Piggipo บริหารจัดการบัตรเครดิตอย่างมืออาชีพ แห่งแรกในเอเชีย

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

B

ประเทศไทยมีจำนวนผู้ใช้บัครเครดิตกว่า 10 ล้านราย คุณเป็นหนึ่งในจำนวนนั้นหรือไม่ ถ้าใช่ คุณใช้บัตรเครดิตบ่อยแค่ไหน ใช้จ่ายอะไรบ้าง เติมน้ำมัน จ่ายค่าน้ำ-ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์-ค่าอินเทอร์เน็ต หรือว่าใช้ในการเดินทาง ช้อปปิ้ง กินดื่มเที่ยวด้วย ถ้าใช้บัตรเครดิตมากขนาดนี้ ต้องถามว่า คุณมีบัตรเครดิตกี่ใบในกระเป๋า

และคำถามสุดท้าย คุณมีการจัดการบัตรเครดิตดีแค่ไหน จำได้มั้ยว่าแต่ละใบใช้ไปแล้วกี่บาท เหลือวงเงินอีกเท่าไร ตัดรอบบิลและมีกำหนดชำระเงินวันไหน

ปัญหาของคนใช้บัตรเครดิตแทบทุกคน คือ ไม่รู้หรือจำไม่ได้ว่าใช้ไปมากน้อยแค่ไหนแล้ว อาจจะเก็บสลิปไว้แต่ก็ต้องมาคอยจดบันทึก จะดีกว่ามั้ย ถ้ามีเครื่องมือมาช่วยให้การจัดการบัตรเครดิตง่ายขึ้น

piggipo1

Piggipo จัดการบัตรเครดิตด้วยตัวเอง

นั่นคือจุดเริ่มต้นของ Piggipo อ่านว่า พิกกิโปะ มาจากคำว่า piggy bank แปลว่ากระปุกหมูออมสิน และ pocket แปลว่ากระเป๋าเงิน

จากคำบอกเล่าของ กั๊ก สุพิชญา สูรพันธุ์ หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Piggipo บอกว่า ไอเดียคือ อยากทำเครื่องมือขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือตัวเองจากการใช้บัตรเครดิตแล้ว มีเงินจ่ายไม่พอ ซึ่งพอลงมือทำการสำรวจพบว่า ใน 10 ล้านราย มี 4 ล้านรายที่มีปัญหาเดียวกันคือ เงินไม่พอจ่ายและต้องจ่ายดอกเบี้ย จากนั้นก็ต้องใช้บัตรเพิ่มอีกเพราะหมุนเงินไม่ทัน

พอมาศึกษาในตลาดเวลานั้น แอพพลิเคชั่นประเภท FinTech ที่ใกล้เคียงกันมีแต่เน้นรายรับรายจ่าย ดังนั้นจึงเริ่มต้นพัฒนา Piggipo เพื่อเป็น แอพที่มีความเชี่ยวชาญการจัดการบัตรเครดิตโดยเฉพาะ เป็นเหมือน Personal Finance แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่อยากให้แอพดูน่าเบื่อ (ปกติบริการทางการเงิน ต้องดูน่าเชื่อถือ นิ่งๆ Functional มากๆ) เลยปรึกษากับทีมงาน สรุปว่า ต้องมีคาร์แรกเตอร์ที่ดูน่ารัก เพื่อต่อยอดบริการในอนาคต และเชื่อว่า insight แล้วคนไทยชอบอะไรน่ารักๆ

ดังนั้นจึงกลายมาเป็น หมูน้อยสีเขียว Piggipo

piggipo

httpv://youtu.be/dwRknvyW-0o

ดูแลเรื่องบัตรเครดิตครบวงจร

กล่าวได้ว่า Piggipo เป็นเครื่องมือที่ช่วยจัดการบัตรเครดิตที่ครบวงจรที่สุดก็ว่าได้ เริ่มตั้งแต่สามารถกำหนดวงเงินบัตรเครดิตรวมทุกใบที่อยากใช้ในแต่ละเดือน หรือจะตั้งแยกบัตรด้วยก็ได้ ถ้าจำนวนเงินที่ใช้ผ่านบัตรเครดิตเพิ่มขึ้น จะมีการแสดงอารมณ์ผ่าน Piggipo หากยังไม่ถึง 50% จะยังยิ้มเป็นปกติ ถ้าเกิน 50% จะเริ่มร้องไห้ แต่ถ้าเกิน 80% หมูน้อยของเราจะร้องไห้ทันที พร้อมกับมีระบบแจ้งเตือนเป็นระยะ ป้องกันการใช้จ่ายเกินกว่าที่จะชำระเงินได้

