บทเรียนการทำโฆษณาให้ปังจาก Superbowl

  • 119
  •  
  •  
  •  
  •  

Superbowl เป็นเทศกาลกีฬาที่ครองใจผู้ชมอเมริกามาอย่างยาวนาน และมีการเคลมอย่างมากว่านัดชิง NFL นี้เป็นกีฬาที่มีคนติดตามมากที่สุดในโลกในบรรดาทุกกีฬาที่มี ซึ่งทำให้ช่วงเวลาที่ตนติดตามนี้จะมีสายตานับร้อยล้านคนทั่วโลกนั้นดูอยู่ และช่วงเวลาที่ขายใน Superbowl นี้ก็มีราคาแพงมหาศาลอย่างมาก ซึ่งหลาย ๆ แบรนด์ก็อยากจะได้ช่วงเวลานี้เพื่อทำให้แบรนด์ตัวเองนั้นปรากฏต่อสายตานับล้าน ๆ ทั่วโลก และสร้างจดจำหรือรู้จักแบรนด์ไปยังระยะเวลายาวนานจนกว่าจะมีความต้องการขึ้นมา

_80690331_sb_ads_budweiser

ด้วยการที่ช่วงเวลาที่แพงอย่างมาก ทำให้นักการตลาดที่ซื้อช่วงเวลานี้ต้องทำโฆษณาที่ขึ้นในเวลานี้ให้คุ้มค่าอย่างมาก และต้องทำให้แบรนด์ตัวเองเป็นแบรนด์ที่ Talk ที่สุดในช่วงเวลาออกอากาศให้ได้ งานที่เกิดขึ้นจริงไม่ใช่แค่โฆษณาใน Superbowl  แต่กลายมาเป็นแคมเปญหนึ่งที่ต้องคิดเพื่อให้ช่วงเวลา Superbowl ที่โฆษณานั้นออกคือจุด Peak สุดของแบรนด์นั้นเอง การเข้าใจธรรมชาติของช่วงเวลานี้และการเตรียมตัวที่ถูกต้องจะทำให้แบรนด์นั้นสามารถใช้ช่วงเวลานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างมาก ซึ่งมีนักวิจัยได้วิจัยออกมา แนะนำกลยุทธ์ดังนี้เพื่อให้ทำ Ads Campaign ที่ดีที่สุดออกมาใน Superbowl ได้

1. คิดถึง Social, Digital และ Mobile ไม่ใช่แค่ TV

httpv://www.youtube.com/watch?v=4pLfVYkSV1A

ในการทำ Superbowl นี้จะต้องคิดเหมือนการทำ Integrated Campaign ว่าจะต้องใช้ช่องทางต่างๆให้เป็นประโยชน์เพื่อให้เชื่อม Story ของโฆษณาไปยังช่องทางต่างๆหรือสามารถเข้าถึงได้ผ่านช่องทางต่างๆได้ด้วยแบรนด์ที่ดีจะต้องเห็นว่าช่องทาง Social, Digital และ Mobile จะเป็นตัวช่วยในการ Boost Ads Campaign นี้จากการวิจัยของ Facebook ร่วมกับ Simulmedia แสดงให้เห็นว่าแบรนด์นั้นสามารถสร้าง Conversion rate เพิ่มขึ้น 5 เท่าเมื่อเห็นโฆษณาทางทีวีพร้อมๆกับ Facebook Video ของ Ads นั้นด้วยการใช้ Social/Digital/Mobile สามารถทำให้แบรนด์นั้นเสนอเนื้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมเข้าไปในตัวได้หรือสามารถตอบโต้ปฏิกิริยาต่างๆของผู้ชมได้ทันทีตอนดูโฆษณา Superbowl ได้ด้วยซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ Warroom ในการจัดการช่วงเวลานี้

