Kantar เปิดรางวัล “แบรนด์แห่งทศวรรษ-ยืนหนึ่ง-ดาวรุ่ง-ม้ามืด” บนเวที Brand Footprint Awards 2022 คอลเกต ไฮยีน มาจิคลีน เผยกลยุทธ์สู้ภาวะเงินเฟ้อ

  • 12
  •  
  •  
  •  
  •  

 

Kantar บริษัทวิจัยชั้นนำด้านข้อมูลเชิงลึกและที่ปรึกษาทางการตลาดระดับโลก จัดงาน Brand Footprint Awards 2022 Thailand – 10 Years of Consumer Choices งานประกาศรางวัลยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปีสำหรับตลาด FMCG ในประเทศไทยต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 เพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จของแบรนด์ FMCG ระดับแถวหน้าของประเทศ เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2022 โรงแรม The Okura Prestige Bangkok ห้อง Grand Ballroom

 

 

Howard Chang กรรมการผู้จัดการ ประเทศไทยและมาเลเซีย Kantar, Worldpanel Division ฉายภาพ 10 ปี สำหรับทางเลือกผู้บริโภค “ตลาด FMCG ของประเทศไทยมีความยืดหยุ่นอย่างน่าเหลือเชื่อ หากเทียบกับ 10 ปีที่แล้วตลาดโดยรวมมียอดขายโตขึ้น 22% หรือคิดเป็นมูลค่าราว 70 พันล้านบาท ขณะที่จำนวนครัวเรือนในประเทศไทยเพิ่มขึ้น 22% หรือประมาณ 4.7 ล้านครัวเรือนเมื่อเทียบกับช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ในสำหรับทุกๆ 1% ของ Penetration (การเจาะตลาด) แบรนด์จะต้องการนักช้อปเพิ่มขึ้น 47,000 ราย มากกว่า 10 ปีที่แล้วเพื่อให้อยู่ในระดับเดียวกัน ทางด้านครัวเรือนกำลังใช้จ่ายลดลงเนื่องจากขนาดของครัวเรือนเล็กลง นักช้อปลดการจับจ่ายจำนวนแบรนด์ FMCG โดยลดลงเฉลี่ยต่อปีจาก 25 แบรนด์เป็น 22 แบรนด์ต่อครัวเรือน ทว่าการเติบโตอย่างต่อเนื่องนั้นเป็นเรื่องที่ท้าทาย ยกตัวอย่างมีเพียง 2 ใน 50 แบรนด์ระดับโลก ที่สามารถเติบโตได้ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ดังนั้นกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อการเติบโตมักทำได้ด้วยการหา New Shoppers หรือผู้ซื้อหน้าใหม่ให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น

สิ่งที่ทาง Kantar Worldpanel ช่วยสนับสนุนและเตรียมตัวใน FMCG Partner ของเราสำหรับ Next Normal คือการเพิ่มขนาดของข้อมูลให้ใหญ่กว่าและมีประโยชน์ยิ่งขึ้นด้วยความเร็วที่มากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ทางธุรกิจได้มากและทันเวลา เราเล็งเห็นว่านอกเหนือจากข้อมูลที่มีคุณภาพแล้ว สิ่งที่สำคัญอย่างมากคือคุณภาพและความสามารถของพนักงานของเรา ในการเปลี่ยน Insights ให้กลายเป็น Actionable Recommendation ให้กับ Partner ของเรา เป็นสิ่งเราที่ไม่เคยละเลย การใช้ข้อมูลที่เป็น Actual  Purchase คือกุญแจสำคัญ เพราะมันคือข้อมูลที่มาจากการซื้อสินค้าจริงอย่างต่อเนื่องจากผู้บริโภค ไม่ได้มาจากการเคลม ซึ่งในตลาด FMCG พฤติกรรมของผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะเป็นเช่นเดิมเมื่อมีวิกฤติเกิดขึ้น ทาง Kantar เองก็สามารถคาดการณ์อนาคตได้จากการดูพฤติกรรมผู้บริโภคในอดีตจากสถานการณ์ที่คล้ายๆ กัน”

 

 

 

