เปิดตัว “Lowe Profero” ดิจิตอลเอเจนซี่ใหม่เครือโลว์ฯ ย้ำไม่เน้นไวรัล ขอทำแบรนดิ้ง-สร้างกำไรให้ลูกค้า กร้าวปีหน้าขึ้นแท่นเบอร์ 1

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

Lowe profero2

เมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป วิถีชีวิตผู้คนเริ่มเป็น Digital Lifestyle มากขึ้น ดังนั้น สื่อและโฆษณาจึงต้องมีการปรับตัวเช่นกัน ล่าสุด Lowe Thailand เอเจนซี่โฆษณารายใหญ่ซึ่งมีสาขาอยู่หลายแห่งทั่วโลก ทำการเปิดตัวเอเจนซี่ในเครือ คือ Lowe Profero ซึ่งจะมาดูแลสร้างสรรค์งานด้านดิจิตอลโดยเฉพาะ เมื่อวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา

“โรเบิร์ต ฮอลล์” ผู้จัดการทั่วไป Lowe Profero กล่าวแนะนำ Lowe Profero ประเทศไทย ว่าเป็นเอเจนซี่ด้านการสื่อสารการตลาดในเครือ Lowe Group Thailand โดยมีบริการต่างๆ ได้แก่ แพล็ตฟอร์มดิจิตอล เนื้อหา แคมเปญการตลาด และการวิเคราะห์ผลการดำเนินงานด้านการสื่อสารผ่านสื่อดิจิตอล แต่ตัวที่จะขับเคลื่อนก่อนเป็นดับแรกเลยก็คือ Strategy หรือการวางยุทธศาสตร์ ซึ่งเรามีทีมงานที่แข็งแรงในเรื่องของการวางแผน

เดิมทีทีมงานเหล่านี้เคยอยู่ใน Lowe Open แต่ตอนนี้แยกมาเป็นดิจิตอล งานของเรามีความเชี่ยวชาญด้านดิจิตอลอย่างมาก เราเริ่มต้นจากคนทำงานแค่ 2 คน จนปัจจุบันมีทีมงานที่แข็งแกร่งถึง 25 คน และดูแลแบรนด์ใหญ่ๆ ทำแคมเปญใหญ่ๆ มาแล้วมากมาย อาทิ แคมเปญ Taylor Swift and Cornetto ซึ่งทีมที่ประเทศไทยเป็นคนคิดไอเดียแล้วเปิดตัวในประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน หรือแม้แต่เว็บ Apple.com ซึ่งเป็นแพล็ตฟอร์มที่ใช้กันทั่วโลก ก็เป็นทีมงานของ Lowe Profero ประเทศจีนทำ ซึ่งทีมงานตรงนี้สามารถทำงานกันเป็นเครือข่ายเน็ตเวิร์กที่มีศักยภาพและเชื่อมโยงกันได้ตลอดทุกประเทศ ดังนั้นเราจึงมั่นใจในตัวทีมงานของเราอย่างมาก”

และลูกค้าที่ผ่านมา อาทิ Heineken, Mercedes-Benz, Unilever Brands, Tiger Beer, Danone, Brands Gen U, Vogue Eyewear, Ray-Ban, Suntory ฯลฯ และล่าสุดยังได้ลูกค้าจากประเทศเพื่อนบ้านมาอีกด้วย

ยุทธศาสตร์และความโดดเด่นของ Lowe Profero “โรเบิร์ต ฮอลล์” กล่าวว่า สิ่งที่ Lowe Profero มีและมั่นใจว่าจะสามารถสร้างความแตกต่างจากบริษัทเอเจนซี่อื่นๆ ได้ก็คือ การสร้าง Branding ให้กับลูกค้าซึ่งสำคัญมาก ไม่เพียงแค่นั้นจะต้องเพิ่มยอดขาย สร้างลูกค้าใหม่ๆ ให้กับแบรนด์ได้ด้วย

เพราะถ้าไม่ทำอย่างนั้น แม้เรามีครีเอทีฟแคมเปญที่ดีมากมาย เป็น Talk of The Town เลย แต่ไม่ตอบโจทย์อะไรไปที่แบรนด์ หรือถามว่าลงทุนไปแล้วแบรนด์ได้อะไรกลับมาหรือเปล่า ตอบไม่ได้ เพิ่มยอดขายหรือไม่ก็ตอบไมได้ เราพยายามมองด้านนี้ และระวังเรื่องนี้มาก ซึ่งตรงจุดนี้เรามีทีมที่ทำงานด้าน analytics วิเคราะห์ข้อมูล data ออกมาก่อนที่จะลงมือทำผลงานชิ้นหนึ่ง จะเห็นว่าแบรนด์เพอร์ฟอแมนซ์เป็นสิ่งที่เราเน้น เราขับเคลื่อนด้วย strategy เราสร้างไอเดียขึ้นมา ดังนั้น งานของเราจึงไม่ใช่แค่ประสบความสำเร็จเฉพาะด้านครีเอทีฟเท่านั้นแต่ลูกค้ายังได้ทั้ง branding และ income อีกด้วย”