จากนั้นจะมีการระบุและแจ้งเตือนวันครบกำหนดชำระเงิน ใส่รายละเอียดพร้อมคำนวณ Cash Back อัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาผ่อนชำระ ขอแค่เป็นคนที่ชอบบันทึกข้อมูลสักหน่อย เรียกว่าครบถ้วนเรื่องการจัดการบัตรเครดิต

นอกจากนี้ แอพยังสามารถสร้างบัตรเครดิตแบบ Virtual ขึ้นมา เพื่อใช้กำหนดค่าใช้จ่ายแต่ละโปรเจค เช่น การใช้บัตรเครดิตที่ต่างประเทศ การใช้บัตรเครดิตในทริปการเดินทาง เพื่อช่วยให้รู้ว่าในการเดินทางครั้งนี้ใช้บัตรเครดิตไปมากน้อยแค่ไหน รวมถึงสามารถสร้างแฮชแท็ก # เพื่อรวมยอดค่าใช้จ่ายประเภทเดียวกัน เช่น #กาแฟ พอครบเดือน เราะรู้ได้เลยว่าซื้อกาแฟไปเป็นเงินกี่บาท

จากนั้นเมื่อเห็นค่าใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตแต่ละเดือนแล้ว สามารถสร้างเป็น infographic จำแนกค่าใช้จ่ายในแต่ละรายการได้อีก เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำบัญชีรายรับรายจ่ายส่วนตัวอย่างยิ่ง

Screenshot_2015-10-18-10-22-07

เสนอบริการพิเศษ จัดโปรโมชั่นผ่านดึงดูดลูกค้า

Piggipo เป็นแอพประเภท FinTech ที่กำลังเป็นที่ต้องการมากในตลาดทั่วทั้งเอเชีย ปัจจุบันให้บริการในประเทศไทยมียอดผู้ใช้กว่า 120,000 ราย และกำลังเริ่มให้บริการในมาเลเซีย ถามว่าที่ผ่านมามีรายได้จากการให้บริการเข้ามาหรือยัง?

กั๊ก บอกว่า ยังไม่มีรายได้จากบริการ Piggipo เน้นสร้างยอดผู้ใช้บริการให้ได้จำนวนมาก ที่ผ่านมาได้รับเงินทุนจากการโครงการ Dtac AccelerateBatch2 และการเข้ามาถือหุ้นบางส่วนของนักลงทุน ถือเป็นการ Seeding ในรอบแรกๆ แต่จากนี้ไป Piggipo กำลังจะเริ่มสร้างรายได้เป็นครั้งแรก

โดยโมเดลสร้างรายได้ของ Piggipo จะมีบริการพิเศษ โดยร่วมมือกับธนาคาร เมื่อมีการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตระบบจะ Sync ข้อมูลเข้ามาที่แอพโดยตรง จากนั้นผู้ใช้ก็แค่เข้ามา Approve เท่านั้นเป็นอันเสร็จกระบวนการ สะดวกสบายขึ้น แต่มีค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ รายเดือนเพิ่มเข้ามา ซึ่งหากไม่อยากเสียค่าบริการก็สามารถเลือกใช้วิธีบันทึกด้วยตัวเองได้ตามปกติเหมือนเดิม

“ไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัย เพราะ Piggipo ไม่มีการเชื่อมโยงอะไรกับบัตรเครดิตเลย มีเพียงการแจ้งยอดว่าใช้จ่ายผ่านบัตรไปเท่าไร เปรียบเทียบแล้วเหมือนการจดบันทึก แต่เปลี่ยนจากกระดาษเป็นแอพพลิเคชั่นเท่านั้น”

