เรียกว่าปีนี้เป็นอีกปีของธุรกิจธนาคารที่มีการขยับตัวครั้งใหญ่ ชนิดที่ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน หลังจากที่ธุรกิจธนาคารขยับตัวสู่โลกดิจิทัลครั้งใหญ่ช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โรคระบาด และปีนี้จะเป็นอีกปีที่ธุรกิจต่างๆ เข้าสู่โลกดิจิทัลแบบเต็มตัวทุกบริการ ทั้งเงินฝาก สินเชื่อ และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งประกัน การลงทุน เห็นได้จากการออกมาเปิดแผนกลยุทธ์ของหลายๆ ธนาคาร
และคราวนี้ก็มาถึงคิวของธนาคารน้องใหม่แต่เก๋าประสบการณ์อย่าง ttb ที่ออกมาเปิดเผยแผนธุรกิจในปี 2566 ที่เน้นการให้ทุกบริการเข้าสู่โลกดิจิทัล เน้นว่าทุกบริการทั้งเรื่องของเงินฝาก สินเชื่อ ประกันและการลงทุน ซึ่งทั้งหมดจะเป็นการให้บริการในรูปแบบ Personalize ผ่าน Data Driven พร้อมด้วยระบบความปลอดภัยที่ตอบโจทย์ความหวาดกลัวของผูคนในยุคที่แฮกเกอร์ระบาดแทนโรค
เดินหน้าสู่ธนาคารไร้เงินสด งดใช้กระดาษ
คุณฐากร ปิยะพันธ์ ผู้จัดการใหญ่ ทีเอ็มบีธนชาต ชี้ว่า หนึ่งในเป้าหมายสำคัญของ ttb คือการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือสำคัญในการส่งมอบประสบการณ์ทางการเงินที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า และเพื่อให้ ttb ก้าวสู่ Top 3 Digital Banking Platform โดยที่ผ่านมาได้ให้บริการผ่านแอปฯ ttb touch ส่งผลให้ลูกค้าเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้านการเงินเข้าสู่โลกดิจิทัลมากขึ้น
ซึ่งในปีที่ผ่านมา ttb พบว่า การทำธุรกรรมที่สาขาลดลง 7% ในทางกลับกันการทำธุรกรรมผ่านแอปฯ ttb touch กลับเพิ่มขึ้นถึง 26% ttb จึงมีกลยุทธ์ในการเพิ่มบริการผ่านทางแอป ttb touch มากขึ้น ซึ่งเป็น 1 ใน 4 กลยุทธ์หลักของปีนี้ ใน การยกระดับช่องทางการขายและการให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการภาษี การขายรถ และการบอกสิทธิประโยชน์ลูกค้า
นอกจากนี้ยังเตรียมเปิดสาขา Pilot Branch ซึ่งเป็นสาขาที่ไม่มีเงินสด (Cashless) งดใช้กระดาษ (Paperless) ในธนาคาร จากข้อมูลของ ttb พบว่า ลูกค้าที่มาใช้บริการธนาคาร ส่วนใหญ่จะเป็นธุรกรรมการจ่ายบิล โดยเฉพาะบิลของธนาคาร ซึ่งสามารถทำได้บนแอปฯ ttb touch และหากลูกค้ามาใช้บริการที่ธนาคาร เจ้าหน้าที่จะทำการแนะนำการทำธุรกรรมต่างๆ ผ่านแอปฯ เป็นหลัก ขณะที่การเบอกถอนเงินจำนวนมาก สามารถดำเนินการได้ผ่านแอปฯ โดยจะมีการระบุว่าสามารถไปรับเงินสดได้ที่สาขาใด