2. สร้าง Showcase และทำความบันเทิงให้คนดู

httpv://youtu.be/Y09z8lwOEYA

Ads ที่ทำมาดีจะใบ้ตัวแบรนด์เป็นลำดับอย่างดีไม่ว่าจะเป็นการซ่อนโลโก้ สี และอื่น ๆ ที่เป็น Element ของแบรนด์เข้าไป และสร้างช่วงเวลาของความบันเทิงเข้าไปเพื่อสร้างความต้องการในการซื้อเข้าไปให้สูงสุดให้ได้ จากการวิจัยของ Harvard Business School  พบว่าการให้คำใบ้ของแบรนด์ตั้งแต่แรกจะสามารถทำให้ความบันเทิงที่ตามต่อมานั้นมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นคือผู้บริโภคที่ดูโฆษณานี้จะเกิดความคิดเชื่อมโยงในความรู้สึกบันเทิงนั้นเข้าสู่กับแบรนด์ วิธีการนี้เป็นกระบวนการจิตวิทยาที่จะให้ผู้บริโภคเชื่อมความรุ้สึกตัวเองกับแบรนด์ทำให้เกิดความรู้สึกต้องการแบรนด์ขึ้นมาได้ หรือมีความคิดว่าแบรนด์นี้ทำให้รู้สึกดีย่อมมีความต้องการที่จะซื้อเพิ่มขึ้นได้จากปกติ  ลองดูตัวอย่างโฆษณาของ Pepsi ที่ Harvard ที่ใช้เป็นตัวอย่างที่ผสมคำใบ้แบรนด์ผ่านคู่รักที่กำลังดื่มเครื่องดื่ม และมาถึงเรื่องที่ให้ความบันเทิงหลังจากนั้น ซึ่งแบรนด์ที่ให้ความบันเทิงก่อนแล้วให้รู้ว่าแบรนด์อะไรที่ได้ผลที่มีประสิทธิภาพต่ำลงจากวิธีนี้

Screen Shot 2560-07-16 at 7.17.23 PM

3. ปล่อยของก่อนวันจริง

0*bHe161IE0LAUz_sD.

หลาย ๆ คนชอบคิดรวมถึงนักการตลาดของไทยด้วยว่า ของที่ทำมาเพื่อช่วงเวลาดังกล่าวไม่ควรปล่อยก่อน เพราะถ้าคนดูแล้ว จะไม่ได้อยากดูในตอนที่ฉายจริง ๆ ในช่วงเวลา Superbowl และผู้ชมอาจจะขาดความตื่นเต้นเมื่อโฆษณามาช่วงเวลาจริง ๆ ด้วย แต่จากการศึกษาชอง Unruly พบว่าจาก 7 ใน 10 ปีหลังมานี้โฆษณาที่ฉายผ่าน Superbowl นั้นจะออกอากาศก่อนที่จะมี Superbowl เกิดขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นคือการที่ออกอากาศก่อน Superbowl นั้นสามารถเพิ่มการแชร์บน Social media ได้ทั้งก่อนและหลังเกมอย่างมากแทนที่จะมีการแชร์ในช่วงเวลาในการแข่งขันอย่างเดียว ในตัวอย่างนี้ศึกษาจากโฆษณา T-mobile ที่มียอดการแชร์พุ่งสูงก่อนและหลัง superbowl และกลายเป็นโฆษณาที่ถูกจดจำอย่างมากหลังจากนั้น

0*eqgS7KqDCuK7vwBV.

จากบทเรียนการทำโฆษณาใน Superbowl นี้ทำให้นักการตลาดสามารถเอาไปปรับใช้ในการทำ Big Ads Campaign  อื่น ๆ ในไทยได้ การมองและใช้กลยุทธ์ในการทำโฆษณาที่ถูกต้องย่อมทำให้ Ads Campaign นั้นสามารถแสดงประสิทธิภาพได้อย่างเต็มที่ ไม่ได้ทำให้เกิดความรำคาญหรือทำให้ผู้ชมเปลี่ยนช่องหนีจากโฆษณานั้น ๆ ไป การทำทุกอย่างให้ถูกย่อมทำให้คุณแตกต่างจากโฆษณาทั่วไปได้อย่างแน่นอน


  • 119
  •  
  •  
  •  
  •  
Molek
Head of Strategic Marketing ใน Integrated Service Agency ที่หนึ่ง ผู้หลงใหลในหลาย ๆ ที่มีความอยากรู้และเรียนรู้ในเรื่อง Startup, นวัตกรรม, การตลาด จากมุมมองหลาย ๆ ด้านและวัฒนธรรมของแบรนด์ต่าง ๆ