เปิดเส้นทางความสำเร็จ 1 ปี ของโรงพยาบาลรวมใจรักษ์ @สุขุมวิท 62 ตอบโจทย์การรักษาแบบ New Premium และก้าวต่อไปสู่การเป็น Health Tech

  • 167
  •  
  •  
  •  
  •  

 

ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา โรงพยาบาล “รวมใจรักษ์” ได้ให้บริการรักษาคนไข้มามากกว่า 4,000 ราย และย่างก้าวสู่ปีต่อๆ ไปถือว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะสิ่งที่ยากยิ่งกว่าคือการรักษาและพัฒนาคุณภาพการรักษาและบริการให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ขณะที่โลกเกิดความเปลี่ยนแปลงต่างๆ มากขึ้น  ส่งผลให้โรคอุบัติใหม่หรือโรคเดิมๆ เพิ่มเติมคืออาการที่รุนแรงขึ้นทยอยกันออกมาโจมตีสุขภาพของผู้คนอย่างต่อเนื่อง

และในวาระครบรอบ 1 ปีของโรงพยาบาลรวมใจรักษ์ เราได้ชวน 2 ผู้บริหารมาเล่าถึงความสำเร็จผ่านประสบการณ์ตรงในการบริหารโรงพยาบาลอย่าง คุณอภิรักษ์ อภิสารธนรักษ์ กรรมการบริษัท กรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ @สุขุมวิท 62 และ นายแพทย์ สุนทร ศรีทา ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ @สุขุมวิท 62

 

 

1 ปีกับความสำเร็จผ่านประสบการณ์ของ 2 ผู้บริหาร

สำหรับ คุณอภิรักษ์ มองว่า 1 ปีที่ผ่านมาโรงพยาบาลรวมใจรักษ์มีการเติบโตขึ้นใน 2 ด้าน ด้านแรกเรียกว่าเป็นการเติบโตทางด้าน กายภาพ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาเปิดตัวศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางในด้านต่างๆ เครื่องมือที่ทันสมัยใหม่ๆ ช่วยให้โรงพยาบาลมีความพร้อมมากขึ้น มีคุณหมอเฉพาะทางมากขึ้น รวมถึงทีมงานที่มีความพร้อมและทีมเวิร์คในการพัฒนาโรงพยาบาลให้เติบโตขึ้น

 

 

นอกจากนี้ยังเติบโตในเรื่องของ Branding โดยเฉพาะในเรื่องของชื่อเสียงที่มีความชัดเจนตั้งแต่ตอนเริ่มเปิดโรงพยาบาลในการเป็น New Premium Hospital หรือการให้บริการในรูปแบบ Premium แต่ราคาสามารถเข้าถึงได้

ขณะที่อีกด้านคือ การวาง Positioning ของโรงพยาบาลให้มีความชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะการให้บริการในรูปแบบ Personalize ซึ่งตลอด 1 ปีที่ผ่านมา เกิดความเปลี่ยนแปลงมากมาย ทำให้โรงพยาบาลหันมามองการให้บริการแบบ Patient Centric โดยเป็นการมองผู้ป่วยก่อนทำการรักษา ไม่ว่าจะเป็นความต้องการในการรักษา ความสนใจในการรักษาหรือความคาดหวังในการรักษาอย่างไร

ซึ่งความเปลี่ยนแปลงนี้เป็นผลมาจาก 2 ปัจจัยสำคัญ ทั้งในเรื่องของเทคโนโลยีที่ช่วยให้การรักษาสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น และอีกปัจจัยเป็นเรื่องของ Aging Society ที่สามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม ทั้งกลุ่มที่ยังมีพลังพร้อมทำงานและใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ (Active Living) และกลุ่มที่มองหารูปแบบการใช้ชีวิตในช่วงบั้นปลาย

