ดิสนีย์ ยุติการให้บริการสตรีมมิ่ง Hotstar ในสหรัฐฯ ย้ายคอนเทนต์ไปอยู่ Hulu และ ESPN Plus แทน

  • 1
  •  
  •  
  •  
  •  

ดิสนีย์ ยุติการให้บริการสตรีมมิ่งของ Hotstar ในสหรัฐอเมริกา โดยจะทยอยอัปโปรแกรมรายการต่างๆ ลงใน Hulu และ ESPN Plus แทน

 

ดิสนีย์กําลังก้าวไปอีกขั้นเพื่อปรับปรุงพอร์ตโฟลิโอธุรกิจสตรีมมิ่ง ทั้งนี้ บริษัทได้วางแผนที่จะยุติการให้บริการ Hotstar ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งรวมหมายถึงการให้บริการรับชมคริกเก็ตสดและโปรแกรมรายการต่างๆ ของทางเอเชียใต้ให้กับผู้ชมชาวอเมริกันในปีหน้า แต่จะนำรายการกีฬาและคอนเทนต์บันเทิงต่างๆ ของ Hotstar มาใส่ไว้ที่ ESPN Plus (ซึ่งจะได้รับลิขสิทธิ์คลิกเก็ตในสหรัฐฯ ของ Hotstar ทั้งหมด) และ Hulu สำหรับตลาดสหรัฐฯ ซึ่งทางดิสนีย์นั้นหวังว่าลูกค้าของ Hotstar ในสหรัฐฯ จะเปลี่ยนมาใช้บริการในรูปแบบ Disney Bundle แทน

 

ทั้งนี้ ในวันที่ 1 กันยายนเป็นต้นไป สมาชิก Hotstar ในสหรัฐอเมริกาที่ไม่มีบริการสตรีมมิ่งอื่น ๆ ของดิสนีย์จะมีสิทธิ์ได้รับ Disney Bundle (Disney Plus, Hulu, ESPN Plus) จนถึงสิ้นสุดการสมัครสมาชิกรายปีของ Hotstar และจะปัดเศษขึ้นให้จนถึงสิ้นเดือน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

 

“การย้ายจาก Hotstar ซึ่งเป็นแบรนด์ระดับพรีเมี่ยม สําหรับคอนเทนต์เอเชียใต้ ไปยัง ESPN Plus และ Hulu ในสหรัฐอเมริกา เป็นการขยายตามความหลากหลายของเนื้อหาและความสนใจ นำเสนอผ่าน Disney Bundle และเป็นแพลตฟอร์มสําหรับเนื้อหาในเอเชียใต้ เพื่อเข้าถึงผู้ชมที่กว้างขึ้น” บริษัทดิสนีย์กล่าวในแถลงการณ์

 

Disney Bundle ในสหรัฐอเมริกาจะรวมเนื้อหาของ Hotstar ทั้งหมด ที่จะทำการย้ายข้อมูล รวมไปถึงการเข้าถึงทุกคอนเทนต์ที่มีอยู่ใน Disney Plus, ESPN Plus และ Hulu ซึ่งคาดว่าประกอบไปด้วย ลิสต์ของรายชื่อภาพยนตร์มากกว่า 100,000 รายการ แล้วยังมีรายการทีวี รายการโชว์ และรายการการแข่งขันกีฬา ซึ่งทั้งสามบริการนั้น มีค่าสมาชิกรายเดือนแบบปกติอยู่ที่ 13.99 ดอลลาร์/เดือน และแบบ Hotstar ในสหรัฐฯ มีค่าบริการที่ 49.99 ดอลลาร์/ปี

 

