Blockchain อนาคตใหม่ของจีน ครองอันดับหนึ่งจดลิขสิทธิ์มากที่สุดในโลก

  • 213
  •  
  •  
  •  
  •  

blockchain

ในทุกวันนี้ เราจะได้ยินคำว่า เทคโนโลยี Blockchain หลายคนอาจสงสัยว่าคืออะไร ในขณะที่หลายคนก็พอจะรู้อยู่แล้ว

Blockchain อาจจะเป็นได้ทั้งกระแสชั่วคราว และทิศทางใหม่ของโลกก็ได้เช่นกัน แต่ที่แน่ชัดคือ ในเวลานี้กำลังได้รับความสนใจจากทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงการพัฒนาอย่างจริงจัง ซึ่งไม่นานนี้ก็มีรายงานว่า จีนขึ้นแท่นครองแชมป์เป็นประเทศที่ยื่นจดสิทธิบัตรทางด้าน Blockchain สูงสุดของโลก ตั้งแต่ปี 2015-2018 อ้างอิงข้อมูลจาก Global Blockchain Enterprise Patent Ranking (IPRdaily report) และ http://finance.ifeng.com

ก่อนอื่นมาทบทวนและรู้จักกันเล็กน้อยว่า Blockchain คืออะไร เพราะมันอาจจะไม่ได้ไกลตัวอย่างที่หลายท่านคิดครับ

Blockchain คืออะไร

Blockchain คือ นวัตกรรมเทคโนโลยีในการจัดเก็บข้อมูลที่มีลักษณะเป็นบล็อกเรียงต่อกันเป็นสาย แต่ละบล็อกก็จะมีชุดข้อมูลที่มีลักษณะสามารถเชื่อมโยงไปยังบล็อกต่าง ๆ ก่อนหน้าได้

สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาเรื่อง Blockchain จะพบว่าการนำมาใช้ไม่เพียงแต่ด้านระบบการเงินเท่านั้น แต่มีการประยุกต์ใช้กับระบบอื่น ๆ อีกด้วย

ตัวอย่างเช่น เราสามารถใช้มันเพื่อติดตามเส้นทางของการขนส่งสินค้า ทำให้เราสามารถทราบได้ทันทีว่า สินค้ารายการไหนกำลังถูกส่งออกมาจากคลังสินค้าที่ไหน ส่งให้ใคร แล้วยังตรวจสอบได้ว่า สินค้านั้นหมดอายุเมื่อใด ดังนั้นถ้ามีกรณีที่สินค้ามีปัญหา ก็สามารถสืบย้อนกลับไปได้ทันทีว่าติดขัดที่ตรงไหน

ที่สำคัญคือ ข้อมูลที่อยู่ใน Blockchain จะไม่สามารถลบออกไปให้หมดได้ เพราะในความเป็นจริงแล้วทุกคนจะมีข้อมูลนี้เหมือนกันหมด ซึ่งถ้าจะลบก็ต้องตามลบทุกคน ก็ทำไม่ได้อยู่แล้ว

Blockchain จะช่วยอะไรได้บ้าง

การใช้ Blockchain มีประโยชน์มหาศาล อาทิ

  • สามารถติดตามการบันทึกข้อมูลย้อนหลังทั้งหมดได้
  • ช่วยให้ธุรกิจและกิจการของเราโปร่งใสมากขึ้น
  • ช่วยลดปัญหาการรวมศูนย์จากส่วนกลาง
  • ข้อมูลสามารถแชร์ไปได้เป็นห่วงโซ่ โดยทราบได้ว่าใครเป็นเจ้าของของข้อมูลนั้นๆ
  • ข้อมูลเราถูกบันทึกไว้ใน Blockchain จะแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงได้ยาก

นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลจาก Global Blockchain Enterprise Patent Ranking (IPRdaily report) ที่ชี้ว่า ภาครัฐและภาคเอกชนของจีน ได้ร่วมกันลงทุนด้านเทคโนโลยี Blockchain โดยในส่วนของภาครัฐนั้นได้มีการให้ทุนและอัดเม็ดเงินให้กับภาคเอกชนและโครงการต่าง ๆ เพื่อทำการวิจัยอย่างจริงจัง

Alibaba เป็นผู้จดลิขสิทธิ์อันดับหนึ่ง

Alibaba ยังขึ้นแท่นเป็นบริษัทที่มีการยื่นจดสิทธิบัตรในด้านนี้สูงสุด มากกว่า 90 รายการ แซงหน้า IBM ยักษ์ใหญ่ทางด้าน IT ของสหรัฐอเมริกาและของโลก

นอกจากนี้ จีนยังได้มีการลงทุนในด้าน Blockchain คือการตั้งกองทุน Beijing Blockchain Ecosystem Fund เป็นมูลค่ากว่า 1,000 ล้านหยวน เพื่อที่จะนำไปใช้กับอุตสาหกรรมด้านต่าง ๆ ของประเทศต่อไปด้วย