ขณะที่ นพ.สุนทร เล่าว่า แม้ช่วง 1 ปีที่ผ่านมาจะมีหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบ ทั้งเรื่องการขอใบอนุญาต เรื่องเศรษฐกิจ แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดือนแรกที่รับผู้ป่วยนอกเฉลี่ยประมาณ 16 คนต่อวัน ส่วนผู้ป่วยในรับเข้า 2 เตียงจากที่มีให้บริการ 100 เตียง ปัจจุบันมีการให้บริการผู้ป่วยนอกเฉลี่ยประมาณ 140-150 คนต่อวัน ส่วนผู้ป่วยในให้บริการประมาณ 20-30 เตียงต่อวัน เทียบกับช่วงเดือนแรกเติบโตถึง 10 เท่า ถือเป็นการเติบโตที่ดีและน่าพอใจ

 

 

เจาะ 3 กลุ่มลูกค้าหลัก

หนึ่งในสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็น Key Success ของโรงพยาบาลรวมใจรักษ์คือการทำ Market Survey เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ และผลจากการสำรวจยังทำให้โรงพยาบาลสามารถแบ่งกลุ่มลูกค้าออกเป็น 3 กลุ่มหลักๆ

  • กลุ่มที่มีโรงพยาบาลประจำ เป็นกลุ่มที่เกิดอะไรขึ้นจะไปโรงพยาบาลที่ใช้บริการประจำ เป็นเรื่องยากที่จะเปลี่ยนใจมาใช้บริการโรงพยาบาลอื่น เพราะมีความเชื่อมั่นในโรงพยาบาลนั้นแล้ว
  • กลุ่มฉุกเฉิน เป็นกลุ่มที่ต้องได้รับการรักษาโดยทันที เช่นกรณีที่มีโรคเฉียบพลันอย่างเส้นเลือดหัวใจตีบ อัมพฤกษ์ อัมพาต หรือประสบอุบัติเหตุ โดยจะเลือกโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดเพื่อรักษาชีวิต
  • กลุ่มที่ไม่เคยเข้าโรงพยาบาล เป็นกลุ่มที่ไม่เคยตรวจสุขภาพมาก่อน

ทำเลที่ตั้งของโรงพยาบาลรวมใจรักษ์ รอบๆ 5 กิโลเมตรจะไม่มีโรงพยาบาลอยู่เลย เพราะฉะนั้นผู้ป่วยที่มีอาการฉุกเฉินในละแวกจะมีความเสี่ยงอย่างมาก นั่นจึงทำให้มีการวางกลยุทธ์สร้างการรับรู้ว่าโรงพยาบาลรวมใจรักษ์ เป็นโรงพยาบาลที่มีความพร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงที่มี ศูนย์อุบัติเหตุและฉุกเฉิน ซึ่งมีเทคโนโลยีที่สามารถส่งข้อมูลกลับไปโรงพยาบาลและวิเคราะห์ประเมินการรักษา พร้อมสั่งการรักษาผ่านระบบ Telemedicine ไปยังเจ้าหน้าที่ไปรับผู้ป่วยฉุกเฉินที่บ้านหรือที่คอนโด

ตรงนี้เป็นจุดเด่นที่ทำให้โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ เป็น 1 ใน 2 โรงพยาบาลเอกชนที่สำนักงานการแพทย์ฉุกเฉินของประเทศไทยให้การยอมรับและออกใบประกาศนียบัตรรับรอง Comprehensive Service Level สำหรับการแพทย์ฉุกเฉิน ซึ่งที่ผ่านมาในช่วงเดือนแรกที่เปิดให้บริการสามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยกลุ่มฉุกเฉินได้มากกว่า 10 ราย

 

 

ต่อยอดประสบการณ์การดูแลสุขภาพ

นอกจากกลุ่มฉุกเฉินแล้ว โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ ยังสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มที่ไม่เคยตรวจสุขภาพมาก่อน ด้วยการจุดประกายความต้องการดูแลสุขภาพผ่านความคุ้มค่า โดยเทียบกับรถยนต์ที่หลายคนดูแลเป็นอย่างดีแม้จะต้องเสียเงินหลายพัน แต่ชีวิตมีมูลค่ามากกว่ารถยนต์กลับไม่ได้รับการดูแล และเมื่อกลุ่มนี้เข้ามาใช้บริการที่โรงพยาบาลก็จะได้รับประสบการณ์การดูแลที่จะทำให้เกิดความประทับใจและเชื่อมั่น ทั้งในเรื่องความสะดวก บริการที่ดีและราคาที่เหมาะสมเข้าถึงได้ไม่แพงอย่างที่คิด