การแข่งขันคริกเก็ตเป็นเนื้อหาที่มีคนดูมากที่สุดของ Hotstar กับการโยกย้ายโปรแกรมครั้งนี้ ซึ่งจะเริ่มต้นวันที่ 1 กันยายน จะทำให้ ESPN Plus เป็นบ้านใหม่ในการให้บริการสตรีมมิ่งของสหรัฐฯ เพื่อถ่ายทอดการแข่งขันคริกเก็ตสดจาก VIVO IPL, สภาคริกเก็ตนานาชาติ (ICC) ชาย T20 เวิร์ลคัพ, และ BCCI โฮมทัวร์ สําหรับทีมชาติอินเดีย และในปี 2022 การแข่งขันทั้ง 62 แมตช์ของฤดูกาล IPL จะสตรีมสดทาง ESPN Plus โดยจะเริ่มในเดือนมีนาคม 2022 ซึ่งจะเสริมการแข่งขันคริกเก็ตใน ESPN Plus รวมถึงการแข่งขันคริกเก็ตนิวซีแลนด์มากกว่า 100 แมตช์ในอีก6 ปีข้างหน้าและการแข่งขันคริกเก็ต West Indies 100 บวกในอีก 5 ปีข้างหน้า

 

ในขณะเดียวที่ Hulu จะเพิ่มรายการพิเศษจาก Hotstar หลายพันรายการ และภาพยนตร์และซีรีส์บอลลีวูดจากเอเชียใต้ยอดนิยมเข้าไป

 

พูดง่ายๆ ว่าเป็นการยุติการให้บริการสตรีมมิ่งแบบสแตนอโลนของ Hotstar ในสหรัฐฯ แต่จะถูกนำไปรวมเป็นบันเดิ้ล ใน Disney Bundle ซึ่งประกอบไปด้วย Disney Plus, ESPN Plus และ Hulu

 

ดิสนีย์มีเป้าหมายที่จะปิดบริการ Hotstar ในสหรัฐฯในช่วงปลายปี 2022 นี้ แต่ยังไม่ได้ระบุวันเวลาที่แน่ชัดออกมา

 

อธิบายเพิ่มเติมสำหรับ Hotstar คือการให้บริการวิดีโอออนดีมานด์ ก่อตั้งขึ้นโดยบริษัทสื่อทีวีรายใหญ่ในอินเดีย ได้แก่ Star India และเป็นบริษัทในเครือของ Fox และเมื่อดิสนีย์ซื้อ Fox ไปแล้ว (เมื่อราวปี 2019 ในราคา 71.3 พันล้าดอลลาร์) นั่นหมายความว่า Hotstar ก็ย่อมอยู่ในบ้านใหญ่ได้แก่ ดิสนีย์ ด้วยน่ะเอง พร้อมกับทำการรีแบรนด์ในปี 2020 ในชื่อใหม่ว่า Disney+ Hotstar

 

Christine McCarthy ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของดิสนีย์ กล่าวว่า ปัจจุบัน Hotstar มีผู้ใช้บริการอยู่ที่ประมาณ 116 ล้านคน หรือประมาณ 40% ของผู้ใช้ Disney+ นอกจากนี้ Hotstar ยังคิดเป็นการเพิ่มสมาชิกสุทธิส่วนใหญ่ของ Disney+ ในช่วงไตรมาสที่สองและสามของปีนี้ (2021) อีกด้วย

 

อย่างไรก็ตาม ข่าวการปิดตัวลงของ Hotstar ในสหรัฐอเมริกา ยังไม่มีความคืบหน้าว่าจะส่งผลกระทบใดๆ กับบริการ Disney+ Hotstar ที่เปิดให้บริการในประเทศอื่นๆ รวมถึงประเทศไทยในตอนนี้ ซึ่งหากมีความคืบหน้าประการใดเราจะรายงานให้ทราบต่อไป.

 

Source:

Variety.com

Holliywooderporter.com

 


  • 1
  •  
  •  
  •  
  •  
pigabyte
การเรียนรู้ไม่มีวันจบสิ้น มาเรียนรู้และสนุกไปกับบทความ จาก MarketingOops! กันนะคะ แล้วเราจะได้ค้นพบว่าโลกของ Marketing นั้น So Sexy and Cool!