ชีวานนท์ ปิยะพิทักษ์สกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ประเทศไทยและมาเลเซีย Kantar, Worldpanel Division กล่าว “10 ปีที่แล้ว เราเปิดตัวงานวิจัยระดับโลก Brand Footprint ซึ่งได้วิเคราะห์การเข้าถึงผู้บริโภคต่อเนื่องปีนี้เป็นปีที่ 10เพื่อค้นหาการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและช่วยให้แบรนด์วางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดในอนาคตของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา Brand Footprint จึงไม่ได้เป็นเพียงการจัดอันดับแบรนด์เท่านั้น แต่คือการเจาะลึกพฤติกรรมเชิงลึกของผู้บริโภคอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพื่อมองให้เห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้น งานวิจัย Brand Footprint ได้ศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคใน 5 ทวีป ครอบคลุม 52 ตลาด สะท้อน 87% ของ Global GDP และวิเคราะห์กว่า 26,000 แบรนด์ทั่วโลก อย่างที่ไม่มีใครเทียบได้

ไม่เพียงเท่านั้น Brand Footprint ยังเป็นข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้วัดผลรอยเท้าของแบรนด์หรือ Consumer Reach Points (CRPs) อัตราการเข้าถึงผู้บริโภคได้จริง เพื่อขับเคลื่อนกลยุทธ์และการเติบโตของแบรนด์ จากวัตถุประสงค์ของงานในการเป็นส่วนช่วยพลักดันการเติบโตของแบรนด์ FMCG ทั้งนี้ไม่ใช่เฉพาะในประเทศไทยเพียงเท่านั้น ข้อมูลจาก Kantar สามารถสะท้อนพฤติกรรมของผู้บริโภคได้จริง ความน่าเชื่อถือและแม่นยำของข้อมูลสูง ผ่านการนำข้อมูลไปใช้ในเชิงกลยุทธ์และการสื่อสารทางการตลาดจากแบรนด์แถวหน้าระดับโลกตลอดเวลา

 

 

บนเวทีเสวนา “Winning Sustainable Growth During the Tough Time and Prepare for the Next Normal” นำโดย กัญภาภัค ลึกซึ้งสุขุม ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจใหม่ ประเทศไทย Kantar, Worldpanel Division เพื่อเจาะหาการชนะใจผู้บริโภคอย่างยั่งยืนจากความท้าทายของตลาดในยุคปัจจุบัน ผ่านมุมมองผู้บริหารระดับสูงจากแบรนด์แถวหน้าระดับประเทศ

Corrado Giaquinto Vice President & General Manager, Greater Indochina Hub, Colgate Palmolive พูดถึงความสำคัญของการเป็นแบรนด์แห่งทศวรรษจาก Kantar “การปรับตัวในช่วงโควิดคือสิ่งที่ทาง Colgate ได้ทำเพื่อลูกค้าและเพื่อความยั่งยืนของแบรนด์ การรณรงค์เรื่องสุขอนามัยของทาง Oral Care และ Personal Care อย่างเช่น แคมเปญเรื่องการล้างมือและที่สำคัญคือแคมเปญยิ้มสู้ สำหรับผู้บริโภคและพนักงานของเราให้มีคุณสมบัติของการมีความยืดหยุ่นไม่ว่าจะในสถานการณ์ไหนๆ ความปลอดภัยของพนักงานคือเรื่องสำคัญเช่นกัน” มุมมอง E-commerce Corrado กล่าว “ด้วย Pandemic ทำให้ E-Commerce ในไทยเติบโตอย่างกว้างขวาง ซึ่ง Colgate เองก็ได้ใช้ Portfolio Diversification Strategy โดยโฟกัสผลิตภัณฑ์อย่างเช่น Electric Toothbrush และ Water Flosser ในช่องทางออนไลน์ ช่องทางออนไลน์ไม่เหมือนช่องทางออฟไลน์ทั่วไป ที่เราจะสามารถทำ Mass Communication หรือ Mass Strategy ได้ เราจำเป็นต้องเข้าใจ Shopper Journey ในช่องทางออนไลน์ เพราะในช่องทางนี้เราต้องทำ Personalized หรือ Individualized Strategy และเราจำเป็นลงทุนและวัดผลการลงทุนอย่างแม่นยำมากยิ่งกว่าทางออฟไลน์”

