ยอดขายเดือนม.ค. ของมาม่า เพิ่มขึ้นถึง 10% เมื่อเทียบกับเดือนม.ค. ปีก่อน ส่วนหนึ่งเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงดัชนีมาม่าที่เติบโตสวนกระแสภาวะเศรษฐกิจถดถอย ประกอบกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่รู้สึกหวาดกลัวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ การว่างงาน ความมั่นคงด้านรายได้ที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วจนถึงปีนี้ ทำให้คนเน้นเก็บเงิน ประหยัด ทานข้าวนอกบ้านน้อยลง โดยเฉพาะชนชั้นกลาง เริ่มหันมาบริโภคมาม่ามากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ลูกค้าหลักของมาม่า ยังเป็นกลุ่มรากหญ้า ซึ่งกลุ่มนี้มองกลับกันว่ามาม่าเป็นสินค้า ฟุ่มเฟือย จากที่เคยบริโภคคนละ 1 ซอง อาจบริโภคครั้งละ 1 ซองต่อครอบครัว จึงต้องรอดูมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ว่าจะกระตุ้นกำลังซื้อของคนได้เท่าใด
ทิศทางการทำตลาดของผลิตภัณฑ์มาม่าในปีนี้ จะเน้น 2 ข้อหลัก คือ ความอร่อยและความคุ้มค่า ราคาประหยัด โดยผลิตภัณฑ์ใหม่มาม่าราคาประหยัด ซองละ 5 บาท จะวางจำหน่ายในเดือนมี.ค. นี้
นอกจากนี้ ภายใต้งบการตลาด 300 ล้านบาทในปีนี้ จะเน้นสื่อสารความคุ้มค่าในราคาประหยัดของมาม่า โดยจัดประกวดสูตรอาหารใหม่ๆ สำหรับมาม่า ภายใต้งบ 25 บาท สูตรใดได้รับรางวัล จะนำไปเผยแพร่เพื่อกระตุ้นให้คนบริโภคมาม่ามากขึ้น
Read full story