ปี 2564 เป็นปีที่ LINE ประเทศไทยครบรอบ 10 ปี โดยถือว่า ที่ผ่านมามีการพัฒนาและนำเสนอบริการรูปแบบใหม่อย่างต่อเนื่อง จนตอนนี้กลายเป็นแอปฯที่เข้าไปมีบทบาทมากขึ้นในชีวิตประจำวันของคนไทยก็ว่าได้ ดังนั้น เราจึงขอสรุปเส้นทางการเติบโตที่น่าสนใจที่เกิดขึ้นในปีนี้ ซึ่งเป็นโอกาสครบรอบ 10 ปีของ LINE ในไทย
จำนวนผู้ใช้ในปี 64
-มีจำนวนอยู่ที่ 50 ล้านคน และมากกว่า 2 ใน 3 ของประชากรไทยทั้งหมดใช้ LINE
– LINE Group VDO Call มีการใช้สูงถึง 99% (ระหว่างม.ค. – ต.ค. 64 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า)
-LINE Meeting เติบโตสูงขึ้นถึง 191% (นับตั้งแต่ช่วงเปิดตัวเมื่อ ส.ค. 63) สะท้อนให้เห็นว่า คนไทยนอกจากจะใช้ LINE สื่อสารในชีวิตประจำวันแล้ว ยังใช้ในการทำธุรกิจและการทำงานช่วง Work From Home อีกด้วย
-LINE OpenChat เป็นคอมมูนิตี้ออนไลน์ที่ต้องจับตามอง เพราะนอกจากจะมียอดผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น 52% และมีกรุ๊ปใหม่ๆ เกิดขึ้นถึง 106% (ม.ค. – ก.ย. 64 เทียบกับปีก่อนหน้า) ซึ่งตัวเลขดังกล่าวไม่ได้สะท้อนถึงจำนวนผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้น แต่ยังเห็น OpenChat ในหลายบทบาท โดยเฉพาะการเรียนออนไลน์, เกม, แฟนด้อม, คอมมูนิตี้แหล่งรวมความรู้ด้านการเงินและการลงทุน หรือการใช้ เพื่อเป็นศูนย์ประสานงานและศูนย์ให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์เกี่ยวกับโควิด-19
LINE Official Account หรือ LINEOA โตก้าวกระโดด โดยมียอดการใช้งาน 5 ล้านบัญชี (ณ เดือน ส.ค. 64) เติบโต 25% ภายใน 1 ปี โดยผู้ประกอบการที่ใช้มีตั้งแต่องค์กรใหญ่, MSMEs รวมไปถึงแบรนด์แฟชันลักชัวรี
LINE Ads Platform ช่องทางการลงโฆษณาเติบโต 42% (ณ เดือน ต.ค.64 เทียบกับปีก่อนหน้า) โดย Smart Channel ยังคงครองตำแหน่งโฆษณายอดฮิต ครองใจนักการตลาดในตลาดโฆษณาออนไลน์ที่มีตัวเลขการเติบโต 63% นับตั้งแต่ต้นปี
LINE SHOPPING ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยยอดขายเติบโตเกือบ 5 เท่า จากปีก่อนหน้า โดยสินค้าความงาม แฟชั่น และอาหารครองแชมป์ยอดขายสูงสุด ขณะเดียวกันด้าน LINE SHOPPING Seller ทั้งธุรกิจเล็กใหญ่ก็เพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่า โดยมีโซลูชัน MyShop ช่วยเพิ่มขีดการแข่งขันให้ผู้ค้าบนสนามอีคอมเมิร์ซเมืองไทย
LINE STICKERS มีจำนวนสติกเกอร์ที่วางขาย ณ ปัจจุบันกว่า 4.4 ล้านเซต เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 20% ปัจจุบันมีครีเอเตอร์กว่า 9 แสนราย ขณะที่เสียงรอสายเสียงเรียกเข้า LINE MELODY ก็เดินหน้าเพิ่มเพลงฮิตใหม่ ๆ รวมกว่า 37,000 เพลง ยอดดาวน์โหลดเติบโต 57% จากปีก่อน ถือเป็นบริการที่ได้รับความนิยมขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งตอนนี้มีผู้ใช้งานกว่า 2.4 ล้านราย