ทางด้านภาวะเงินเฟ้อ Corrado แสดงความคิดเห็น “การที่แบรนด์มีความคล่องตัวในการปรับเปลี่ยนการคาดการณ์อนาคตในหลากหลายสถานการณ์จะทำให้แบรนด์ยั่งยืนได้ และสิ่งที่สำคัญที่ทาง Colgate ได้ทำก็คือการมีตัวเลือกสินค้าให้ลูกค้ามากยิ่งขึ้น เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในช่วงภาวะเงินเฟ้อCorrado เปิดมุมมองของความสำเร็จ “แม้ปัจจุบันความสำเร็จเกิดได้ยากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นคู่แข่งที่มีมากขึ้นหรือเหตุการณ์โรคระบาดหรือสงครามที่เกิดขึ้น ผู้คนมองหาแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับผู้บริโภคอย่างแท้จริง ซึ่งเรามองว่าเรายังมีจุดยืนตรงนี้อยู่ที่จะนำพาแบรนด์ของเราให้ยั่งยืนต่อไป 

ชยนต์ เจตน์จิราวัฒน์ Chief Strategy Officer & Chief Commercial Officer, I.P. One เผยกลยุทธ์การก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ผู้บริโภคเลือกซื้อมากที่สุด “การที่จะรักษาความยั่งยืนของแบรนด์ในช่วงสถานการณ์โควิด ทาง I.P. Oneได้คำนึงถึง 3 เรื่องด้วยกัน เรื่องแรกคือข้อจำกัดในการขนส่งสินค้าไปยังผู้ค้าปลีกที่อาจจะต้องมีการปิดบางสาขา เราจะทำอย่างไรให้สินค้าไปถึงมือผู้บริโภคได้เหมือนเดิมและยังคงมีคุณภาพครบถ้วน เรื่องที่สองถือว่าเป็นผลดีโดยตรงที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับความสะอาดและสุขอนามัย ดังนั้นสินค้าของ I.P. One จึงตอบโจทย์ลูกค้าได้เป็นอย่างดีในช่วงโควิด และเรื่องสุดท้ายคือเรื่องของพนักงาน ทาง I.P. One เองใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานจากทางบ้าน” ชยนต์ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับด้านภาวะเงินเฟ้อ “เรื่องภาวะเงินเฟ้อเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทั่วโลก แต่ละแบรนด์มีการปรับตัวเพื่อความยั่งยืนที่ต่างกัน I.P. One เองก็ได้โฟกัสในสิ่งที่ทางบริษัทสามารถควบคุมได้ โดยการเพิ่มประสิทธิภาพแต่ไม่ลดคุณภาพ

ชยนต์ ย้ำความสำคัญของการใช้ข้อมูลเชิงลึกจาก Kantar Worldpanel “เราใช้ข้อมูลของ Kantar Worldpanel ในการเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคและวางกลยุทธ์ ซึ่ง I.P. One ให้ความสำคัญกับการใช้ข้อมูลเพื่อวางกลยุทธ์หรือปรับเปลี่ยนแผนงาน ซึ่งข้อมูลมาจากหลายแหล่ง ทางบริษัทเองมีการแยกแยะและจัดสรรค์ข้อมูลให้เป็นประโยชน์สูงสุดในแต่ละด้าน และที่ขาดไม่ได้นอกเหนือจากความเร็วของข้อมูลคือความแม่นยำของข้อมูลชยนต์ สรุปคำนิยามของความสำเร็จ “แบรนด์ Hygiene คือไฮไลท์ของบริษัทเรา เพราะเมื่อ 10 ปีที่แล้วเรายังไม่ได้มาถึงจุดนี้ และเราได้กลับมามองภายในและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์หลายรูปแบบจนทำให้แบรนด์ Hygiene ได้มาถึงวันนี้ ที่เราได้รับรางวัล Most Chosen Brand ในกลุ่ม Home Care อย่างต่อเนื่อง 4 ปีซ้อน จากทาง Kantar Worldpanel ซึ่งเรามองว่าเราได้รับความสำเร็จอย่างมากในฐานะแบรนด์ และในอนาคตทาง I.P. One ยังคงมีความยืดหยุ่นเหมือนเดิมเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต”

