LINE ถือเป็นแอพพลิเคชั่นในด้านการ Chat ที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ด้วยลูกเล่นที่มีความหลากหลาย ที่สำคัญคือจุดเด่นในเรื่องของสติ๊กเกอร์ที่มีผู้นิยมใช้สูง ประกอบกับในช่วยหลัง LINE เริ่มเข้าสู่ธุรกิจเกมบนมือถือและมีหลายเกมที่ได้รับความนิยมอย่างสูง อาทิ คุกกี้รัน เกมเศรษฐี เป็นต้น และยังอาจกล่าวได้ว่า LINE เป็นบริษัทเทคโนโลยีที่มีคนไทยอยากเข้าไปทำงานด้วยมากที่สุด
โดยในปีที่ผ่านมา LINE ประสบความสำเร็จจากการเปิดตัว LINE TV ที่รวบรวมคอนเท้นต์ที่เรียกได้ว่าเป็นกระแสมาออนแอร์ในรูปแบบทีวีออนดีมานด์ที่สามารถดูเมื่อไหร่ก็ได้ทุกที่ทุกเวลา โดยเปิดตัวไปเมื่อปี 2014 และ LINE Man ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จนมีจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
นายอริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้จัดการ LINE ประเทศไทย เห็นว่าอนาคตประเทศไทยจะเข้าถึงอินเตอร์เน็ตผ่านสมาร์ทโฟนเป็นหลัก นั่นทำให้ LINE มองเห็นถึงกระแส Mobile Centricity หมายความว่า ไม่ว่าจะเป็นการหาข้อมูล ซื้อสินค้า ดูหนัง ฟังเพลงจะสามารถใช้งานทุกอย่างในสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียว นั่นทำให้ LINE มองกลยุทธ์ในการผลักดันให้เกิด MobilePortal โดยเน้นให้สมาร์ทโฟนเป็นตัวหลักในการเชื่อมต่อกับทุกๆ ฟังก์ชั่นที่ LINE เปิดให้บริการ
กลยุทธ์ 4 ด้านสำหรับ LINE
ซึ่งในปี 2017 นี้ LINE เตรียมกลยุทธ์ไว้ทั้งสิ้น 4 ด้านด้วยกัน ประกอบไปด้วยกลยุทธ์ด้านการสื่อสาร (Communication) ซึ่งจากผลสำรวจพบว่ามีการใช้ไลน์ต่อคนอยู่ที่ประมาณวันละ 234 นาทีหรือ 1 ใน 3 ของวัน โดยมีการใช้ LINE ในการติดต่อสื่อสารราว 70 นาที และผู้ใช้สมารืทโฟนกว่า 94% ใช้บริการสนทนาผ่าน LINE โดยในประเทศไทยมีผู้ใช้สมาร์ทโฟนในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตราว 44 ล้านราย
กลยุทธ์ในด้านเนื้อหา (Content)
ซึ่งมีการพบว่าคนไทยกว่า 90% ดูวิดีโอบนสมาร์ทโฟน ที่สำคัญคนไทยดูวิดีโอบนสมาร์ทโฟนมากกว่าทั่วโลกถึง 2 เท่า นั่นทำให้ในปี 2017 จะให้ความสำคัญกับ LINE TV มากขึ้น โดยจากปี 2015-2016 มีจำนวนผู้ชมรายการผ่าน LINE TV เพิ่มขึ้นถึง 136% ปี 2017 LINE จึงเตรียมขยายฐานกลุ่มคนดูจากเด็กวัยรุ่นสู่วัยผู้ใหญ่มากขึ้นด้วยคอนเท้นต์ในรูปแบบ Sports และ Beauty
นอกจากนี้ในส่วนของ LINE Today ที่เปิดให้บริการไปเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นบริการในนรูปสื่อสิ่งพิมพ์ที่เข้ามาอยู่ในโลกออนไลน์ โดยตั้งเป้าเป็นที่ 1 ของแหล่งข้อมูลข่าวสารที่เป็นสิ่งพิมพ์ในสมาร์ทโฟน
กลยุทธ์ด้านบริการ (Service)
ในส่วนของการบริการนั้น LINE พบว่า แอพพลิเคชั่นในปัจจุบันทั้งในระบบ iOS และ Android มีราว 2.2-2.6 ล้านแอพฯ ในระบบ แต่จากการสำรวจพบว่า ในสมาร์ทโฟนจะมีแอพพลิเคชั่นที่ใช้งานจริงๆ ไม่เกิน 32 แอพ โดยพื้นที่หน่วยความจำในเครื่องส่วนใหญ่จะเป็นการเก็บรูปภาพ วิดีโอและเพลงเป็นส่วนใหญ่