ทั้งนี้ในช่วงแรกจะมีสาขา Pilot Branch ราว 5-10 สาขาเฉพาะใน กทม. โดยจะค่อยๆ เฟดการให้บริการจนกลายเป็นธนาคารไร้เงินสดและไร้กระดาษเต็มรูปแบบ 100% รวมไปถึงการยกระดับความปลอดภัยให้กับแอปฯ ทั้งระบบแจ้งเตือนเมื่อมีการตรวจพบแอปฯ ที่ไม่ปลอดภัยให้กับลูกค้า รวมถึงการยืนยันตัวตนด้วย Biometric เมื่อมีการโอนเงินจำนวนมาก โดยตั้งเป้าเพิ่มจำนวนผู้ใช้แอปฯ ttb touch เป็น 6.5 ล้านคนหรือเพิ่มขึ้น 30% จากปีก่อน
เจาะกลุ่ม Wealth ครอบคลุมทุกบริการ
อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สำคัญ คือ การขยายฐานลูกค้าบุลคล หรือกลุ่ม Wealth ที่มีกำลังซื้อสูงและไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ทางเศรษฐกิจ ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการ ปัจจุบัน ttb มีฐานลูกค้ากลุ่ม Wealth กว่า 40,000 คนรวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 6.5 แสนล้านบาท โดยมีการให้บริการผ่านบัตรเครดิต ttb reserve ทั้งแบบ Signature สำหรับลูกค้าที่มีเงินฝาก 5 ล้านบาทขึ้นไป และแบบ Infinite สำหรับลูกค้าที่มีเงินฝาก 30 ล้านบาทขึ้นไป
จากข้อมูลของ ttb พบว่า กลุ่ม Wealth ต้องการได้รับคะแนนที่รวดเร็ว โดยทุกการใช้จ่าย 10 บาทจะเท่ากับ 1 คะแนนและรับคะแนน x2 เมื่อใช้จ่ายออนไลน์และหมวดโรงพยาบาล แถมยังรับคะแนน x10 เมื่อซื้อประกันที่ร่วมรายการ คุ้มค่าทุกการแลกคะแนน โดยสามารถใช้เป็นส่วนลดค่าเบี้ยประกันหรือแลกเป็นเครดิตเงินคืน และ ต่อยอดความมั่งคั่ง โดย 180,000 คะแนนสามารถเป็นเงินจำนวน 21,600 บาทเข้ากองทุน
นอกจากนี้ยังมีแผนขยายฐานลูกค้าผ่านพันธมิตรในรูปแบบ Ecosystem ในกลุ่มหลักที่ ttb มีความเชี่ยวชาญและมีฐานลูกค้าเดิมอยู่แล้ว ทั้งในด้าน เงินฝาก โดยเฉพาะกลุ่มมนุษย์เงินเดือนที่ธนาคารมีฐานลูกค้ากว่า 1 ล้านรายและธุรกิจกว่า 6,500 บริษัท โดยนำเสนอสินเชื่อที่มีอัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 7.99% พร้อมส่วนลดพิเศษสำหรับแผนประกันชีวิตและสุขภาพ และมีแคมเปญเคลียร์หนี้พิเศษที่ช่วยเคลียร์หนี้แล้วกว่า 400 คนรวมมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท
สินเชื่อรถ สำหรับกลุ่มคนมีรถราว 1.1 ล้านคน ที่ให้บริการสินเชื่อ ttb drive ครบวงจร ผ่านแพลตฟอร์ม “รถโดนใจ” ที่จะเปิดตัวช่วงสิ้นเดือนนี้ โดยเป็นตลาดสำหรับซื้อและขาย ทั้งรถใหม่และรถมือสอง รวมไปถึงบริการรถแลกเงิน ครอบคลุมถึงการทำประกันรถ พร้อมโปรโมชันพิเศษต่างๆ จากพันธมิตรด้านรถยนต์ และ สินเชื่อบ้าน สำหรับกลุ่มคนมีบ้านที่มีราว 1.6 แสนราย ด้วยการเสนอแผน Refinance และสินเชื่อบ้านแลกเงินที่ง่ายและรวดเร็ว รวมถึงโปรโมชันพิเศษต่างๆ จากพันธมิตรที่เกี่ยวข้องกับด้านอสังหาฯ