สำหรับในภาพรวม จีนได้มีการยื่นขอจดสิทธิบัตรเป็นจำนวนมากกว่า 284 รายการ โดยข้อมูลดังกล่าวมาจากในปี 2017 การจดสิทธิบัตรดังกล่าวเป็นจำนวนมากกว่าสหรัฐอเมริกาซึ่งขอยื่นจดไว้ที่ 112 รายการ ซึ่งถือว่าสูงสุดในโลก

คนจีนติดตามสูงสุดใน WeChat Official Accounts

WeChat เป็นแอพลิเคชั่นที่คนจีนใช้งานสูงสุดมากกว่า 1,000 ล้านคน ซึ่งนั่นเท่ากับว่าสิ่งที่คนจีนติดตามกันมากใน WeChat Official Accounts ก็ย่อมเป็นกระแสในเวลานั้นด้วยเช่นกัน

แล้วในปี 2018 ที่ผ่านมา อันดับแรกสุดที่มีคนติดตามบน WeChat Official Accounts ก็คือ 数字货币趋势狂人

Blockchain china

สำหรับ Account ที่ว่านี้ จะเป็นการให้ข้อมูลและวิเคราะห์เกี่ยวกับกระแสนิยมหรือเทรนด์ของเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) ซึ่งเป็นสกุลเงินใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นบนระบบคอมพิวเตอร์ ข้อเด่นที่สุดก็คือจะไม่มีตัวกลางคอยควบคุมเหมือนสกุลเงินแบบดั้งเดิม ซึ่งก็เป็นหนึ่งในเรื่องของ Blockchain ที่เป็นกระแสมาแรงที่สุด ซึ่งก็มีจำนวนผู้ติดตามมีจำนวน Follower มากถึง 1.2 ล้านคน และมีจำนวนผู้อ่านข้อมูลที่ถูกแชร์มาจากบัญชีนี้ เดือนละ 1.5 ล้านคน

ทิศทางในอนาคตของ Blockchain กับประเทศจีน

เนื่องจากจีนมองว่า นี่คือกระแสใหม่ในโลกยุคต่อไป รัฐบาลจีนจึงให้ความสำคัญมาก และก็ได้เริ่มตั้งนิคมอุตสาหกรรม ”China HangZhou Blockchain Industrial park” เพื่อให้เป็นศูนย์รวมของบริษัททางด้าน Blockchain เป็นการเฉพาะ และรองรับที่จะขยายในอนาคต

ประธานาธิบดีจีน สีจิ้นผิง ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก เขาได้กล่าวไว้ในงานประชุม Chinese Academy of Sciences ในปีที่ผ่านมาว่า เทคโนโลยี Blockchain จะเป็นกุญแจสำคัญในการปฏิวัติด้านเทคโนโลยีในศตวรรษที่ 21 และต่อไป

สำหรับจีนเอง ก็เล็งเห็นว่านี่คือโอกาสสำคัญที่ไม่ควรพลาด ต้องจับกระแสไว้ เพราะมันจะเป็นเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนแปลงโลกในศตวรรคใหม่ ซึ่งแนวโน้มนี้ก็เชื่อว่าจะเป็นเช่นเดียวกับปัญญาประดิษฐ์ A.I. ที่จีนได้ก้าวเข้ามาทางด้านการวิจัยอย่างเต็มตัว

ที่สำคัญคือ ในตลาดโลกที่สหรัฐอเมริกาครอบครองอยู่ในหลายพื้นที่นั้น การรุกทางด้านนี้จะเป็นโอกาสสำคัญที่จะทำให้จีนแข่งขันกับสหรัฐอเมริกาได้อย่างเต็มที่ด้วย

ซึ่งในปัจจุบัน ยักษ์ใหญ่ด้านนวัตกรรมของจีนไม่ว่าจะ Alibaba Tencent และ JD.com ได้มีการนำเทคโนโลยีด้านนี้เข้ามาช่วยสำหรับการตรวจสอบการกระจายสินค้า การขนส่ง การหมดอายุของสินค้าและอื่น ๆ อีกด้วย

สำหรับผู้ประกอบการไทยแทบจะในทุกสาขา ก็มีความจำเป็นที่จะต้องอัพเดทความคืบหน้าสำหรับเรื่องของ Blockchain ต่อไปเช่นกันครับ

เขียนโดย อิทธิชัย อรรถกระวีสุนทร
Expertise: China Marketing
อ่านบทความ Exclusive เพิ่มเติมได้ที่นี่

Copyright © MarketingOops.com


  • 213
  •  
  •  
  •  
  •  
Ittichai
ผู้ก่อตั้ง บริษัท เลเวลอัพ โฮลดิ้ง จำกัด ที่ปรึกษาด้านการตลาดจีน เจ้าของเพจ Level Up Thailand, Level Up China และ เว็บไซต์ Level Up Thailand (https://www.levelupthailand.com) มีความรู้ด้านการตลาดออนไลน์ในจีน เป็นนักพูดสร้างสรรค์ และผู้เขียนหนังสือ “บุกตลาดจีนด้วยโซเชียลมีเดีย”