DJI ออกบินในประเทศไทยอีกครั้ง หลังเติบโตอย่างมากในปีที่ผ่านมา

  • 1
  •  
  •  
  •  
  •  

DJI_01

ปฏิเสธไม่ได้ว่าโดรนที่ดีที่สุดในโลกคงหนีไม่พ้นโดรนจากค่าย DJI และยังเป็นโดรนที่ถูกใช้ในเชิงพาณิชย์มากที่สุดไม่ว่าจะเป็นการถ่ายทำภาพกิจกรรมงานสำคัญต่างๆจนอาจเรียกได้ว่าไปไกลกว่าคำว่า Gadget แต่ก็ต้องยอมรับว่าโดรนกลายเป็นอุปกรณ์ในการถ่ายภาพชนิดหนึ่งที่แม้แต่นักถ่ายภาพมืออาชีพและนักถ่ายภาพมือสมัครเล่นยังนิยมนำมาใช้งาน

จากความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยที่ต้องการใช้งานโดรนขนาดเล็กเพื่อการถ่ายภาพเชิงท่องเที่ยวแบบผจญภัยส่งผลให้ DJI เปิดตัวโดรนขนาดเล็กตัวใหม่ด้วยการควบรวมคุณสมบัติของโดรนขนาดเล็ก 2 รุ่นก่อนหน้านี้อย่าง Mavic Pro และ Spark เข้าไว้ด้วยกันจนเกิดเป็น Mavic Air ซึ่งเป็นโดรนถ่ายภาพขนาดเล็กที่มีประสิทธิภาพสูง

 

เจาะตลาดไทยแบบไม่ใช้โฆษณา

ความสำเร็จผ่านการสร้าง EXP

ต้องยอมรับว่าความสำเร็จของ DJI ที่ผ่านมา ล้วนมาจากสื่อ Social Media นั่นเพราะกลยุทธ์อย่างหนึ่งของ DJI คือการไม่เน้นโฆษณาแต่จะเน้นไปที่การพัฒนาเทคโนโลยีโดรนให้ตอบสนองความต้องการผู้ใช้โดรนในอนาคต โดยจะเน้นไปที่การสร้างประสบการณ์การใช้งานโดรนผ่านเหล่าบรรดาผู้ใช้งานจริงที่ส่วนใหญ่เป็นทั้ง Blogger และ Youtuber รวมไปถึงการแชร์ภาพถ่ายและวิดีโอในสื่อสังคมออนไลน์

Mavic Air_travel

นอกจากนี้ทางฝ่ายซินเน็ก (Synnex) พันธมิตรในการจัดจำหน่ายและดูแลบริการหลังการขาย ก็มีการเทรนนิ่งให้กับผู้ค้าเพื่อนำไปเทรนนิ่งให้กับผู้ซื้อก่อนทำการบิน รวมไปถึงการอำนวยความสะดวกเรื่องความรู้ทางกฎหมายและการติดต่อประสานงานกับน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับโดรน ที่สำคัญการให้ความรู้ถึงมารยาทและข้อควรระวังสำหรับการบินโดรนและความเข้าใจในเรื่องของ เขตห้ามบิน (No Fly Zone)

ทาง DJI ยังชี้ว่าปัจจุบันสัดส่วนของโดรนเพื่อใช้บินส่วนตัวและโดรนที่ใช้ในเชิงพาณิชย์ไม่สามรถแยกแยะออกมาได้เนื่องจากหลายคนก็นำโดรนขนาดเล็กที่มีประสิทธิภาพไปใช้ในเชิงพาณิชย์ และหลายครั้งที่นำโดรนในเชิงพาณิชย์ไปใช้ส่วนตัว แต่ DJI ก็ยืนยันว่าจะยังคงพัฒนาโดรนที่ติดตั้งกล้องความละเอียดสูงต่อไป โดยจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของโดรนเพื่อใช้ในการขนส่งคนและพัสดุ รวมไปถึงจะไม่พัฒนาโดรนที่ใช้ในใต้น้ำ