Kamiya Mitsutoshi Vice President, Kao Consumer Division, Kao เผยสิ่งสำคัญที่ได้รับรางวัล Brand Footprint จาก Kantar “การเข้าใจผู้บริโภคเป็นกุญแจสำคัญ เรามีคำมั่นสัญญาแบรนด์ในเรื่องของสุขอนามัย เราไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเลย เราเข้าหาผู้บริโภคพยายามเข้าใจจิตใจของพวกเขา เรียนรู้พฤติกรรมผู้บริโภคและนำเสนอสิ่งที่ดี ซึ่งเรายังคงเดินหน้าทำต่อไป” Kamiya ยังกล่าวถึงมุมมอง E-commerce “เรามองอนาคตของ E-commerce ว่าจะเติบโตอย่างมากหลังจากนี้ จากประสบการณ์ในประเทศอื่นๆ ในเอเชีย และยังเล็งเห็นว่าประเทศไทยมีเอกลักษณ์มาก เพราะผู้บริโภคคนไทยให้ความสำคัญกับช่องทาง Social Commerce มากกว่าประเทศอื่นๆ ซึ่งเป็นพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เราต้องศึกษาอย่างต่อเนื่อง”

ทางด้านภาวะเงินเฟ้อ Kamiya แสดงความคิดเห็น “Kao เน้นเรื่อง Brand Differentiation และ Uniqueness เพื่อไม่ให้เข้าไปเล่นใน Price War เราทำ Promotion ที่เหมาะสมกับลูกค้าที่มีความภักดีกับแบรนด์อยู่แล้วเพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิม” Kamiya สรุปคำนิยามของความสำเร็จ “ความสำเร็จคือการให้ความใส่ใจและพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะตอบโจทย์ผู้บริโภคและสังคม ปรัชญาบริษัทของ Kao คือการไม่หยุดพัฒนาและลงมือทำอย่างต่อเนื่อง อีก 10 ปีข้างหน้าเราก็ไม่หยุดพัฒนา

 

เปิดรายชื่อแบรนด์ชนะรางวัล Kantar Brand Footprint Awards 2022

 

รางวัล Brand Footprint Awards 2022 ประเทศไทย ทำการคำนวณจากมาตรวัด Consumer Reach Points เอกสิทธิ์เฉพาะจาก Kantar ครอบคลุมมากกว่า 570 แบรนด์ FMCG สำหรับประเทศไทย สะท้อนผู้บริโภค 26.2 ล้านครัวเรือน โดยรางวัลจะแบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่

Brands of The Decade รางวัลแบรนด์แห่งทศวรรษ ที่ผู้บริโภคเลือกซื้อมากที่สุด ต่อเนื่อง 10 ปีซ้อน

Most Chosen Brands รางวัลแบรนด์ยืนหนึ่ง ที่ผู้บริโภคเลือกซื้อมากที่สุด

Top Growing Brands รางวัลแบรนด์ดาวรุ่ง ที่ผู้บริโภคเลือกซื้อเติบโตสูงสุด

Top Outstanding Brands รางวัลแบรนด์ม้ามืด ที่มีความโดดเด่น

Top Outstanding Retailer รางวัลค้าปลีก ที่มีความโดดเด่น

ใน 6 กลุ่มผลิตภัณฑ์ FMCG ได้แก่ Packaged Food, Beverages, Dairy, Home Care, Personal Care และ Beauty และรวมไปถึง Retailer

Brands of The Decade รางวัลแบรนด์แห่งทศวรรษ
แบรนด์ที่มีผู้บริโภคเลือกซื้อมากที่สุดในปี 2021 และต่อเนื่อง 10 ปีซ้อน ในแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์ FMCG

