีประกันที่จะครอบคลุมถึงความเสียหาย AI นี้ขึ้นมา

6. AI TRiSM เป็น Framework ที่จะมาช่วยองค์กรจัดการความเสี่ยงของการพัฒนา AI ซึ่งย่อมาจาก Artificial Intelligence Trust, Risk, และ Security Management โดยมุ่งสนใจ 5 ด้านด้วยกันคือ 1.การเข้าใจว่า AI นั้นทำงานอย่างไรเพื่อให้ได้คำตอบมา 2. มี ModelOps 3.มีการตรวจความผิดปกติของข้อมูลที่ป้อน 4. Adversarial attack resistance การป้องกันการโจมตี และ 5. Data protection

7. AI เฉพาะบุคคล ด้วยการที่ AI หลาย ๆ ตัวเปิดให้คนต่อยอดทำให้ และพัฒนามากขึ้นทำให้ Gartner รายงานว่าภายในปี 2026 App ส่วนใหญ่จะมาพร้อม AI ที่ทำหน้าที่ personalized และทำ adaptive user interfaces เฉพาะบุคคลมาเลย

8. Quantum AI อีกเทคโนโลยีสำคัญที่กำลังพัฒนาคือ Quantum computing ซึ่งเป็นพลังการประมวลผลขั้นสูงมาผนวกกับพลังของ AI ทำให้เกิดเป็น quantum AI ทำให้การสร้าง AI models ที่มีความซับซ้อนนั้นจะง่ายขึ้นอย่างมาก

9. AI Legislation และ Ethical AI เมื่อ AI พัฒนาขึ้นก็ต้องมีการควบคุมการใช้งาน AI โดยทาง European Commissionได้นำเสนอร่างกฏหมายที่ดูแลกำกับ AI ที่ชื่อ The EU AI Act ออกมา โดยจะใช้ในปี 2024 นี้ และเมื่อมีกฏหมายก็ต้องมีจริยธรรมการใช้ AI ว่า AI นั้นมีจริยธรรมเพียงพอไหมต่อการใช้งาน มีอคติ หรือความโปร่งใส การอธิบายซึ่งคำตอบว่าได้มายังไงมากน้อยแค่ไหน รวมถึง ความปลอดภัยและ Privacy

ด้วยการที่ AI พัฒนามากมายเช่นนี้ ในปีนี้เราจะเห็นว่าบริการที่ใช้งานหลาย ๆ อันจะมีเบื้องหลัง AI ที่ทำงานอยู่เบื้องหลังทั้งสิ้นมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำงานของ Algorithm ต่าง ๆ การทำงานของ Call Center ที่จะเป็น AI มากขึ้น รวมถึงอาชีพที่เกี่ยวข้องกับ AI ที่จะมาแรงในปีนี้เช่นกัน


  • 10
  •  
  •  
  •  
  •  
Molek
Head of Strategic Marketing ใน Integrated Service Agency ที่หนึ่ง ผู้หลงใหลในหลาย ๆ ที่มีความอยากรู้และเรียนรู้ในเรื่อง Startup, นวัตกรรม, การตลาด จากมุมมองหลาย ๆ ด้านและวัฒนธรรมของแบรนด์ต่าง ๆ