ขณะที่กลุ่มที่มีโรงพยาบาลประจำอยู่แล้วเป็นสิ่งที่ยากที่สุด ซึ่ง โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ จะเน้นสร้างการรับรู้ถึงคุณภาพการให้บริการแบบเดียวกับโรงพยาบาลประจำที่เลือกใช้อยู่แต่อยู่ใกล้บ้านกว่า รวมถึงความเชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ ที่มีความพร้อมทั้งทีมบุคลากรและเครื่องมือที่ทันสมัยไม่แตกต่าง ซึ่งที่ผ่านมากลุ่มนี้เริ่มเปลี่ยนใจหันมาใช้บริการที่ โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ มากขึ้น

 

รักษาในรูปแบบ Patient Centric

สำหรับในเรื่อง Patient Centric ทางคุณอภิรักษ์มองว่า สาเหตุที่เน้นในเรื่อง Patient Centric นั่นเพราะว่าผู้ป่วยแต่ละคนมีความแตกต่างกัน มีความต้องการหรือพฤติกรรมที่แตกต่างกัน ดังนั้นการดูแลรักษาจะไม่เหมือนกันถึงแม้ว่าจะเป็นโรคเดียวกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตของแต่ละคนที่แตกต่างกัน

อีกปัจจัยหนึ่งด้วยเทรนด์ที่เดี๋ยวนี้จะมีเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกหรือเทคโนโลยีที่ช่วยให้การวินิจฉัยมีความชัดเจนตรงจุดมากขึ้น นั่นจึงทำบริการแบบ Patient Centric โดยเอาผู้ป่วยเป็นจุดเริ่มต้นน่าจะให้ผลลัพธ์ในการรักษาที่ดีที่สุด จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้มีการสร้างโรงพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ที่ช่วยให้มุมมองการรักษาหรือให้การรักษาแต่ละรายได้ในทุกๆ โรค

เพราะการให้บริการแบบ Patient Centric ทำให้ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ มีศูนย์เฉพาะทางเกือบครบเพื่อรองรับกลุ่มเป้าหมายที่ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนทำงานและกลุ่ม Aging สูงถึง 90% ขณะที่ผู้ป่วยเด็กหรือการทำคลอดมีเพียง 10% ดังนั้นจึงเน้นไปที่การพัฒนาศูนย์เฉพาะทางสำหรับลูกค้าส่วนใหญ่ก่อนเป็น Priority ซึ่งจำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญที่หลากหลาย

 

 

พัฒนาศูนย์เฉพาะทางอย่างต่อเนื่อง

หนึ่งในภัยเงียบที่อันตรายของคนไทยต้องยกให้โรคหัวใจ ซึ่ง นพ.สุนทร ชี้แจงว่า โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ เป็นโรงพยาบาลเอกชนที่เปิด ศูนย์หัวใจ ได้ตั้งแต่ปีแรก โดยเฉพาะเป็นโรงพยาบาลใหม่ที่มีเครื่องมือและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการสวนหัวใจเพื่อใส่บอลลูนได้ โดยตั้งแต่เดือนแรกสามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยที่มีอาการเส้นเลือดหัวใจตีบได้เลย รวมไปถึงการนำเทคโนโลยีการผ่าตัด อย่างการผ่าตัดด้วยการส่องกล้อง ที่ทำให้เกิดแผลเล็กฟื้นตัวเร็ว แตกต่างจากการผ่าตัดในสมัยก่อนที่ต้องมีแผลขนาดใหญ่และต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลนาน

โดยเทคโนโลยีการผ่าตัดแบบส่องกล้องยังสามารถรองรับการผ่าตัดได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งการผ่าตัดช่องท้อง ผ่าตัดไส้ติ่ง ผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี ผ่าตัดมดลูก ผ่าตัดข้อเข่า รวมทั้งการผ่าตัดในสมองบางจุด นอกจากนี้ยังมี ศูนย์สมอง ที่มีผู้เชี่ยวชาญในการวินิจฉัยหรือการใช้เครื่องมือช่วยไปทะลวงเส้นเลือดในสมองที่ตีบตันอยู่