เข้าถึงตอบทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้า
นอกจากนี้ ttb ยังให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ การพัฒนาผลิตภัณฑ์จากความต้องการของลูกค้า เพื่อสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น โดยยึดตาม 4 แกนหลักทั้งการใช้ การกู้ การลงทุนและการคุ้มครอง โดยในส่วนของ “การใช้” ttb มีผลิตภัณฑ์บัญชีมากมายที่ออกแบบมาเพื่อสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น ทั้งบัญชีเงินฝากเพื่อออม บัญชีเพื่อใช้ บัญชีเงินฝากให้อัตราดอกเบี้ยสูง
นอกจากนี้ยังให้บริการบัตรเครดิตที่เหมาะสมในแต่ละ Lifestyle ทั้ง So Chill สำหรับคนที่ชอบรูดและกดเงินสด ที่ฟรีค่าธรรมเนียมการใช้และดอกเบี้ยกดเงินสดเริ่มที่ 3%, So Fast สำหรับยคนที่ชอบสะสมแต้ม โดยทุกการใช้ 10 บาทจะเท่ากับ 1 คะแนน, So Smart สำหรับคนชอบเงินคืน สามารถรับเงินคือ 1% ทุกครั้งที่จ่าย และ Absolute สำหรับสายช้อปออนไลน์และสายเที่ยว รับคะแนน x2 เมื่อช้อปออนไลน์หรือรับ FX Rate 1% เมื่อรูดใช้จ่ายต่างประเทศ
สำหรับ “การกู้” ttb มีทั้งบ้านแลกเงินและรถแลกเงินเพื่อลดภาระหนี้ รวมไปถึงยังมีสินเชื่อรวบหนี้ที่นำหนี้บัตรต่างๆ จากธนาคารได้ก็ได้มารวมเป็นก้อนเดียว และสามารถใช้บ้านหรือรถมาค้ำประกัน และยังมีสินเชื่อกิจการขนาดเล็กโดยต้องเป็นธุรกิจที่จดทะเบียนบุคคลธรรมดา ขณะที่ “การลงทุน” ttb มีแผนการลงทุนจากกองทุนรวมหลากหลายรูปแบบที่เหมาะสมกับความเสี่ยงแต่ละระดับ
และ “การคุ้มครอง” ที่ ttb พบว่า คนจะกลัวอยู่ 3 อย่าง กลัวเจ็บ, กลัวจนและกลัวตาย ttb จึงออกแบบแผนประกันต่างๆ เพื่อรองรับความกลัวต่างๆ ทั้งกลัวเจ็บที่มีประกันสุขภาพ ttb easy care plus family ครั้งแรกที่แชร์วงเงินคุ้มครองทั้งครอบครัวครอบคลุมถึงครอบครัวแบบ LGBTQ กลัวจนกับประกัน ttb the treasure plus โดยจ่ายเบี้ย 8 ปีคุ้มครอง 88 ปี รับเงินคืน 8% ทุกปี กรณีเสียชีวิตคุ้มครอง 8 เท่า และกลัวตายกับประกันภัย ttb flexi life protect (unit link) ด้วยวงเงินคุ้มครองชีวิตสูงสุด 50 เท่า
Data หัวใจสำคัญการเติบโต
และกลยุทธ์สุดท้าย ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยการใช้ข้อมูล ด้วยข้อมูลที่มีอยู่ช่วยให้ธนาคารทราบว่าควรจะขายผลิตภัณฑ์ต่างๆ เมื่อไหร่ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อลูกค้ารูดบัตรซื้อตั๋วเครื่องบิน ธนาคารจะรู้ว่าควรนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันการเดินทาง เพราะลูกค้าเตรียมเดินทาง หรือบริการที่ช่วยให้อัตราแลกเปลี่ยนถูกลง หรือลูกค้ารูดบัตรชำระค่าบริการโรงพยาบาล ธนาคารจะคาดว่า ลูกค้าอาจไม่มีประกันจึงต้องจ่ายเงินเองสามารถนำเสนอประกันสุขภาพได้
