คำถามที่ร้านค้าปลีกต้องคิดเมื่อ Augmented Reality พลิกเกมธุรกิจ

  • 50
  •  
  •  
  •  
  •  

Augmented Reality (AR) เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่มีบทบาทในอนาคต โดยเฉพาะในการทำธุรกิจ เราคงเคยสัมผัสเทคโนโลยี AR มาบ้างแล้วในปี 2016 ผ่านเกม Pokemon Go ซึ่ง AR จะช่วยให้เราเห็นภาพหรือวัตถุที่ทำขึ้นมาจากคอมพิวเตอร์ในโลกแห่ความเป็นจริง

คำถามคือหลังจากปี 2016 นั้น ธุรกิจโดยเฉพาะร้านค้าปลีกจะได้ประโยชน์อะไรบ้างจาก AR ? ลูกค้าอาจจะได้รับประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ดีขึ้น หรือทดลองใช้สินค้าโดยที่ธุรกิจไม่ต้องแบกต้นทุนสำหรับสินค้าตัวอย่างให้ทดลองใช้ สินค้าเกี่ยวกับ Cosmetic เป็นตัวอย่างชัดเจน ลูกค้าสามารถทดลองแต่งหน้าด้วยแอปฯของสินค้าของธุรกิจได้

ฟังดู AR จะช่วยให้ธุรกิจของเราทำยอดขายมากขึ้น ทำแบรนด์ดิ้งดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ธุรกิจค้าปลีกที่คิดจะเอา AR มาใช่ควรจะตอบคำถามต่อไปนี้ให้ได้ก่อน

1. ลูกค้าอยากได้สินค้าที่มี AR รองรับ หรือลูกค้าแค่อยากได้ของลดราคา?

สินค้าของเรานั้น ลูกค้าตั้งหน้าตั้งตารอซื้ออย่างใจจดใจจ่อ เป็นพวก Early Adoptor ในด้นเทคโนโลยี สินค้าที่มี AR ติดมาก็จะมีคุณค่ามากพอที่ทำให้ลูกค้าพวกนี้เสียเงินเพิ่มก็ได้

ยกตัวอย่างเช่น IKEA เรารู้ว่า IKEA ขายเฟอร์นิเจอร์ ความยากลำบากของลูกค้าก็คือว่า ลูกค้าจินตนาการไม่ออก ว่าถ้าซื้อเฟอร์นิเจอร์ตัวไหนไปแล้ว จะเข้ากับเฟอร์นิเจอร์ตัวอื่นๆหรือในห้องของตัวเองที่บ้านได้หรือไม่?

ตรงนี้แหละที่ AR จะเข้ามามีบทบาทช่วยลูกค้า แทนที่ลูกค้าหรือพนักงานบริษัทจะเอาเฟอร์นิเจอร์ไปทดลองวางที่บ้าน ยุ่งยากและสินค้าแต่ละตัวก็ไม่ใช่เบาๆ IKEA สามารถใช้ AR จำลองห้องและเฟอร์นิเจอร์ที่บ้านเราได้ และลองเอารูปเฟอร์นิเจอร์ที่ขายอยู่ไปทดลองวางไว้ใน AR แทน ตรงนี้ AR ของ IKEA ถึงแม้จะไม่ได้ขึ้นราคา แต่ก็ลดต้นทุนให้ทั้งฝ่ายลูกค้าและบริษัท

source: digiday

2. คุณค่าของ AR หยุดอยู่ที่ลูกค้าแค่นั้นหรือไม่?

ลองมองในแง่อื่นที่ไม่ใช่การตลาดดูบ้าง ยกตัวอย่างเช่น เราสามารถเอา AR มาใช้ในการทำเทรนนิ่ง จำลองสถานการณ์จริงให้พนักงานฝึกฝนได้หรือไม่? เพื่อให้พนักงานคุ้นเคยกับสถานการณ์หลายๆอย่าง หากเกิดขึ้นจริงก็จะลงมือแกไขปัญหาได้ทัน ธุรกิจไหนที่มีวิศวกรหรือมีงานต่างๆที่ต้องซ่อมบำรุง AR ก็จะมาช่วยงานเทรนนิ่ง

หรือแม้แต่การปรับโฉมภายในร้าน AR ก็จะมาช่วยตรงนี้ แทนที่เราจะต้องย้ายสินค้าเยอะๆในหลายๆตำแหน่ง เราก็ใช้ AR แทน ไม่ใช่แค่เพื่อให้ประสบการณ์การซื้อของของลูกค้านั้นดีที่สุด แต่เพื่อให้พนักงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้นด้วย

3. มี AR แล้ว ธุรกิจของเราทำกำไรเพิ่มขึ้นหรือไม่?

AR เป็นเทคโนโลยีที่มีต้นทุนสูง ฉะนั้นการเอา AR มาใช้นั้นต้องคำนวนแล้วว่า มีแล้ว ต้องได้กำไร ไม่ใช่แค่มีเพื่อให้ลูกค้าหรือคู่แข่งรู้สึกว่าธุรกิจของเราดูเหนือ ดูทันสมัย มี AR แล้วทำยอดขายเพิ่มขึ้นหรือไม่ มีคนเข้าร้านเราเยอะขึ้นหรือไม่? ยอดขายต่อสินค้าที่ขาได้เพิ่มขึ้นหรือไม่? หรือ AR มันช่วยให้ธุรกิจเราต้นทุนการสต็อกสินค้าลดลงหรือไม่? มากน้อยเท่าไหร่

ข่าวดีคือยังมีแหล่งทเงินทุนต่างๆที่พร้อมสนับสนุนเงินให้กับธุรกิจที่ใช้ AR เพื่อศึกษาและประโยชน์ศาธารณะ ฉะนั้นหากอยากใช้ AR กับธุรกิจของเรา ลองหาและติดต่อแหล่งเงินทุนที่ว่าดูได้

 

ทั้งหมดนี้ก็เป็นคำถามที่เก็บไว้ให้คิดกัน ไม่ใช่แค่เฉพาะ AR แต่กับเทคโนโลยีอื่นๆด้วย เราอาจจะต้องวแผนกันดีๆว่าการเอา AR มาใช้นั้น เอามาใช้อย่างไร เราอาจจะต้องวางแผนทำโปรเจคกันในบริษัท ทดลองใช้ AR กันไปเรื่อยๆ เพราะการที่เราเอาเทคโนโลยีมาใช้ ก็ไม่ได้หมายความว่าลูกค้าจะเปลี่ยนใจมาใช้สินค้าของเราในทันที เพราะหลายๆครั้งที่มีของใหม่ ลูกค้าจะต้องใช้เวลาเรียนรู้ ทำความเข้าใจและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งานครับ

 

แหล่งที่มา Four Questions Retailers Need to Ask About Augmented Reality โดย Darrel K. Rigby, Mikey Vu, Asit Goel จาก The Year in Tech 2021: Harvard Business Review


  • 50
  •  
  •  
  •  
  •  
Sarunjade
แชร์มุมมองเกี่ยวกับ Digital Marketing, Digital Business และ Technology เท่าที่รู้ สามารถติชมหรืออยากให้เจาะลึกเรื่องไหนเป็นพิเศษ ส่งเมลมาเลยที่ contact@oopsnetwork.co.th