อีกส่วนหนึ่งคือ การร่วมมือกับธนาคารเจ้าของบัตร แนะนำบริการทางการเงินให้กับผู้ใช้บัตร เช่น การวิเคราะห์จากข้อมูลการใช้และนำเสนอโปรโมชั่นพิเศษ หรือ เสนอบัตรที่ช่วยประหยัดให้มากกว่า มี Cash Back มากกว่า ผ่อน 0% ได้ เรียกว่า นำเสนอสิ่งที่ดีกว่าให้กับผู้ใช้

“เราเป็นแค่ Startup ทำธุรกิจเล็กๆ ที่ไม่ได้โกงใคร ไม่ได้ทำร้ายใคร แต่ต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น ทำให้ชีวิตคนดีขึ้น นั่นคือสิ่งที่เราอยากทำ”

BDOO2349

บุกมาเลเซีย โอกาสเปิดประตูสู่เอเชีย

จากความเชื่อที่ว่า ปัญหาการจัดการบัตรเครดิต ไม่ใช่แค่ปัญหาของคนไทย แต่เป็นปัญหาของคนทั้งโลก จึงมีโอกาสได้ไปร่วมงาน Startup Bootcamp FinTech ที่สิงคโปร์ เป็นการเริ่มต้นเรียนรู้ถึงสิ่งที่อยู่ไกลออกไปจากตัวเองคิด แต่ด้วยเงื่อนไขบางประการการเจรจาที่สิงคโปร์จึงไม่บรรลุผล แต่ได้เจอกับ Maybank ธนาคารชั้นนำของประเทศมาเลเซียที่สนใจในบริการจัดการบัตรเครดิตและชวนไปงาน Bootcamp FinTech ของมาเลเซีย

ที่มาเลเซีย มีการคัดเลือก 20 ทีม Startup FinTech จากทั้งภูมิภาคนี้ไปร่วมเก็บตัวและสุดท้ายคัดเลือกเหลือ 5 ทีมสุดท้ายที่จะได้เซ็น MOU ร่วมงานกับ Maybank และ Piggipo เป็นหนึ่งในนั้น ทำให้มีโอกาสในการเริ่มต้นให้บริการในมาเลเซีย โดย Maybank จะทำตลาดให้ เริ่มต้น ธ.ค. นี้

บทเรียนคือ ต้องเรียนรู้เรื่องภาษา ทำให้รู้ว่า มาเลเซีย ใช้ หมู ไม่ได้ และใช้ว่าคำว่า Pig ไม่ได้ จึงต้องเปลี่ยนดีไซน์ใหม่เป็น Kittypo โดยเป็นแมวแทน และในอนาคต ทั้งแมวและหมู จะเปิดให้ผู้ใช้เลือกได้ (ในไทย) นอกจากนี้ต้องเรียนรู้เรื่องดอกเบี้ย และกฎระเบียบทางการเงิน เพื่อมาปรับให้แอพ สอดคล้องกับระบบของมาเลเซีย

“ข้อดีของการเป็นพันธมิตรคือ Maybank จะดูแลการทำตลาดที่มาเลเซียให้อย่างเต็มที่ตลอด 1 ปี ทำให้เราสามารถทุ่มเทและโฟกัสกับการทำตลาดที่ประเทศไทยได้เต็มที่ เพราะรู้ว่าจะให้บริการเกิดขึ้นได้ ต้องเน้นไปทีละตลาด”

สุดท้ายแล้ว Piggipo ถือเป็น Startup FinTech อีกรายหนึ่งของไทย ที่น่าจับตามองและเป็นต้นแบบให้กับ Startup อีกหลายๆ ราย กั๊กและทีมงาน ฝากบอกว่า กว่าจะฝ่าฟันมาถึงจุดนี้ได้ ผ่านอุปสรรคมาเยอะ หนทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ หลายครั้งเคยท้อ เพราะปัญหาเรื่องการบริหารงาน เรื่องบุคลากร เรื่องเจรจาธุรกิจ แต่ไม่เคยยอมแพ้ เพราะเป้าหมายคือ ต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น ทำให้ชีวิตคนดีขึ้น

22Sep2015DPK-065

Copyright © MarketingOops.com


  •  
  •  
  •  
  •  
  •