 

คุณสมบัติที่หลากหลายของ Mavic Air

รวมทุกฟังชั่นการใช้งานด้านถ่ายภาพ

เรียกได้ว่า Mavic Air เป็นโดรนที่รวบรวมข้อดีของทั้ง Mavic Pro ที่เน้นเรื่องของประสิทธิภาพการถ่ายภาพ รวมไปถึงประสิทธิภาพในการควบคุมและ Spark ที่มีจุดเด่นในเรื่องการบังคับและควบคุมด้วยท่าทางโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ควบคุม นอกจากนี้ Mavic Air ยังมาพร้อมกับกล้องถ่ายวิดีโอวามละอียดระดับ 4K และเซ็นเซอร์ป้องกันการชนถึง 7 จุดสามารถจำลองสิ่งกีดขวางในรูปแบบ 3 มิติได้ในระยะ 20 เมตร สามารถบินได้ด้วยความเร็วสูงสุด 68 กม./ชม.

Mavic Air_diving

Mavic Air ยังสามารถถ่ายภาพนิ่งด้วยความละเอียดสูงถึง 12 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยโหมด HDR ที่ช่วยให้สามารถถ่ายภาพได้ชัดเจนแม้อยู่ในสถานที่ที่มีแสงน้อยก็ตาม ไม่เพียงเท่านี้ Mavic Air ยังมาพร้อมกับโหมดถ่ายภาพใหม่ถึง 2 รูปแบบ ทั้งแบบ Asteriod ที่จะถ่ายภาพกว้างแบบวนรอบด้านบนแล้วค่อยๆ ซูมเข้าไปใกล้วัตถุบนพื้น

และการถ่ายภาพแบบ Boomerang ที่ช่วยถ่ายภาพในลักษณะบินวนเป็นวงรีรูปไข่แล้วกลับมาที่จุดเริ่มต้น ช่วยสร้างสีสันและมุมกล้องใหม่ๆ ที่แปลกตา โดย Mavic Air ยังคงฟังก์ชั่นในถ่ายภาพในรุ่นก่อนๆ ไว้ โดยเฉพาะฟังก์ชั่น ActiveTrack หรือโหมดบินตามที่มีการพัฒนาให้ระบบสามารถโฟกัสได้หลายเป้าหมาย ยิ่งไปกว่านั้นยังได้รับกรพัฒนาใหเสามารถบินติดตามเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ แม้ว่าเป้าหมายจะมีการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วก็ตาม

 

พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค

กล้องธรรมดาจึงไม่เพียงพอ

จุดหนึ่งที่ทำให้โดรนได้รับความนิยมอย่างสูงคือความสามารถในการถ่ายภาพมุมสูงในแบบที่การถ่ายภาพปกติไม่สามารถทำได้ประกอบกับผู้บริโภคส่วนใหญ่ที่ใช้โดรนในแบบส่วนตัวจะเป็นกลุ่ม GenX ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและกลุ่มดังกล่าวยังเป็นกลุ่มที่นิยมเล่น เครื่องเล่นวิทยุบังคับ (Radio Control– RC) มาก่อนอยู่แล้วตั้งแต่ในวัยเด็กด้วยความผูกพันธ์และคุ้นชินกับเครื่องเล่นวิทยุบังคับ

Mavic Air_hiking 2

ไม่เพียงเท่านี้กระแสการถ่ายภาพในมุมมองใหม่ลงใน Social Media อย่าง Facebook เพื่ออวดรูปสวยๆ กันเริ่มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมากมายซึ่งการได้ภาพในมุมมองแปลกๆ หรือการได้ภาพในมุมมองใหม่ๆ จะช่วยให้ผู้โพสต์ได้รับความสนใจอย่างมากจากโลกโซเชียล และนั่นทำให้โดรนกลายเป็นที่สนใจของกลุ่มคนรุ่นใหม่ และโดรนคือคำตอบในการถ่ายภาพมุมมองใหม่

