เปิด 4 เรื่องหลักที่ ‘SC’ ต้องทำเพื่อพลิกโฉมสู่ Living Solutions Provider และพิชิตเป้าหมาย ‘SC RE-INVENTION 2020’

  • 70
  •  
  •  
  •  
  •  

หลังจากประกาศ Transform จาก Developer สู่ Living Solutions Provider  ภายใต้ยุทธศาสตร์ ‘SC RE-INVENTION 2020’ ไปเมื่อต้นปี 2561 เหตุผลเพื่อให้ทันกับยุค 4.0 และการมีDigital disruption เข้ามาท้าทาย ล่าสุด ‘ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC ได้มาอัพเดทถึงความเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ให้ฟังว่า ตอนนี้เป็นอย่างไร

 “ทิศทางต่อจากนี้ของเรา จะโฟกัสไปที่ลูกค้าเป็นหลัก คือ ต้องรู้จัก และรู้ใจว่า เขาต้องการอะไร ซึ่งการทำจะดำเนินการผ่านวิธีและรูปแบบที่หลากหลาย รวมถึงใช้เทคโนโลยีเข้ามาตอบโจทย์ให้มากที่สุด” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  SC ย้ำถึงทิศทางในอนาคตขององค์กรแห่งนี้

untitled-249_resize

การตอบโจทย์ที่ว่า และการจะบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ กับการพลิกโฉม SC สู่การเป็น Living Solutions Provider  ได้นั้น จะดำเนินการผ่าน 4 เรื่องหลัก  ได้แก่

1.  Baan Rue Jai Application ที่ร่วมพัฒนากับบริษัท ไฟร์ วัน วัน สำหรับสร้างประสบการณ์การสื่อสารที่ใกล้ชิดระหว่าง SC กับลูกบ้าน หรือ SC Family ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปี 2561 ที่ผ่านมาได้มีการปรับให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น และตอนนี้พร้อมให้ใช้งานได้ในไตรมาส 4 ของปีนี้

ฟีเจอร์แรก จะเป็นการให้ข้อมูลข่าวสาร , การสร้าง CRM รวมถึงบริการแจ้งซ่อม ที่สามารถใช้และติดตามสถานะการซ่อมได้ทุกที่ตลอด 24 ชม. จากนั้นจะมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เข้าไปทุกไตรมาส ซึ่งการพัฒนาฟีเจอร์นั้น จะใช้ human-centric ดูความต้องการและทำความเข้าใจกับลูกค้า เพื่อให้แอพฯมีความฉลาด ใช้ง่าย และรู้ใจลูกค้าให้มากที่สุด

2. Township Concept Development แนวคิดการพัฒนาพื้นที่ขนาดใหญ่ให้มีหลาย ๆ โครงการภายในที่เดียวกัน ด้วยการนำ Big Data มาพัฒนาโครงการ เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการและยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคให้ดียิ่งขึ้น โดยเรื่องนี้ได้ร่วมมือกับบริษัท redex ปัจจุบัน Township Concept Development  มีด้วยกัน 2 แห่ง คือ ที่ดินบางกะดี จ.ปทุมธานี  ขนาด 240 ไร่ และที่ดินบริเวณกรุงเทพกรีฑา ขนาด 115 ไร่ ซึ่งทั้งสองแห่งจะเผยโฉมในอีกไม่นาน

“เราจะไม่ออกแบบพื้นที่ก่อน แต่เราจะเอา Big data ที่มีมาวิเคราะห์ และค้นหาความต้องการของลูกค้า แล้วค่อยนำข้อมูลที่วิเคราะห์ได้มาออกแบบพัฒนาพื้นที่สาธารณะทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง ถนน กระทั่งสปอร์ต ซิตี้ และสิ่งหนึ่งที่เห็นชัดเจน คือ คนยุคนี้ต้องการ Mobility เราก็จะเอาใส่เข้าไป เพื่อให้การใช้ชีวิตของลูกค้าดียิ่งขึ้น”

capture-20180819-232348

3. Co-working space + Future Lab  Co-working space จะเป็นพื้นที่ที่ทาง SC และพาร์ทเนอร์ต่าง ๆ ที่อยู่ใน eco- system มานั่งทำงานร่วมกัน ขณะที่ Future Lab ทำหน้าที่วิจัยและพัฒนาถึงเทรนด์การใช้ชีวิตของคนในอนาคต ซึ่งตอนนี้สิ่งที่ทาง ณัฐพงศ์สนใจก็คือ การใช้ชีวิตของคนในยุค 2030 เพราะจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก

โดยCo-working space และFuture Lab จะอยู่บนพื้นที่กว่า 1,500 ตร.ม. บริเวณชั้น 14  อาคารชินวัตร 3 สำนักงานใหญ่ของเอสซี แอสเสท ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงและคาดว่า จะเปิดใช้ได้ในไตรมาส 2 ปี 2562

4. Re-culture ซึ่งตอนนี้เพิ่งเริ่มดำเนินการร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำอย่าง  Slingshot Group ในการปรับและเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร เพื่อรองรับการเติบโตในบริบทใหม่ และสอดคล้องกับการเป็น Living Solutions Provider สำหรับทุกคนในองค์กร และคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะมิลเลเนียมที่จะเข้าร่วมงานกับ SC ในอนาคต

 “ส่วนการลงทุนในสตาร์อัพ เรามีการตั้งบริษัทชื่อ SC Able ขึ้นมาดูแล ซึ่งไม่ได้มีการตั้งเป้าหมายว่า แต่ละปีต้องลงทุนเท่าไร ต้องซื้อ หรือลงทุนแบบไหน ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม ตามโซลูชั่นที่ลูกค้าต้องการ”

สิ้นปี 61 ตั้งเป้ารายได้-ยอดขาย 17,000 ล้านบาท

capture-20180819-232105

นอกจากนี้ ทางณัฐพงศ์ ยังได้อัพเดทถึงผลดำเนินการในครึ่งแรกของปี 2561 ว่า มีรายได้รวม 6,652 ล้านบาท โตขึ้น 44% ส่วนยอดขายรวมอยู่ที่ 7,235 ล้านบาท มาจากแนวราบ 70%และแนวสูง 30%

ส่วนแผนครึ่งปีหลังนั้น  จะมีโครงการเปิดขายรวมทั้งสิ้น 51 โครงการ มูลค่ารวม 47,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการใหม่ 15 โครงการ มูลค่า 15,000  ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือแบรนด์ใหม่ชื่อ  ‘V Compound’  เป็นบ้านและทาวน์โฮม ราคา 3-7  ล้านบาท  ที่เหลือ 36 โครงการ เป็นโครงการต่อเนื่อง มูลค่า 32,000 ล้านบาท ขณะที่ยอดขาย รอโอนหรือ Backlog  เท่ากับ 10,730 ล้านบาท โดย 45% จะรับรู้รายได้ในปี 2561 ทำให้มั่นใจว่า ยอดขายและรายได้ของปีนี้ของบริษัทจะเป็นไปตามเป้าหมาย คือ 17,000 ล้านบาท

ส่วนเป้าหมายตามโรดแมพ  SC RE-INVENTION 2020 ที่ตั้งไว้ว่า จะมียอดขายไว้ 24,000 ล้านบาท และรายได้ 22,000 ล้านบาท ในปี 2563 นั้น ยังคงเป้าหมายไว้เช่นเดิม แม้จะประเมินแล้วว่า จะสามารถพิชิตเป้าหมายได้ภายในปี 2562 ก็ตาม

เพราะ Priority ที่ทางประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  SC มองเป็นเรื่องของลูกค้า ที่จะทำอย่างไรให้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและมีคุณภาพ  ไม่ใช่เรื่องของตัวเลข

“อย่างที่บอก เราไม่ได้เป็นแค่ Developer พัฒนาที่อยู่อาศัยในวงการอสังหาฯ เท่านั้น แต่เป็น Living Solutions Provider  เสนอโซลูชั่นในการใช้ชีวิต ทิศทางของเราต่อจากนี้ ถึงโฟกัสที่ลูกค้าเป็นหลัก  เพราะเราเชื่อว่า หากรู้ความต้องการ รู้ใจเขา และเราสามารถตอบโจทย์ในสิ่งที่เขาได้ดี เรื่องอื่น ๆ ก็จะตามมาเอง”

AT8P9519_resize


  • 70
  •  
  •  
  •  
  •  
CLOSE
CLOSE