LINE TV ที่จะให้บริการในไทยถึงวันที่ 31 ธ.ค.นี้ ก็ขอส่งท้ายด้วยความประทับใจด้านงานคุณภาพ เพราะสามารถพาออริจินัลคอนเทนต์กวาดรางวัลทั้งในและต่างประเทศตลอดปี โดยเฉพาะ “แปลรักฉันด้วยใจเธอ” กับรางวัล International Drama of The Year จากเวที Seoul International Drama Awards เกาหลีใต้
LINE TODAY มียอดเพจวิวโตถึง 50% จากปีก่อน เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ด้วยสารพันคอนเทนต์ไลฟ์สไตล์หลากหลาย คอนเทนต์วิดีโอสั้นมาแรงที่มีผู้ชมเพิ่มถึง 7 เท่า และไม่ลืมที่จะเอาใจสายมูด้วยฟีเจอร์เซียมซีจาก 80 วัดดัง พร้อมมี LINE DOODUANG บริการใหม่ที่ออกมาเพื่อเสริมประสบการณ์ขอพร – แก้บนออนไลน์ได้โดยไม่ต้องออกจากบ้าน
LINE GAME มียอดผู้เล่นเติบโตในทุกเกม โดยเกมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ LINE Let’s Get Rich ในขณะที่เกมที่เติบโตและขายไอเท็ม (Gross Sale) ได้มากที่สุดคือ LINE Rangers ส่วนสายการ์ตูนอย่าง LINE WEBTOON ก็มียอดวิวของออริจินัลคอนเทนต์สูงขึ้นถึง 16% (เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า) ส่งให้ยอดขายโดยรวมสูงขึ้นถึง 85% โดยหมวดหมู่คอนเทนต์ที่มาแรงมากในปีนี้ได้แก่แอกชัน แต่ที่ได้รับความนิยมสูงสุดยังคงเป็นแนวโรแมนติก
LINE MAN จะเรียกว่าเป็นปีทองก็คงไม่ผิด เพราะการเติบโตแบบก้าวกระโดด รุกหนักเพิ่มพื้นที่ให้บริการครอบคลุม 77 จังหวัด 222 อำเภอ ดันยอดผู้ใช้ทั่วประเทศเติบโต 2.5 เท่า ครองแชมป์ฟู้ดเดลิเวอรีที่มีร้านอาหารเยอะที่สุดกว่า 500,000 ร้าน ความสำเร็จในการขยายบริการครอบคลุมทั่วประเทศ ถือเป็นหลักไมล์แรกที่ตั้งเป้าช่วยพัฒนาและยกระดับธุรกิจท้องถิ่นในไทย ผ่านการเชื่อมต่อลูกค้า ไรเดอร์ และร้านอาหารท้องถิ่นเข้าด้วยกัน
แชท – ยืม – โอน – จ่าย ดันบริการ Fintech ของ LINE โตถ้วนหน้า เห็นได้จากการเติบโตของบริการด้านการเงิน อย่าง LINE BK บริการ social banking รายแรกของไทย ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา LINE BK มีผู้ใช้บริการกว่า 3.9 ล้านราย มีการเปิดใช้งานบัญชีเงินฝาก 4.5 ล้านบัญชี บัตรเดบิต 2 ล้านบัตร ส่วนใหญ่เป็นบัตรประเภทออนไลน์ ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมช้อปปิงออนไลน์ที่สูงขึ้น ขณะที่ด้านบริการให้กู้ยืมนั้นมีวงเงินให้ยืมทั้งสิ้นกว่า 5 แสนบัญชี เพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เชื่อถือได้สำหรับเหล่าฟรีแลนซ์และผู้ที่ไม่มีรายได้ประจำ
Rabbit LINE Pay มีผู้ใช้รายเดือนเติบโตขึ้น 35% เมื่อเทียบกับต้นปี พบผู้บริโภคมีแนวโน้มหันมาใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตและเดบิตมากขึ้นเป็น 31% ขณะที่มูลค่าการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตสูงขึ้น 126% เมื่อเทียบกับต้นปีเพราะความสะดวกและคุ้มค่าเช่นเดียวกัน
