“พอล กรุ๊ป ดีไซน์” ผู้นำด้านการออกแบบครบวงจร ตั้งเป้ายกระดับโรงพยาบาลและ Wellness Center ดันไทยสู่ Medical Hub อันดับ 1 ในเอเชีย

  • 7
  •  
  •  
  •  
  •  

[ข่าวประชาสัมพันธ์]

 

หลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19  ผู้คนต่างหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องของสุขภาพมากขึ้น ส่งผลให้อุตสาหกรรม  healthcare  กลายเป็นโอกาสที่มาแรงอย่างมากในยุคปัจจุบัน ผนวกกับ‘Aging Society’ หรือ สังคมผู้สูงอายุที่กำลังเติบโตขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก หนึ่งในนั้นคือประเทศไทยที่เข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์เป็นที่เรียบร้อย

เพื่อพลิกวิกฤตเป็นโอกาส รัฐบาลเล็งเห็นความพร้อมด้านอุตสาหกรรมทางการแพทย์ที่ครบวงจร ด้านคุณภาพ และมาตรฐานการรักษาที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล จึงเดินหน้าส่งเสริมนโยบายการพัฒนาประเทศไทย ให้เป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ของภูมิภาค (Medical Hub)  เพื่อยกระดับประเทศไทยสู่การเป็น “เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพโลก”

เมื่อทุกภาคส่วนต้องปรับตัวให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลง บริษัท พอล กรุ๊ป ดีไซน์ จำกัด (PGD) สำนักออกแบบครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย ผู้นำด้านการออกแบบโรงพยาบาลและสถานประกอบการทางการแพทย์ นำโดย ดร.คงศักดิ์ ยุกตะเสวี Executive Chairman, คุณสุธรรม ศิริทิพย์สาคร Executive Vice-Chairman และคุณอัครพล เอื้ออารักษ์ กรรมการผู้จัดการ  3 ผู้บริหารแห่ง ‘PGD’ จึงตั้งเป้ายกระดับวงการออกแบบธุรกิจโรงพยาบาล, Wellness center และ Senior Living ไทยสู่ระดับโลก ตอบโจทย์เทรนด์ Healthcare Business  พร้อมผลักดันประเทศไทยสู่ Medical Hub อันดับ 1 ในเอเชีย

 

คุณอัครพล เอื้ออารักษ์ กรรมการผู้จัดการ PGD

 

คุณอัครพล เอื้ออารักษ์ กรรมการผู้จัดการ PGD กล่าวว่า บริษัท พอล กรุ๊ป ดีไซน์ ดำเนินกิจการมาตั้งแต่ปี 2552  นับเป็นเวลา 14 ปี ในการเป็น Design Firm ที่ออกแบบงานสถาปัตย์และงานตกแต่งภายใน เติบโตมาพร้อมกับวงการ healthcare ในบ้านเรา มีฐานลูกค้าหลักคือโรงพยาบาลจนถึงทุกวันนี้เป็นที่รู้จักด้านงานออกแบบโรงพยาบาลและ  Healthcare Business

“ยอมรับว่าตอนแรกเราไม่ได้โฟกัสเรื่องโรงพยาบาลขนาดนี้ จริงๆเรารับงานทุกอย่าง บ้าน โรงแรม เรสซิเดนท์ เพนท์เฮาส์  ร้านค้า แต่พอลูกค้าเยอะขึ้นเราเริ่มเห็นแล้วว่ากลุ่มของ Healthcareมีการเติบโตมาก ผนวกกับลูกค้าไว้วางใจเรา เราจึงเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ที่เน้นเรื่องการออกแบบโรงพยาบาลให้เก่งและเชี่ยวชาญไปเลย มันคือ On the job training ทำเยอะๆประสบการณ์มากขึ้นจนรู้สึกว่าการทำ Healthcare น่าสนใจและน่าสนุก ตอนนี้ก็ต้องบอกว่าเราเป็นบริษัทออกแบบที่ทำโครงการโรงพยาบาลเยอะมากในแต่ละปี”

 

 

PGD ชูจุดแข็ง ผู้นำด้านการออกแบบครบวงจร

PGD เป็นบริษัทออกแบบครบวงจรแห่งแรก ที่รวบรวมทีมผู้เชี่ยวชาญชำนาญการ ที่มีประสบการณ์ด้านการออกแบบโครงการโรงพยาบาลและสถานประกอบการทางการแพทย์จากหลากหลายสาขา รวมถึงทีมให้คำปรึกษาด้านการบริหารจัดการ ควบคุมดูแลโครงการโรงพยาบาล และสถานประกอบการทางการแพทย์ เพื่อรองรับทุกความต้องการของนักลงทุน

“ในวงการออกแบบโรงพยาบาลมีไม่กี่รายที่มีทีมแพทย์อยู่ในบริษัทออกแบบ โดย PGD เรามีทีมแพทย์นำโดย นายแพทย์ชาตรี ดวงเนตร อดีตกรรมการและผู้บริหารระดับสูง บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) นั่นแปลว่าเราสามารถให้ความรู้แก่ลูกค้าที่มาว่าจ้างเราว่าควรทำอย่างไรที่ถูกต้องตามหลักทางการแพทย์ กระบวนการทำงานอย่างไรที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์ และเหนือสิ่งอื่นใดความปลอดภัยของคนไข้หรือผู้มาใช้บริการ คือสิ่งสำคัญที่สุด”