  • กลุ่ม Food – Mama อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค 172 ล้านครั้ง
  • กลุ่ม Dairy – Dutch Mill อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค 168 ล้านครั้ง
  • กลุ่ม Beverages – Nescafe อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค 126 ล้านครั้ง
  • กลุ่ม Personal Care – Colgate อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค 106 ล้านครั้ง

 

Most Chosen Brands รางวัลแบรนด์ยืนหนึ่ง ที่ผู้บริโภคเลือกซื้อมากที่สุด

แบรนด์ที่มีผู้บริโภคเลือกซื้อมากที่สุดในปี 2021 ในแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์ FMCG

  • กลุ่ม Home Care – Hygiene อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค 106 ล้านครั้ง
  • กลุ่ม Beauty – Garnier อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค 29 ล้านครั้ง

 

Top Growing Brands รางวัลแบรนด์ดาวรุ่ง ที่ผู้บริโภคเลือกซื้อเติบโตสูงสุด

แบรนด์ที่มีผู้บริโภคเลือกซื้อเติบโตมากที่สุดในปี 2021 ในแต่ละกลุ่มและหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ FMCG

  • กลุ่ม Beverages (OOH) – Vitaday อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค 35 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 12.6 ล้านครั้ง
  • กลุ่ม Food – Lay’s อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค 159 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 10.4 ล้านครั้ง
  • กลุ่ม Dairy – Bear Brand อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค 25 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 6.2 ล้านครั้ง
  • กลุ่ม Personal Care – Tepthai อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค 17 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 4.4 ล้านครั้ง
  • กลุ่ม Home Care – Fineline อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค 53 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 2.5 ล้านครั้ง
  • กลุ่ม Beauty หมวดหมู่ Facial Skin Care – Jula Herb อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค 10 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 2.3 ล้านครั้ง
  • กลุ่ม Beauty หมวดหมู่ Makeup – Merrezca อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค 4.5 แสนครั้ง เพิ่มขึ้น 2.3 แสนครั้ง

 

Top Outstanding Brands รางวัลแบรนด์ม้ามืด ที่มีความโดดเด่น

รางวัลนี้จะอิงโดยพฤติกรรมที่เกิดขึ้นจากผู้บริโภคในปี 2021 ซึ่ง Kantar มองเห็น 5 เทรนด์ที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็น

  1. Staying at Home
  2. Cooking at Home
  3. Hygienic
  4. Simplification และ Sophistication
  5. Online Shopping

แบรนด์ที่มีผู้บริโภคเลือกซื้อเติบโตมากที่สุดในปี 2021 ในแต่ละหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ FMCG

  • หมวดหมู่ Biscuit และ Sweet Cake (หมวดหมู่ที่โตเร็วที่สุดในผลิตภัณฑ์ Household ทั้งหมด) – Euro อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค 29 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 5 ล้านครั้ง
  • หมวดหมู่ Frozen และ Chilled Food (หมวดหมู่ที่โตเร็วที่สุดในกลุ่ม Food) – Ezygo อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค 12 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 8 ล้านครั้ง
  • หมวดหมู่ Floor Cleaner (หมวดหมู่ที่โตเร็วที่สุดใน Household Cleaner) – Magiclean อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค 14 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 1 ล้านครั้ง

แบรนด์กลุ่มผลิตภัณฑ์ Beauty ที่มีความโดดเด่นที่สุดในปี 2021 ในแต่ละหมวดหมู่

  • หมวดหมู่ Premium Beauty – Estee Lauder อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค 2.1 แสนครั้ง
  • หมวดหมู่ Derma – Eucerin อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค 1 ล้านครั้ง

 

Top Outstanding Retailer รางวัลค้าปลีก ที่มีความโดดเด่น

E-retailer ที่มีผู้บริโภคเลือกซื้อเติบโตสูงสุดในปี 2021

  • ประเภท E-retailer – 7-eleven (เฉพาะ Online) อัตราการเข้าถึงผู้บริโภค 3 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 2.5 ล้านครั้ง

 

 

 


  • 12
  •  
  •  
  •  
  •