นาทีนี้ไม่มีแพล็ตฟอร์มไหนร้อนแรงไปกว่า Clubhouse อีกแล้ว ซึ่งเราได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจ มาประกอบสำหรับคนที่อาจจะเล่นแล้วหรือกำลังจะเล่น หรือกำลังรอให้สามารถใช้งานกับ Android ได้เสียที โดยเป็น 11 เรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับโซเชียลมีเดีย ที่เขาว่ากันว่าอาจจะมาฆ่า podcast ก็เป็นได้
1.ก่อตั้งเมื่อปี 2020 โดย Paul Davison และ Rohan Seth
Clubhouse ก่อตั้งโดย 2 หนุ่ม Paul Davison และ Rohan Seth ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท เงินทุนในสหรัฐฯ Andreessen Horowitz ก่อนที่ทางผู้ร่วมก่อตั้ง Paul Davison จะสร้างและขาย Highlight แอปโซเชียลที่อนุญาตให้ผู้ใช้แบ่งปันข้อมูลการติดต่อกับผู้คนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อสร้างสังคมคิดบวกให้เชื่อมโยงกัน โดย Davison ขาย Highlight บน Pinterest เมื่อปี 2016 จากนั้นก็ได้มาพบกับ Rohan Seth อดีตวิศวกร Google เมื่อเดือนเมษายน ปี 2020 และเกิดไอเดียร่วมกันที่จะสร้างแอปโซเชียลที่ใช้แค่เสียงเพื่อสร้างคอมมูนิตี้ขึ้น และนั่นก็ทำให้ Clubhouse ถือกำเนิดขึ้นมา
2.เริ่มต้นแค่ 100 ดอลลาร์ แต่ฟันด์ดิ้ง Series A ได้ถึง 12 ล้านดอลลาร์
ทั้งๆ ที่ Clubhouse ไม่ได้เปิดตัวต่อสื่ออย่างจริงจัง และก็ยังไม่มีเว็บเทคไหนๆ ที่เขียนถึงเลย แต่ในเดือนถัดมาหลังก่อตั้ง ได้แก่ เดือนพฤษภาคม 2020 Clubhouse มีมูลค่า 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ แล้ว และจากนั้นในรอบแรกของการระดมทุน Series A ก็สามารถระดมทุนได้ถึง 12 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
3.บริษัทที่ลงทุนรายแรก ได้แก่ Andreessen Horowitz บริษัท VC สัญชาติสหรัฐฯ
อย่างที่บอกว่า แค่เดือนแรกที่เปิดตัว Clubhouse มีมูลค่า 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ แล้ว และจากนั้นระดมทุน Series A ก็สามารถระดมทุนได้ถึง 12 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งบริษัทแรกที่ลงเงินได้แก่ Andreessen Horowitz บริษัทเงินทุนในสหรัฐฯ ซึ่งในช่วงนั้น แอปฯ ยังทำการทดสอบกับผู้ใช้งานจริง (beta taste) เพียงแค่ 5 พันครั้งเท่านั้น โดยข้อตกลงนี้รวมถึงเงิน 10 ล้านในการลงทุนหลัก และอย่างน้อย 2 ล้านในหุ้นรอง (ข้อมูลจาก CNBC)
4.เริ่มต้นจากพนักงานแค่ 9 คน
นอกเหนือจากผู้ก่อตั้ง 2 คนนั้นแล้ว ความเป็นสตาร์ทอัปก็ทำให้ บริษัทแห่งนี้จึงมีพนักงานเริ่มต้น แค่ 9 คนเท่านั้น ทั้งๆ ที่บริษัทสามารถระดมทุนได้เป็นพันล้าน แต่ตอนนี้ก็เปิดรับทีมงานเพิ่มอีกหลายตำแหน่งทีเดียว ใครอยากร่วมงานลองคลิกไปดู Hiring
5.Active User สูงถึง 2 ล้านคนต่อสัปดาห์
จากความนิยมที่เกิดขึ้นพบว่า Clubhouse มีผู้ใช้งานประมาณ 2 ล้านสัปดาห์คนต่อสัปดาห์ ซึ่งนับว่าเป็นแอปฯ มาใหม่ที่มีความนิยมแรงมาก เพราะใช้เวลาไม่นานก็มีผู้คนมาใช้แตะหลักล้านแล้ว
6.ค่าเฉลี่ยของคนใช้งานอยู่ที่ประมาณ 11-12 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