LINE จึงเปิดบริการ Chatbot ที่ช่วยลดการใช้แอพฯ โดยเปิดตัวฟังก์ชั่น LINE Finance ซึ่งระบบ Chatbot จะสามารถให้รายละเอียดในเรื่องของตลาดหุ้น ได้อย่างลงลึกในรายละเอียด นอกจากนี้ยังมีการร่วมมือกับพันธมิตรในการเปิดบริการอย่าง Wongnai ที่ระบบ Chatbot จะสามารถหาร้านอาหารในบริเวณจุดที่อยู่ผ่านดาต้าเบสของ Wongnai หรือการจับมือกับคนอร์ในการเผยสูตรลับการทำอาหารต่างๆ ผ่านความช่วยเหลือของ Chatbot
ระบบ Chatbot นั้นทาง LINE ชี้ว่ามีการเตรียมความพร้อมในเรื่องของ Chatbot มานาน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการพัฒนาระบบ AI ที่ให้ Chatbot มีความฉลาดสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้
กลยุทธ์ในด้านการขายสินค้าและบริการ (Commerce)
สำหรับตลาด e-Commerce ถือเป็นตลาดการค้าที่มีสัดส่วน 3.8% ของมูลค่าค้าปลีกของไทย LINE จึงเตรียมนำระบบค้าปลีกที่มีสัส่วนมหาศาลเข้าสู่ระบบ e-Commerce หรือเป็นการนำ Offline เข้าสู่ Online ที่ LINE เรียกว่า O2O โดยผ่านอุปกรณ์ชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า Beacon
ซึ่งตัว Beacon เป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กที่สามารถติดไว้ในจุดต่างๆ ของร้านค้าออนไลน์ โดย Beacon จะสามารถจับสัญญาณบลูธูทของโทรศัพท์แล้วส่งข้อมูลกลับไปยังร้านค้า เพื่อให้ร้านค้าทราบว่าลูกค้ามีกี่ราย เป็นใครบ้าง เลือกซื้อสินค้าประเภทใดและสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นไปสร้างโปรโมชั่นแบบส่วนตัวให้กับลูกค้าแต่ละรายได้
นอกจากนี้บริการ LINE Man ที่เพิ่งเปิดตัวนั้นจนได้รับความนิยมสูงถึงขนาดยกให้ LINE Man เป็นบริการด้านการส่งอาหารอันดับ 1 ของประเทศ ซึ่ง LINE ยังเตรียมพัฒนารูปแบบการให้บริการของLINE Man ไปสู่การรับส่งพัสดุสินค้า นอกเหนือจากการส่งเอกสารและส่งอาหารเท่านั้น โดยมีการจับมือกับพัธมิตรอย่าง Alpha เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้งาน
LINE ตั้งเป้าเป็นเพื่อนที่ดีกับทุกวงการ
จากความหลากหลายในเรื่องของการให้บริการ ส่งผลให้ LINE ตั้งเป้าหมายองค์กรว่าจะเป็นเพื่อที่ดีสำหรับ 4 กลุ่มอุตสาหกรรมใหญ่ ทั้งในกลุ่มของ Advertiser, Publisher, Retailer และกลุ่ม Startup ซึ่งทุกบริการของ LINE สามารถตอบสนองความต้องการของ 4 กลุ่มเหล่านี้ได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็น LINE Today ที่ช่วยให้กลุ่ม Publisher สามารถนำสื่อสิ่งพิมพ์ในโลก Offline เข้าสู่โลก Online
หรือเทคโนโลยี Beacon ที่ช่วยให้กลุ่ม Retailer สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างง่ายดายผ่านเทคโนโลยีไร้สาย ในขณะที่ Sticker LINE ที่ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ก็เป็นอีกหนึ่งรูปแบบในการประชาสัมพันธ์สำหรับกลุ่ม Advertiser และแม้แต่กลุ่ม Startup ที่สามารถนำ API ของ LINE เพื่อไปพัฒนาระบบต่อ หรือการระบบ Chatbot ไปต่อยอดในการพัฒนาต่อไป
Copyright © MarketingOops.com