ด้าน “สุภาวดี ตันติยานน์ซีอีโอ Lowe Thailand กล่าวถึงความมุ่งมั่นที่สำคัญของ Lowe Profero ว่า เราวางเป้าหมายในปี 2015 ว่าจะต้องติด Top5 ในดิจิตอล เอเจนซี่ และปี 2016 จะต้องก้าวขึ้นเป็นอับดับ 1 ในดิจิตอล เอเจนซี่ ให้ได้ ซึ่งเรามั่นใจว่าทำได้ด้วยความแข็งแกร่งของลูกค้าและพาร์ทเนอร์ที่เรามี นอกจากนี้ เครือข่ายการทำงานทั่วโลกซึ่งเป็นที่ยอมรับจากแบรนด์ใหญ่ๆ ระดับโลกมากมาย

“สำหรับรายได้นั้นเราภูมิใจที่จะบอก่า เราโต 30%-40% ทุกปี และในปีหน้าเราก็มั่นใจว่าจะมากกว่า 40%”

ทั้งนี้ แนวโน้มตลาดดิจิตอลและการจัดสรรงบฯ ของแบรนด์ต่างๆ ในช่วงนี้เป็นอย่างไรนั้น “สุภาวดี” วิเคราะห์ว่า สำหรับตลาดดิจิตอลถือว่าเป็นช่วงขาขึ้น ในขณะที่ภาพรวมการใช้จ่ายด้านโฆษณาในส่วนนี้อาจจะไม่ได้สูงมากนัก เพราะด้วยสภาพเศรษฐกิจและหลาย ปัจจัย ลูกค้าจึงตัดสินใจเลือกใช้สื่อและแคมเปญที่ไม่หวือหวามากและเห็นผลที่ได้ชัดเจนกว่า แต่สำหรับงานด้านดิจิตอลเป็นอะไรที่จะมีการใช้เงินที่เพิ่มมากขึ้น เราเห็นการเจริญเติบโตของตลาดในเรื่องของดิจิตอล ซึ่งไทยยังมีพื้นที่ให้โตได้อีกเยอะ

“บริษัทและแบรนด์ต่างๆ แม้จะไม่ได้เพิ่มงบฯ ในการโฆษณาแต่เราเห็นความพยายามที่เกลี่ยงบเทมาด้านดิจิตอลในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น ในอดีตนั้นอาจจะอยู่แค่ 2-3% แต่ตอนนี้เพิ่มขึ้นเป็น 10% คือลูกค้าชิฟเงินมาใส่ดิจิตอลมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องมีความบาลานซ์ระหว่างออฟไลน์กับออนไลน์อยู่ดี”

ดังนั้น ความสามารถด้านการตลาดผ่านสื่อดิจิตอลของทีมงานถือเป็นหัวหอกสำคัญสู่การเปลี่ยนแปลงเพื่อก้าวสู่การเป็นบริษัทด้านสื่อสารการตลาดที่มีบริการหลากหลายและรอบด้าน บัดนี้เราสามารถพัฒนาและบริหารจัดการบริการต่างๆ ที่จะให้แก่ลูกค้าได้เองภายในกรุ๊ป โดยโลว์ โพรเฟโร จะทำงานแบบไร้รอยต่อในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของทีมงานขนาดใหญ่ที่มีหลากหลายทักษะผสานกันอย่างครบครันภายใต้ โลว์ กรุ๊ป ประเทศไทย

หมายเหตุ

เกี่ยวกับการควบรวมกิจการระหว่าง Lowe and Partners และ Mullen จนเป็น Mullen Lowe Group หรือ มัลเล็น โลว์ กรุ๊ป

เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2015 เครือข่ายโลว์และพาร์ทเนอร์ (Lowe and Partners) ทั่วโลกรวมตัวกับ มัลเล็น (Mullen) เอเจนซี่ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา เพื่อก่อตั้งมัลเล็น โลว์ กรุ๊ป (Mullen Lowe Group) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเครืออินเตอร์พับบลิค กรุ๊ป (Interpublic Group of Companies ใช้สัญลักษณ์หุ้นใน NYSE: IPG)

Mullen Lowe Group เป็นการควบรวมกิจการกัน ในแง่ระดับโลก เป็นความเคลื่อนไหวที่จะทำให้แข็งแกร่งทั้งสองด้าน ซึ่ง Mullen เองก็มีลูกค้าระดับโกลบอลอยู่หลายรายด้วยกัน เช่น Google, Adidas ซึ่งในส่วนของ Lowe Group เรามีเน็ตเวิร์กและมีสาขาอยู่กว่า 60 ประเทศทั่วโลก เมื่อสองบริษัทมารวมกัน เราก็จะได้ความแข็งแรงของครีเอทีฟและเน็ตเวิร์ก

มัลเล็น โลว์ กรุ๊ป ถูกจัดอันดับให้เป็นเครือข่ายเอเยนซี่ที่มีความคิดสร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพที่ได้รับรางวัลมากที่สุดในโลกอย่างต่อเนื่อง และในช่วงปี 2014 คว้ารางวัล Effie มากถึง 135 รางวัล จึงรั้งอันดับหนึ่งใน 2015 Effie Index ในแง่ของคะแนนต่อรายได้เป็นดอลลาร์


  •  
  •  
  •  
  •  
  •