หรือการไปเช็ดยอดเงินที่ตู้ ATM ธนาคารอาจวิเคราะห์ได้ว่า ลูกค้าอาจจะกำลังต้องการเงินเพิ่มก็มีผลิตภัณฑ์สินเชื่อต่างๆ มานำเสนอ ซึ่งการใช้ข้อมูลพฤติกรรมการใช้บริการต่างๆ จะช่วยให้ธนาคารสามารถวิเคราะห์โอกาสการขาย เพื่อนำเสนอได้ตรงตามความต้องการในช่วงเวลาที่เหมาะสม ขณะเดียวกันได้ใช้ข้อมูลเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุด เช่น การใช้ข้อมูลในเรื่องการจัดการบริหารความเสี่ยง เพื่อพิจารณาการปล่อยสินเชื่อและติดตามหนี้อย่างมีคุณภาพ
นอกจากนี้ยังมีการใช้ข้อมูลเพื่อพัฒนาคุณภาพของพนักงานอีกด้วย โดยพนักงานใน ttb สามารถส่งดาวให้กับเพื่อนๆ ได้ ซึ่งจะทำให้ทราบว่า ใครให้ดาวกับใคร แล้วให้ด้วยเพราะสาเหตุใด และเมื่อขยายข้อมุลออกมาจะช่วยให้พบว่า หน่วยงานไหนใน ttb เป็นที่รักของคนในองค์กรและหน่วยงานไหนที่คนในองค์กรไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์ด้วย ซึ่งจะช่วยให้ ttb คิดวิธีการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในองค์กร โดยทั้งหมดจะเกิดขึ้นโดยที่พนักงานไม่รู้ตัว
นอกจาก 4 กลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยให้ ttb ก้าวสู่ธนาคารที่ลูกค้า “เลือกใช้และชื่นชอบ จนต้องบอกต่อ” และตั้งเป้ารายได้เติบโต 10% ในปีนี้ ธนาคารยังเตรียมเปิดตัวทั้งแพลตฟอร์ม “รถโดนใจ” และการจัดตั้ง ttb broker ที่จะทำหน้าที่เป็นตัวแทนประกันออนไลน์ ทั้งประกับภัยรถยนต์และประกันสุขภาพ สามารถซื้อขายได้ง่ายและรวดเร็วผ่านระบบออนไลน์ ยิ่งไปกว่านั้นแอปฯ ttb touch ยังได้รับการพัฒนาให้สามารถเปิดบัญชีใหม่ได้ สมัครสินเชื่อได้
พิเศษสำหรับผู้ที่มีบัญชีเงินฝาก ttb all free และมีเงินอยู่ในบัญชีขั้นต่ำ 5,000 สามารถเบิกค่ารักษาฟรี พร้อมความคุ้มครองชีวิตสูงสุด 3 ล้านบาทหรือ 20 เท่าของเงินฝากขั้นต่ำในบัญชี ได้ทันทีโดยอัตโนมัติ สำหรับเป้าหมายในปีนี้ ด้านเงินฝากน่าจะมูลค่าแตะ 1.05 ล้านล้านบาท มูลค่าสินเชื่อบ้านใหม่และบ้านแลกเงินแตะ 6.8 หมื่นล้านบาท บัตรเครดิตใหม่สามารถออกได้ 3 แสนใบ โดยมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตอยู่ที่ 1.5 แสนล้านบาท ขณะที่มูลค่าสินเชื่อบุคคลใหม่รวม 3.5 หมื่นล้านบาท จำนวน 1.8 แสนรายและมีลูกค้าใช้แอปฯ ttb touch 6.5 ล้านราย