ที่สำคัญยังพบว่าทางเดินอาหารก็เป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้สูงอายุหรือแม้กระทั่งคนวัยทำงาน โรงพยาบาลจึงมีการพัฒนา ศูนย์ทางเดินอาหารและตับ รวมถึงโรคเบาหวานซึ่งก็มีการพัฒนา ศูนย์เบาหวาน ขึ้นโดยมีหมอที่เชี่ยวชาญโรคเบาหวานโดยเฉพาะ ขณะที่ ศูนย์ผู้สูงอายุ จะเป็นการดูภาพรวม เนื่องจากผู้สูงอายุบางท่านมีโรคซับซ้อนหลายโรค

สิ่งที่เกี่ยวเนื่องต่อมาคือศูนย์กระดูกสันหลังและข้อต่อ และเวชศาสตร์การกีฬา เพราะวัยที่ทำให้ร่างกายเกิดความเสื่อม รวมไปถึงกลุ่มคนที่เล่นกีฬา โดยหมอที่เข้ามาดูจะไม่ได้เป็นแค่หมอกระดูกทั่วไป แต่จะเป็นหมอที่เชี่ยวชาญกระดูกในแต่ละส่วน นอกจากนี้ยังเตรียมเปิด ศูนย์ไตเทียม สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคไตเสื่อม คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้

 

ขยายฐานลูกค้าสู่ผู้ป่วยนานาชาติ

ด้าน คุณอภิรักษ์ชี้แจงว่า การขยายฐานลูกค้าในตลาดต่างประเทศเป็นหนึ่งในกลยุทธ์แผนการขยายตลาดของ โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ ต้องยอมรับว่า ประเทศไทยวางตัวเองเป็น Medical Hub ที่สามารถนำเรื่องของการท่องเที่ยวเข้ามาสอดแทรกเป็นส่วนเสริมได้ ทำให้ประเทศไทยมีภาพลักษณ์ที่ชัดเจนในเรื่องนี้ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายที่เดินทางเข้ามารักษาส่วนใหญ่จะเป็นชาวอาหรับ

นอกจากนี้ยังมีกลุ่มลูกค้าประเทศเพื่อนบ้าน หรือกลุ่ม CLMV ซึ่งในช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ ก็เริ่มมีการทำกิจกรรมในประเทศทางกัมพูชากับเมียนมาร์ เมื่อเจาะลึกพฤติกรรมกลุ่มต่างชาติ การที่เดินทางมาต่างประเทศเพื่อทำการรักษาโรค มักจะเป็นโรคที่มีความยากในการรักษาและไม่สามารถเข้าถึงการรักษาในประเทศของเขาได้ ซึ่งก็ตรงโจทย์ของทางโรงพยาบาลที่เป็นโรงพยาบาลในระดับตติยภูมิมีความพร้อมในการรักษาโรคหลายด้าน

ที่สำคัญในกลุ่มประเทศ CLMV บริษัทในเครืออย่าง บริษัท ประกิต แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด มีเน็ตเวิร์คออฟฟิศประจำอยู่ในประเทศเหล่านั้น และจะมีการส่งหมอไปให้คำปรึกษา ช่วยให้ลูกค้าที่อยู่ในประเทศเหล่านั้นรู้จักโรงพยาบาลรวมใจรักษ์และก่อให้เกิดความเชื่อมั่น โดยค่อยๆ เข้าไปสร้างการรับรู้และสร้างความเชื่อมั่น ซึ่งในช่วงเดือนแรกก็เริ่มเห็นผลตอบรับและจะยังคงรุกตลาดต่างประเทศต่อไป