ว่ากันว่า Clubhouse เป็นแอปฯ ดูดเวลา ซึ่งสถิติในต่างประเทศระบุว่า มีผู้หญิงรายหนึ่ง ใช้เวลามากกว่า 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในแอปฯ นี้ (รายงานโดยนิวยอร์กไทมส์) ในขณะที่มีผู้ใช้งานรายอื่นๆ ทวีตบอกว่าใช้เวลาประมาณ 11-12 ชั่วโมงต่อวัน แม้แต่ผู้ก่อตั้ง Paul Davison ซีอีโอ Clubhouse ก็ยังไปเข้าร่วมห้องต่างๆ เพื่อขอความเห็นในการพัฒนาและปรับปรุงฟีเจอร์ของ Clubhouse
7.อินฟลูอินเซอร์คนแรกของ Clubhouse ได้แก่ Sheel Mohnot นักลงทุนวงการสตาร์ทอัปและฟินเทค
Sheel Mohnot นักลงทุนในวงการสตาร์ทอัปและฟินเทค และเป็นผู้ก่อตั้ง Better Tomorrow Ventures โดยนับได้ว่า Mohnot เป็นอินฟลูเอนเซอร์คนแรกของคลับเฮ้าส์ และยังเข้าร่วมในห้อง “Back of the Bus” บ่อยๆ อีกด้วย ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นห้องปาร์ตี้มันที่ได้รับความนิยม นอกจากนี้ Mohnot ยังได้ร่วมเป็นผู้เข้าแข่งขันใน Zoom Bachelorette ซึ่งเป็นกิจกรรมหาคู่ออนไลน์ ที่แฟนๆ ที่เป็น host ของห้องจะจัดปาร์ตี้สนทนาสดเกี่ยวกับเรื่องนี้ใน Clubhouse กัน นอกจากนี้ จัดได้ว่า Mohnot เป็นคนดังในแวดวงบันเทิงด้วย โดยเขาเคยสนทนากับ Scooter Braun บน Clubhouse จนได้มีโอกาสร่วมงานในมิวสิควิดีโอของ Justin Bieber และ Ariana Grande (รายงานโดยนิวยอร์กไทมส์)
8.Clubhouse ก็สามารถจัดปาร์ตี้ได้ ห้องที่ริเริ่ม ได้แก่ “Back of the Bus”
ทุกๆ คืนเวลาประมาณ 4 ทุ่ม จะมีกลุ่มคนประมาณ 30-50 คนมารวมตัวกันในห้อง “Back of the Bus” ซึ่งมี Ryan Dawidjan ผู้บริหารบริษัทเทคคอมพานี วัย 28 ปี โดยที่บทบาทของเขาจะทำหน้าที่ในการคอยดูว่า ไม่ให้คนไหนพูดคุยเกี่ยวกับเทคโนโลยีหรือธุรกิจในห้อง Clubhouse แห่งนี้ ที่พิเศษกว่านั้นคือ แทบจะทุกคนจะสามารถทำหน้าที่ host และเป็น moderator ได้ โดยที่ไมค์ของทุกคนจะได้รับการเปิดหมด เพื่อสร้างบรรยากาศให้รู้สึกเหมือนเป็นห้องปาร์ตี้ โดยหัวข้อสนทนาส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องทั่วไปหรือแม้กระทั่งคำแนะนำในการออกเดท ทำนายดวง ไปจนถึงการวิจารณ์เองการทำบัญชี เรียกว่าเป็นปาร์ตี้สนุกๆ ที่เกิดขึ้นในห้องท้ายรถบัส
9.Clubhouse ดึงดูดกลุ่มคนดังและผู้นำทางความคิด
Clubhouse ใช้เวลาเพียงไม่นาน ก็ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ซึ่งเชื่อว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะเหล่าคนดังใช้แอปฯ นี้กันเยอะ ซึ่งถ้าไม่นับ “Elon Musk” ก็ยังมีอีกหลายคน เช่น Oprah Winfrey, Drake, Jared Leto, Tiffany Haddish, Joe Budden, Kevin Hart, 21 Savage, Ashton Kutcher, Kanye West เป็นต้น
10.เร็วๆ นี้อาจได้เห็นการทำ Influencer Marketing
ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2020 ที่ผ่านมา Clubhouse กําลังทดสอบโปรแกรมนําร่อง กับกลุ่ม Influencer มากกว่า 40 คนในแอปฯ ซึ่งหลายคนตั้งข้อสังเกตว่าเป็นไปได้ว่าเร็วๆ นี้อาจจะได้เห็นการทำการตลาดในแบบ Influencer Marketing ผ่านแอปฯ แห่งนี้
11.เตรียมการทดสอบระบบ Payment สำหรับ Creators
เมื่อเร็วๆ นี้ทาง Clubhouse ได้นำเงินที่ได้จากการระดมทุน ไปใช้ในการทดสอบระบบการจ่ายเงินให้กับครีเอเตอร์บนแพล็ตฟอร์มโดยตรงผ่านฟีเจอร์อย่าง tipping หรือ Subscriptions นอกจากนี้ เขายังใช้เงินส่วนหนึ่งจากการระดมทุนเพื่อกองทุนในโครงการ Creator Grant เพื่อให้การสนับสนุนกลุ่มครีเอเตอร์ใน Clubhouse
Source: Influencermarketinghub.com