ใครๆ ก็รู้ว่าการทำนายอนาคตเป็นเรื่องยาก แต่ในขณะเดียวกันมันก็เป็นเรื่องน่าสนุกที่จะทำ โดยเฉพาะเรื่อง Digital Marketing Trends ยิ่งบอกได้ยาก เพราะทุกอย่างผ่านเข้ามา และผ่านออกไปอย่างรวดเร็ว แต่ถ้านำข้อมูลของปีที่ผ่านมา บวกกับการคาดการณ์นิดๆ หน่อยๆ ก็พอจะจับทางได้บ้าง จากอัตราการใช้ Social Media และความก้าวล้ำของโทรศัพท์มือถือในปัจจุบัน ส่งผลให้ Digital Marketing เปลี่ยนแปลงไปทุกขณะ แบรนด์หน้าใหม่ก็เกิดขึ้นไม่น้อย หน้าเก่าก็ต้องรักษาพื้นที่ให้ได้ และจะทำอย่างไรให้คุณยังมีศักยภาพการแข่งขันอยู่ ลองมาดูกันว่า 5 เทรนด์การตลาดในโลกดิจิตอลในปี 2015 จะมีทิศทางอย่างไร และตรงกับสิ่งที่คิดไว้หรือไม่
1. บัตรเครดิตไม่ต้อง ใช้มือถือจ่ายง่ายกว่า
ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าการใช้โทรศัพท์มือถือมีความจำเป็นต่อชีวิตประจำวันของเราอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว การบริการ หรือในกลุ่มธุรกิจอื่นๆ ล้วนให้ความสำคัญเช่นกัน ซึ่งนอกเหนือจากการสื่อสารแล้ว โทรศัพท์มือถือยังทำหน้าที่ชำระเงิน ค่าบริการ หรือซื้อสินค้าต่างๆ ได้อีกด้วย
คุณคงเคยทราบว่า Google Wallet สามารถอำนวยความสะดวกได้มหาศาล เพราะจะช่วยเก็บข้อมูลการชำระเงิน ประวัติการทำธุรกิรรมของคุณ และที่สำคัญคือไม่มีค่าใช้จ่ายในการใช้งาน (ถ้าคุณอยากใช้ Google Wallet ต้องมีบัญชีของ Google หรือใช้ Gmail เสียก่อน)
การชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือด้วย Google Wallet
แต่ทั้งนี้ ผู้บริโภคก็ยังไม่มั่นใจที่จะใช้ เพราะการทำธุรกรรมผ่านเทคโนโลยีต่างๆ ยังมีความกังวลเรื่องความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว ข้อมูลจะหลุดรอดออกมา ฯลฯ แต่ทั้งนี้ ก็ยังมีผู้เชี่ยวชาญหลายสำนักจับตาดูว่า Apple จะทำอย่างไรต่อกับไป Passbook Application รวมถึงการเปิดตัวของ iPhone6 ที่มาพร้อมกับ Apple Pay ecosystem ซึ่งสุดท้ายแล้ว อิทธิพลของ Apple ก็จะยังมีผลต่อแฟนทั่วโลก และหวังว่าในปี 2015 จะมีบางอย่างที่น่าสนใจเกี่ยวกับการทำธุรกรรมผ่านโทรศัพท์มือถือของผู้ให้บริการเครือข่ายต่างๆ
2. Smart Watch มาแน่นอน
คุณอาจรู้สึกสงสัยว่าเครื่องประดับจะเล่นอินเตอร์เน็ตได้อย่างไร เทคโนโลยีนี้สามารถใช้งานได้จริงหรือไม่ ตั้งแต่ Google เปิดตัว Google Glasses ก็ทำให้หลายคนเริ่มจะเข้าถึงเทคโนโลยีเหล่านี้มากขึ้น และคาดว่าในปี 2015 จะมีอีกหลายค่าย หลายบริษัทเทคโนโลยีที่เตรียมจะเข็น Smart Watch ออกมาอีกมาก และในช่วงเดือนมกราคม 2015 มาดูกันว่า Apple จะมีนาฬิกาอัจฉริยะแบบไหนออกมาตีตลาด
ภาพจาก http://toddham.com/
ถ้า Smart Watch มีความสามารถที่เหนือชั้นมากกว่าแค่ดูเวลา ในอนาคตเราอาจเห็นภาคอุตสาหกรรมหลายส่วน นำมาใช้เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เพราะเทคโนโลยีนี้จะตามติดไปทุกที่ ทุกเวลา เรียกได้ว่าเป็นเงาตามตัวเลยก็ได้ ซึ่งแน่นอนว่าในอนาคตผู้ผลิตทั้งหลายก็จะพัฒนาให้มีความน่าสนใจ มีขนาดเล็ก ใช้งานได้หลากหลาย ซึ่ง Smart Watch เป็นอุปกรณ์ที่ใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากที่สุดจนถึงขณะนี้
3. การโฆษณาบนสื่อออนไลน์ IG เตรียมแย่งส่วนแบ่ง