ซึ่งกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติยังมีจำนวนไม่มาก คิดเป็นเพียงประมาณ 10% ของคนไข้ที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยปัจจุบันทางโรงพยาบาลรวมใจรักษ์ก็มีแพ็คเกจตรวจสุขภาพให้กับชาวต่างชาติ ส่วนหนึ่งขายผ่านตัวแทนและอีกส่วนหนึ่งจะขายผ่านช่องทางออนไลน์ แต่ก็เป็นช่วงเริ่มต้นก็คงต้องปรับตัวไปเรื่อยๆ

 

เทคโนโลยีเรื่องสำคัญของโรงพยาบาลยุคใหม่

ด้าน คุณอภิรักษ์ อธิบายความสำคัญของเทคโนโลยีว่า ตอนนี้โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ มีเป้าหมายที่ช่วยให้เห็นภาพชัดขึ้น โดยในปีหน้ามีความตั้งใจในเรื่อง Innovation Center โดยมองว่า เทคโนโลยีก่อให้เกิด 3 เรื่อง ทั้งการนำเทคโนโลยีมาขับเคลื่อน Innovation ซึ่งทุกโรงพยาบาลคาดว่าจะมีนวัตกรรมที่มาจากเรื่องนี้กันเกือบหมดแล้ว ขณะที่อีกด้านนำไปสู่โซลูชั่น (Solution) ที่จะผสมผสานเรื่องการดูแลรักษาให้เข้ากับเรื่อง Pain Point หรือความต้องการที่เปลี่ยนไปของผู้ป่วย

 

 

และเรื่องของ Business Model ใหม่ๆ ในการดูแลรักษา ซึ่งโรงพยาบาลมีความชัดเจนว่าจะต้องทำให้เกิดขึ้นให้ได้ และเป็นส่วนหนึ่งที่จะเติบโตไปกับธุรกิจนี้ เพราะหากไม่มี Innovation ก็จะไม่สามารถพัฒนาธุรกิจได้ และด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาผสานเครือข่ายที่มีความพร้อมก็อาจจะก่อให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า Home Tertiary Care หรือการที่มีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยการดูแลรักษาจะช่วยให้เกิดการดูแลรักษาในบ้าน

เป็นแนวทางที่โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ กำลังพัฒนา แต่โรงพยาบาลเองก็ไม่สามารถพัฒนาในส่วนของเทคโนโลยีได้เพียงลำพัง เนื่องจากโรงพยาบาลไม่ใช่ธุรกิจด้านเทคโนโลยี จึงมีการพูดคุยกับพันธมิตรที่มาจากสายเทคโนโลยีโดยเฉพาะ และเป็นพันธมิตรที่มีแพลตฟอร์มสามารถตอบโจทย์ของโรงพยาบาลได้

ต่อไปในอนาคต Home Tertiary Care จะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ Spin Off โดยขับเคลื่อนด้วย Innovation ขณะที่ปัจจุบันมีการพัฒนาระบบที่เรียกว่า Tele-Consult เป็นระบบภายในโรงพยาบาลที่ช่วยให้หมอจากหลากหลายสาขาวิชาชีพสามารถปรึกษากันเองได้ สมมติว่าผู้ป่วยมาพบหมอกระดูกแต่มีความจำเป็นต้องคุยกับหมอที่เชี่ยวชาญด้านโรคเบาหวาน ก็จะมีการใช้ระบบ Tele-Consult ในการปรึกษาช่วยให้ดูแลผู้ป่วยรวดเร็วขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

 

เป้าหมายต่อจากนี้ของโรงพยาบาลรวมใจรักษ์

สำหรับคุณอภิรักษ์อธิบายไว้ว่า เป้าหมายของโรงพยาบาลแบ่งออกเป็น 3 เรื่องหลักๆ

  • ความเป็นเลิศ ความต้องการให้โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ เป็นโรงพยาบาลที่ให้บริการการดูแลรักษาที่เป็นเลิศ ที่ผ่านมาถือว่าสามารถทำได้ดี มีการเปิดศูนย์ต่างๆ พร้อมหมอที่มีคุณภาพ เครื่องมือทันสมัยที่ยอมรับได้เลยว่าไม่แพ้ใคร
  • เพื่อสังคม ความต้องการพัฒนาสู่การเป็น Community Hospital การสร้างกิจกรรมต่างๆ ที่พยายามจะเข้าถึงชุมชน ทั้งการบริจาคเลือดร่วมกับสภากาชาดไทย การให้บริการตรวจสุขภาพให้กับพระก่อนเข้าพรรษา ดูแลเยาวชนตามโรงเรียนต่างๆ ในพื้นที่นี้
  • เข้าถึงง่าย ต้องการให้โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ เป็นโรงพยาบาลที่เข้าถึงได้ง่าย ซึ่งก็มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อให้เข้าถึงได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น