นอกจากนี้การนำโดรนมาใช้เพื่อการถ่ายภาพในเชิงพาณิชย์ก็ยังมีอัตราเติบโตขึ้นอย่างมากโดยเฉพาะการถ่ายงานด้านภาพยนตร์ด้านกิจกรรมหรือ Event ต่างๆนิยมใช้โดรนเป็นอุปกรณ์สำคัญในการถ่ายภาพเนื่องจากการได้ภาพมุมสูงในอดีตจำเป็นต้องใช้เทคนิครวมไปถึงการใช้อุปกรณ์พิเศษต่างๆซึ่งมีต้นทุนสูงการใช้โดรนจึงเป็นการลดต้นทุนในการถ่ายภาพต่างๆ ได้อย่างมาก

 

ทิศทางของโดรนในประเทศไทย

กับกฎข้อบังคับต่างๆของภาครัฐ

สำหรับเทรนด์ของโดรนทั่วโลกในอนาคตจะเน้นไปที่ขนาดเล็กลง เบาขึ้นและเทคโนโลยีที่สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเองอย่างระบบ AI และ Machine Learning จะกลายเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคคาดหวังจากโดรนมากยิ่งขึ้น ซึ่ง DJI มองโดรนติดกล้องเพื่อใช้ในการถ่ายภาพจะยังคงมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเทคโนโลยีโดรนอาจจะพัฒนาไปสู่การขนส่งผู้โดยสรและการขนส่งพัสดุ แต่จากกฎระเบียบด้านอากาศยานไร้คนขับทั่วโลกชี้ให้เห็นว่า เทคโนโลยีดังกล่าวยังมีหลายปัจจัยที่ไม่เอื้ออำนวย เช่น ความสูงของอาคาร สถาพอากาศ สภาพการจราจรทางอากาศ เป็นต้น

Mavic Air_travel 2

แม้ว่าโดรนจะเติบโตขึ้นอย่างมากในประเทศไทยแต่ดูเหมือนว่าชะตากรรมของโดรนในประเทศไทยจะไม่ได้สวยงามอย่างที่คิดเมื่อเกิดเหตุการณ์การบินโดรนแบบสุ่มเสี่ยง ส่งผลให้ภาครัฐต้องเข้ามาดูอย่างเข้มงวดจนก่อให้เกิดการบังคับห้ามบินโดรนอย่างจริงจัง โดยผู้ที่สามารถบังคับบินได้จะต้องผ่านการรับรองจากกรมการบินพลเรือนแต่ถึงกระนั้นก็ยังมีข้อกฎหมายที่ยังคลุมเครือ ส่งผลให้ผู้ใช้งานโดนไม่แน่ชัดในตัวบทกฎหมาย

สำหรับทาง DJI มองว่าเป็นเรื่องปกติที่โดรนจะถูกบังคับการใช้งานโดยกฎหมายของแต่ละประเทศ ซึ่งทั่วโลกยังไม่มีที่ใดที่มีกฎที่ครอบคลุมได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพราะคนออกกฎหมายอาจจะไม่ใช่คนที่ใช้งานโดรน แต่ DJI เชื่อว่าการได้หารือแบบครบทุกฝ่ายทั้งผู้ผลิตอย่าง DJI ผู้ใช้งานและภาครัฐจะช่วยให้เกิดกฎระเบียบร่วมกันและเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย โดย DJI พร้อมดำเนินการตามกฎระเบียบข้อบังคับต่างๆ ที่ภาครัฐกำหนด

 

Copyright © MarketingOops.com


  • 1
  •  
  •  
  •  
  •  
Gigolo
เมื่อเทคโนโลยีอยู่ใกล้กับชีวิตทุกคน มารู้เท่าทันเทคโนโลยีเพื่อใช้มัน แต่อย่าให้เทคโนโลยีมันใช้เรา
CLOSE
CLOSE