จนถึงตอนนี้ Social Media ยังคงได้รับผลตอบรับดีเสมอ ในการเข้าถึงผู้บริโภค นักการตลาดและแบรนด์สินค้าต่างก็ลงทุนกับสื่อออนไลน์ไปไม่น้อย เพื่อทำแคมเปญ กระจายข่าวสาร หรือโปรโมชั่นต่างๆ ซึ่ง Facebook เป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมที่สุด เพราะมี Power Editor เครื่องมือที่จะช่วยสร้างและจัดการโฆษณาเป็นกลุ่ม ซึ่งออกแบบมาเพื่อผู้โฆษณารายใหญ่โดยเฉพาะ ที่ช่วยให้จัดการกับข้อมูลลูกค้า สินค้า โฆษณา บนเพจของคุณ รวมถึงการควบคุมแคมเปญที่แม่นยำ
ในส่วนของ Social Media อื่นๆ อย่างที่เห็นคือ มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดเพื่อดึงดูดผู้ใช้งาน และโฆษณา เช่น Twitter Google+ และ LinkedIn ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ได้พัฒนาเครื่องมือการใช้งานที่เหมาะกับการทำตลาดมากขึ้นเช่นกัน
คาดว่าในปี 2015 โฆษณาส่วนใหญ่อาจแบ่งก้อนเค้กมาที่ Instagram มากขึ้น (ก่อนหน้านี้ Instagram ได้เริ่มให้สปอนเซอร์โพสภาพเพื่อโปรโมตแบรนด์ไปบ้างแล้ว) เพราะขณะนี้แบรนด์ส่วนใหญ่เริ่มเข้าใจแล้วว่า Social Media ต้องใช้เม็ดเงินในการทำตลาด ไม่ได้ฟรีเหมือนแต่ก่อน และองค์กรก็พร้อมจะลงทุนในการใช้ช่องทางออนไลน์มากขึ้น นั่นหมายความว่า นักการตลาดต้องวางแผนการใช้งบประมาณในปี 2015 สำหรับสื่อออนไลน์ และการโฆษณาของปีหน้าให้ดี
4.ต้องวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล
การวิเคราะห์สื่อออนไลน์ ได้กลายมาเป็นส่วนสำคัญที่สุด เพราะจะช่วยให้คุณทราบว่าผู้บริโภคคือใคร และต้องการอะไรแล้ว การทำตลาดบนออนไลน์นั้นเป็นมากกว่าการโฆษณา โดยคุณต้องใช้เครื่องมือในการวิเคราะห์ได้หลากหลาย อาทิ Google Analytics และการดูข้อมูลเชิงลึกใน Facebook ที่พัฒนามาตลอดสองปี
ที่น่าสนใจคือ Instagram เป็นช่องทางที่มีคนนิยมใช้มาก แต่ยังไม่มีรูปแบบการวิเคราะห์ที่ใช้งานได้สะดวกนัก ซึ่งถ้าคุณต้องการจะทราบข้อมูลก็ต้องใช้งานผ่าน http://iconosquare.com/ เป็นอีกหนึ่งเว็บไซต์ทางเลือกที่น่าสนใจ
5.Google+ ไปซะแล้ว…
ต้องขอแสดงความเสียใจกับ Google+ ด้วย เพราะในปี 2014 เป็นปีที่ Google+ ไม่ได้มีความโดดเด่นมากนัก หลังจากเปิดตัวในปี 2011 และได้เปิดให้ใช้งานอย่างเป็นทางการ ในช่วงแรกอาจมีความน่าสนใจ น่าตื่นเต้น แต่ก็ยังมีผู้ใช้งานไม่มากพอ
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา หากมองย้อนถึงการใช้งาน Google ที่แนะนำ (หรือบังคับ) ให้ผู้ใช้งาน YouTube ต้องสมัคร Gmail พ่วงด้วย Google+ หรือเครื่องมืออื่นๆ ของ Google ถ้าถามถึงการใช้งาน Google+ อย่างเดียว สิ่งที่ดีที่สุดคือการ Hangout แต่ทั้งนี้ ก็ยังมีแอพพริเคชั่น หรือโปรแกรมอื่นๆ ที่มีรูปแบบการทำงานไม่ต่างกัน ทำให้ผู้ใช้งานเลือกใช้อย่างอื่นมากกว่า และยิ่งในกลุ่มนักการตลาด แบรนด์สินค้า ยิ่งมีการใช้งาน Google+ น้อยมาก หรือแทบจะไม่มีเลย ซึ่งในอนาคตเชื่อว่าก็จะยังมี Social Media แบบใหม่ออกมาอีกไม่น้อย (ที่เพิ่งเปิดตัวมาก็เช่น Pinterest และ Ello) หากให้บอกตอนนี้ Google+ ในปี 2015 ก็มีโอกาสที่จะหายไป หรือจนกว่า Google จะพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ขึ้นมาเพื่อคืนชีพให้ Google+ ได้ไปต่อ
นี่คือการคาดการณ์แบบง่ายๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2015 จะเป็นไปตามที่คิดไว้หรือไม่ ก็ต้องคอยดูกันต่อไป