ถ้าใครติดตามการเปลี่ยนแปลง Social Media ในช่วงนี้ไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือ Instagram นั้นจะพบการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญนั้นคือการที่ Facebook มีการสร้าง Group ของแบรนด์เกิดขึ้น และ Instagram มีการให้ผู้ใช้นั้นติดตาม Hashtag ที่ตัวเองนั้นสนใจได้ การเกิดขึ้นเหล่านี้เรียกได้ว่าเป็นการเกิดขึ้นของ Niche Community หน่อย ๆ หรือการที่ให้คนไปติดตามความสนใจเดียวกันได้ หรือเข้าไปอยู่กลุ่มความสนใจเดียวกันได้นั้นเอง ซึ่งจะมีผลต่อไปต่อคนที่ทำการตลาดผ่าน Social Media อย่างแน่นอน
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจในส่วนของ Facebook นั้นคือการเกิดขึ้นของ Group ต่าง ๆ ซึ่งกลายเป็น Community ของคนที่มีความสนใจเดียวกันขึ้นมา ข้อดีของการเกิด Group นี้การเกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของคนที่มีความสนใจเดียวกัน และสามารถทำให้เกิดปฏิสัมพันธ์ขึ้น ซึ่งจุดมุ่งหมายของ Facebook คือการดึงความสนใจให้คนอยู่ใน Facebook ให้นานที่สุดและทำกิจกรรมต่าง ๆ ผ่าน Facebook ทำให้การเกิดขึ้นของ Community อย่าง Group นี้ตอบโจทย์ของ Facebook อย่างทันที อย่างในประเทศไทยเองเราจะเห็นได้ว่า Group เหล่านี้มีความเคลื่อนไหวมากมาย และเกิดบทสนทนา และกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะซื้อขายและแลกเปลี่ยนกันในนั้นขึ้นมา สิ่งเหล่านี้ทำให้คนที่อยู่ไกลกัน แต่มีความสนใจมารวมตัวกันได้อย่างไม่ยากนัก และก่อให้เกิดพลังของกลุ่มที่มีความสนใจเหล่านี้ขึ้นมา โดยไม่ต้องมานั่งสร้างเครื่องมือกลุ่ม หรือตามหาคนที่มีความสนใจเดียวกันเอง
ส่วนใน Instagram นั้นเพิ่งมีฟีเจอร์ที่ให้คนนั้นติดตาม Hashtag ที่สนใจได้ขึ้นมา ซึ่งนี้ทำให้เกิดการเชื่อมต่อของกลุ่มคนที่มีความสนใจ หรือใช้ Keyword เดียวกันให้มารวมกลุ่มกันขึ้นมาได้ โดยตอนแรกนั้นจุดประสงค์การใช้ Hashtag ใน Instagram นั้นไม่ต่างจาก Twitter มากนักคือการทำให้โพสของคนที่โพสขึ้นไปสามารถค้นเจอได้ง่าย และ หาเนื้อหาที่สนใจเพื่อเข้าไปปฏิสัมพันธ์ได้ขึ้นมา แต่การที่ทำให้สามารถติดตาม Hashtag ได้ขึ้นมานั้น จะทำให้คนสามารถติดตามเรื่องราวที่ตัวเองสนใจได้นานขึ้น และสามารถพัฒนาการสร้างเนื้อหาตัวเองจากการติดตาม Hashtag เหล่านั้นขึ้นมา ในส่วนของ Users เองข้อดีคือการที่จะต้องไปติดตามคนที่มีความสนใจแบบเดียวกันเอง โดยการตามหาและกดติดตามแต่ละคน ก็สามารถติดตามเรื่องที่ตัวเองสนใจได้ในทีเดียวโดยไม่ต้องสนใจว่าจะเป็นใครนั้นเอง
ทั้งนี้ Niche Community ที่เกิดขึ้นมานั้นจะส่งผลต่อการทำการตลาดใน Social Media อย่างแน่นอน เพราะด้วยการทำการตลาดผ่าน Social Media ในปัจจุบันนั้นพึ่งพา Facebook เป็นเครื่องมือหลักอย่างมากและผลกระทบที่เป็นไปได้จากการเกิด Niche Community นี้จะมีประเด็นดังนี้