ด้าน นพ.สุนทร ในฐานะที่เป็นฝ่ายบริหารมองเป้าหมายออกเป็น 3 เรื่องเช่นกัน

  • เพิ่มความเชี่ยวชาญ โดยปีหน้ามีแผนที่จะเพิ่ม ศูนย์สุขภาพสตรี ที่ครอบคลุมการดูแลสุขภาพตั้งแต่ วัยทอง การตรวจหาโรคมะเร็งต่างๆ ในกลุ่มสตรี การดูแลผู้มีบุตรยาก รวมถึงการตั้งครรภ์ที่มีปัจจัยเสี่ยง
  • เพิ่มฐานลูกค้า โดยตั้งเป้าหมายว่าในอีก 2-3 ปีข้างหน้านี้จะต้องมีผู้มาใช้บริการเฉลี่ยต้องไม่ต่ำกว่า 300 คนต่อวัน ขณะที่ผู้ป่วยในต้องมีหลัก 100 เตียงขึ้นไป
  • เพิ่มชื่อเสียง ตั้งเป้าเพิ่มความเชื่อมั่นผ่านการรับรองจากหน่วยงานต่างๆ ซึ่งในปีหน้าจะขอการรับรองจากทาง Joint Commission International (JCI) ที่คอยตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัยเพื่อให้การรับรองคุณภาพแก่โรงพยาบาลต่างๆ

 

ความพิเศษเฉลิมฉลองครบรอบ 1 ปี

สำหรับช่วงเวลาเฉลิมฉลองครบรอบการเปิดโรงพยาบาลรวมใจรักษ์ ครบหนึ่งปี คุณอภิรักษ์ ภูมิใจเสนอโปรโมชั่นสุดว้าวกับแพ็คเกจตรวจสุขภาพเพียง 999 บาท ซึ่งเป็นโปรโมชั่นแพ็คเกจตรวจสุขภาพที่เคยนำเสนอมาแล้ว ช่วงที่เปิดตัวโรงพยาบาลใหม่ๆ และได้รับความสนใจอย่างมาก แต่หลังจากนั้น 3-4 เดือนก็หมดโปรโมชั่นแพ็คเกจนั้นไป โดยหันมาพัฒนาศูนย์ต่างๆ และด้านบริการ

และในวาระครบรอบหนึ่งปี จึงมีการนำแพคเกจที่คุ้มที่สุด เข้าถึงง่ายที่สุดกลับมาอีกครั้ง แต่คราวนี้จะกลับมาในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ถือเป็นชุด Gift ที่พร้อมมอบให้กับผู้ที่สนใจตรวจสุขภาพ โดยกำหนดระยะเวลาในการขายแพ็คเกจตรวจสุขภาพเพียง 999 บาท ถึงแค่สิ้นเดือนตุลาคมเท่านั้น

 

 

ทั้งหมดนี้คือตลอดระยะเวลา 1 ปีของการเปิดให้บริการโรงพยาบาลรวมใจรักษ์ โรงพยาบาลแนวคิดใหม่ของการดูแลสุขภาพที่ต้องการให้ได้รับบริการระดับ Premium ที่ราคาสามารถสัมผัสได้ บนรูปแบบการรักษา Personalization ที่ให้บริการได้แบบถูกโรค ถูกคน

สามารถเข้ามาดูรายละเอียดโรงพยาบาลรวมใจรักษ์ได้ที่ https://bit.ly/3rkaRbn

 


  • 167
  •  
  •  
  •  
  •  
CLOSE
CLOSE