สำหรับประเทศไทยมีจำนวนสถานพยาบาลที่ได้รับมาตรฐาน JCI (Joint Commission International) ซึ่งเป็นการรับรองคุณภาพสถานพยาบาลจากสหรัฐอเมริกาที่คนไข้ต่างชาติสามารถมั่นใจในคุณภาพ เลือกเข้ามาใช้บริการได้กว่า 60 แห่ง มากที่สุดในภูมิภาคเอเชีย และเป็นอันดับ 4 ของโลก กระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวและจังหวัดที่ติดชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน

“PGD เราชำนาญเรื่องมาตรฐาน JCI การที่ออกแบบแล้วผ่านการรับรองมาตรฐาน JCI ไม่ง่ายเลย ต้องมีประสบการณ์โดยในทีมของ PGD เรามี JCI Surveyors หรือคนที่ตรวจสอบมาตรฐาน JCI นั่นแปลว่าถ้าเราออกแบบแล้วไปยื่นขอใบรับรอง JCI ก็จะผ่านได้ ซึ่งมีไม่กี่รายที่เข้าใจมาตรฐาน JCIเชิงลึก อันนี้เป็นข้อดีและจุดเด่นของเรา”

จุดแข็งสำคัญอีกข้อที่ทำให้ PGD ขึ้นแท่นผู้นำด้านการออกแบบโรงพยาบาลและสถานประกอบการทางการแพทย์ คือการใช้กลยุทธ์  One Stop Service ให้คำปรึกษาด้านการบริหารจัดการ ควบคุมดูแลการออกแบบโรงพยาบาล และสถานประกอบการทางการแพทย์ ครอบคลุมครบทุกด้าน

“เรามีนักลงทุนหลายท่านที่เดินมาตัวเปล่า พร้อมกับโฉนดใบเดียว ไม่ได้มีความรู้ด้านการออกแบบ หรือมาตรฐานทางการแพทย์เลย แต่ PGD สามารถแนะนำได้ครบวงจร เช่น ควรจะมีห้องตรวจกี่ห้อง ห้องพักกี่ห้อง การส่งต่อผู้ป่วยตั้งแต่ Drop Off จนกระทั่งคนไข้เข้าไปอยู่ในอาคารควรจะเป็นอย่างไร สุดท้ายเขาแค่คำนวณว่าทั้งหมดที่เราออกแบบให้เป็นเงินลงทุนเท่าไหร่ และไปคำนวณความเป็นไปได้ของโครงการอีกครั้ง ฉะนั้น PGD เรายินดีต้อนรับขอเพียงแค่ไอเดียและความต้องการที่อยากขยายธุรกิจของลูกค้า” กรรมการผู้จัดการ PGD เผย

 

ดันไทยสู่ Medical Hub อันดับ 1 ในเอเชีย

กรรมการผู้จัดการ PGD อธิบายต่อว่า เดิมทีโฟกัสแรกของ PGD คือลูกค้าโรงพยาบาล แต่ด้วยกระแส Healthcare, Medical Hub, Medical Tourism ที่เติบโตขึ้นมาก ทำให้มีธุรกิจ Wellness ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Medical เข้ามา เป็นที่มาของการสร้างทีม Wellness ขึ้น โดยนำความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบโรงพยาบาลมาต่อยอดเพื่อออกแบบให้บริการผู้ประกอบธุรกิจ Wellness เพื่อสร้างการเติบโตไปพร้อมกับกระแส Healthcare Business

 

 

“หากดูที่ตัวเลข ตอนนี้มูลค่า medical tourism ในปี 2566 ของไทยเราอยู่ที่ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และอีก 4 ปี คือปี 2570 จะขึ้นเป็น 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเหตุผลที่เขาอยากมาบ้านเรา เพราะค่าแพทย์เราถูกกว่าเมืองนอก 50-90% มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวก ประชาชนเป็นมิตร ใช้ชีวิตในเมืองไทยง่าย แพทย์ไทยเก่งและมีชื่อเสียงในหลากหลายสาขา”

“ถามว่าต่างชาติเข้ามาทำอะไรที่บ้านเรา 1.เสริมความงาม 2.ทันตกรรม 3.ศูนย์มีบุตรยาก ทั้ง 3 อย่างนี้เป็นตัวผลักดันเรื่องของ medical tourism ให้เข้ามา คือมาเที่ยวและมาดูแลรักษา บวกกับเทรนด์ของโลกที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ก็มีอยู่สองอย่างคือ ไม่อยากแก่ ยังอยากสวย กับ มีโรคประจำตัว 2 อย่างนี้คือสิ่งที่ทำให้เกิดสถานประกอบการต่างๆ ทั้งโรงพยาบาล, Wellness Center, Rehabilitation Center, Anti-aging Center ทาง PGD มีความชำนาญด้านการออกแบบโรงพยาบาลอยู่แล้ว เมื่อตลาดกว้างขึ้น จึงใช้ความรู้เดิมที่มีพัฒนาทีม wellness ขึ้นมาเพื่อรองรับลูกค้ากลุ่มนี้”

 

 

อย่างไรก็ตาม PGD ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนา และยกระดับมาตรฐานใหม่ให้กับวงการออกแบบโรงพยาบาล สถานบริการทางการแพทย์ และ Wellness Center  ให้เทียบเท่าระดับนานาชาติ เพื่อสอดรับกับนโยบายของภาครัฐที่จะผลักดัน ประเทศไทย สู่การเป็น Medical Hub อันดับหนึ่งในเอเชีย 

[ข่าวประชาสัมพันธ์]


  • 7
  •  
  •  
  •  
  •  
CLOSE
CLOSE