1. ตัวเลขคนติดตามอาจจะลดลงไป เนื่องจากการที่เกิด Community ความสนใจย่อยต่าง ๆ ขึ้นมา หรือการติดตาม Hashtag ได้ ทำให้ผู้ใช้งานหรือกลุ่มเป้าหมายไม่มีความจำเป็นต้องมาติดตามแบรนด์อีกต่อไป แต่ติดตามตามกลุ่มความสนใจและเรื่องที่สนใจได้แทน ทำให้ตัวเลขผู้ติดตามหรือการกด Like เพจต่าง ๆ นั้นลดลงอย่างแน่นอน และไปเกิดปฏิสัมพันธ์เพิ่มขึ้นตามกลุ่มต่าง ๆ แทน
2. ใน Instagram นั้น Hashtag จะเป็นตัวเปลี่ยนเกม ใน Instagram นั้นไม่มีวันเลยที่คนจะมาเจอคุณได้ถ้าคุณไม่ได้ทำโฆษณา หรือสร้าง Hashtag ที่ตรงกับกลุ่มความสนใจใน Instagram ขึ้นมา ด้วย Hashtag นี้ทำให้คนมาเจอคุณ และถ้า Account คุณทรงคุณค่าต่อกลุ่มเป้าหมายจริง ๆ ก็จะเกิดการเข้าไปติดตามคุณต่อได้อีกขึ้นมา ซึ่งแบรนด์ต้องเริ่มคิดถึงการใช้ Hashtag ที่เหล่า users ใช้ขึ้นมา และเลิกการใช้งาน hashtag ที่ไม่เกิดประโยชน์ทิ้งไป
3. การเข้าไปอยู่ในแต่ละ Group นั้นจะทวีความสำคัญ อย่าลืมว่าในยุคนี้กิจกรรมต่าง ๆ ถูกผลักดันโดนกลุ่มต่าง ๆ มากมายและกลุ่มต่าง ๆ นี้ต่างมีความหลงใหล่หรือมีความชอบในเรื่องเดียวกันอย่างมาก ซึ่งทำให้การเข้าไปอยู่ในกลุ่มเหล่านี้และเชื่อมต่อให้ถูกทางจะทำให้เกิดพลังที่เป็นผลดีต่อแบรนด์ขึ้นมาได้อย่างทันที ในการสร้างแรงกระเพื่อมทางการตลาดขึ้นมา สิ่งหนึ่งที่แบรนด์ควรทำนอกจากการเข้าไปอยู่ในกลุ่มต่าง ๆ แล้วก็คือการสร้างกลุ่มของตัวเองขึ้นมาเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนที่ใช้แบรนด์ต่อไป
4. Content ที่จะกลายเป็นเบี้ยหัวแตก สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นคือ คนจะไม่เข้ามาที่หน้าเพจอีกต่อไป แต่จะติดตามจาก Relevant Content หรือ Interest ของตัวเองขึ้นมา สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นคือ แบรนด์จะต้องเริ่มคิดการสร้างเนื้อหาที่จะจับกลุ่ม niche community เหล่านี้อย่างไรดีขึ้นมา หรือทำให้เนื้อหาเหล่านี้ถูกใจใน Niche Community เพื่อให้กลุ่มเหล่านี้เอาไปแชร์ต่อ (หรือจะใช้วิธีการข้อสาม คือแบรนด์เอาเข้าไปแชร์เองในกลุ่ม Community นั้น ๆ)
ทั้งนี้แบรนด์และนักการตลาดต้องเริ่มเลิกคิดถึงตัวเลขคนติดตามหรือตัวเลขยอด Likes ต่าง ๆ แล้ว เพราะในยุคหน้าจะไม่มีใครมาอยู่ในที่หน้าของแบรนด์อีกต่อไป แต่จะรวมกลุ่มกันพูดคุยกันแทนซึ่งแบรนด์ต้องหาบทบาทและหน้าที่ตัวเองให้ได้ว่า จะทำตัวอย่างไรในกลุ่มเหล่านี้
Related posts:
Digital Surveillance ก้าวต่อไปของ Digital Marketing
Blockchain นวัตกรรมเทคโนโลยีที่จะมาเปลี่ยนโลกอีกครั้ง
การตลาดยุคนี้ Key message เดียวทั้ง Traditional และ Digital ยังไม่พอ แต่ต้อง Convergence
Planner ยุคนี้คือ Planner ที่ไม่ยึดแผน แต่แผนนั้นอยู่ที่ใจ
Focus ให้ปัง ทำทุกอย่างไปได้ไกลในการตลาด
Planner ตำแหน่งที่มีความสำคัญอย่างมากในการวางแผนทางการตลาด
