เวลาเราพูดถึงเทรนด์ เราจะรู้ได้อย่างไรว่ามันคือเทรนด์จริงๆ ไม่ใช่นึกเอาเองหรือใครมาบอกว่าเป็นเทรนด์ ไม่ใช่กด Google Trend พิมพ์คีย์เวิร์ดแล้วบอกว่ามันเป็นเทรนด์ พิมพ์คำว่าเทรนด์ใน Google หรือดูคอนเทนต์ตามสื่อสังคมออนไลน์หรือแมกกาซีนที่จั่วหั่วว่า “20 เทรนด์ที่ต้องรู้” “เสื้อผ้าที่ต้องติดตู้ในปี 2018” แบบนี้คิดง่ายไป (และผิดง่ายด้วยเช่นกัน) เพราะพวกนี้มักจะเป็น Fad ที่มาไวไปไว
เทรนด์คืออะไรกันแน่?
ก่อนจะบอกว่าอะไรเป็นเทรนด์ อะไรไม่ใช่เทรนด์ ขอเอาประสบการณ์ เอาหลักการ ความชอบส่วนตัวของเรา คุณธรรมจริยธรรมออกไปก่อน ไม่ใช่ไม่สำคัญกับการทำธุรกิจ แต่เพราะมันไม่เกี่ยวกับการบอกว่าอะไรคือเทรนด์
ส่วนการระบุเทรนด์นั้น เราต้องสังเกตเหตุการณ์รอบตัวเรา ทำให้เทรนด์นั้นจับต้องได้ เอาไปเป็นข้อมูลใช้ทำงานได้จริง
“เทรนด์” คือวิธีใหม่ๆในการตอบความต้องการและให้คุณค่ากับกลุ่มคนหรือกลุ่มลูกค้าที่ใหญ่พอที่เราพอสังเกตเห็นได้ และต้องมั่นใจด้วยว่าความต้องการหรือคุณค่าที่ว่ามันมีมาเรื่อยๆ
สมมติเช่น “มีกลุ่มผู้หญิงอายุ 60 ขึ้นไปที่คิดว่าหุ่นตัวเองค่อนข้างใหญ่ โดยเฉพาะพุงกับแขน แต่อยากให้ตัวเองดูดี มีผู้ชายสนใจ” เวลาจะพูดถึงเทรนด์ ต้องระบุให้ได้แบบนี้ว่า พูดถึงใครอยู่
คราวนี้มาดูว่ามีวิธีอะไรที่จะตอบโจทย์กลุ่มคนแบบนี้? แน่นอนว่าต้องเกี่ยวกับแฟชั่น แต่แฟชั่นแบบไหนล่ะที่เป็นคำตอบและเป็นเทรนด์
Sack Dress ก็เป็นคำตอบสำหรับผู้หญิงที่ไม่มั่นใจในหุ่นตัวเอง เพราะเจ้า Sack Dress มันช่วยซ่อนทุกอย่างที่ทำให้ผู้หญิงรู้สึกอาย ไม่กล้าอวดกล้าโชว์ เจ้า Sack Dress จึงกลายเป็นวิธีใหม่ๆ เป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์กลุ่มคนแบบนี้และกลายเป็นเทรนด์ในที่สุด
เทรนด์จึงต้องเกี่ยวกับวิธีแก้ปัญหาใหม่ๆที่กลุ่มคนที่เราสังเกตเห็นได้ชัดเจนกำลังไล่ล่าตามหาวิธีนั้นอยู่ นั่นจึงเป็นจังหวะที่เราสามารถจับลูกค้าที่เราต้องการจะสื่อออกไป
แล้วเทรนด์มีกี่แบบ?
ประเภทของเทรนด์ขึ้นอยู่กับระยะเวลาของเทรนด์ ฉะนั้นเทรนด์ทั้งหมดบนโลกนี้มีแค่อยู่ 4 แบบ
1. Macro Trend: ต้องเป็นเทรนด์ที่มาไม่ตำ่กว่า 10 ปี เทรนด์แบบนี้ถึงจะมาช้าๆแต่ทรงพลังเพราะเป็นเทรนด์ให้กับอีก 3 เทรนด์ประเภทหลังได้เกาะกระแส
2. Consumer Trend กินเวลาอย่างน้อย 3 ปีขึ้นไป มีแนวโน้มเป็น Macro Trend ต้องนานพอที่เราจะนึกถึงมันย้อนหลังได้
3. Micro Trend: ใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งปี
4. Fad แบบนี้อย่าเรียกว่าเทรนด์ มันเป็นกระแสมาไวไปไว อยู่ไม่ถึงเดือนก็ดับ
จะหาเทรนด์ได้จากที่ไหน?
- ดูจาก Trend Report ที่ Trend Agency รวบรวมข้อมูลอย่างละเอียดและรอบด้านและวิเคราะห์มาแล้ว และเราสามารถต่อยอดตีความ แม้แต่สร้างแรงบันดาลใจให้เข้ากับงานที่เรากำลังทำได้
- เข้าไปที่ www.trendwatching.com จะรวม newletter ที่ให้ระละเอียดที่เราสังเกตได้ว่ามันเป็นเทรนด์ หรือ www.trendchecker.com ที่คอยบอกว่าอะไรเป็น Micro Trend
- คอยติดตามผู้นำทางความคิด (Opinion Leader) ที่คอยสังเกตรายละเอียดและใส่ความเห็นของตัวเองลงไปว่าเขาเห็นอะไรและเขาได้ผลิตผลงานอะไรจากสิ่งที่สังเกตเห็น
- สังเกตและสร้างเทรนด์เองเลยจากประสบการณ์ในการสังเกตที่ “มากพอ” และแหล่งข้อมูลจำนวน “มาก” ถ้าใครมั่นใจวิธีนี้ก็ลองดู
และอย่าลืมเวลารวบรวมข้อมูลเพื่อหาเทรนด์ก็อย่าลืมข้อมูลนอกจากอินเตอร์เน็ตด้วย เช่นจากงานแสดงศิลปะหรืออีเวนท์นอกสถานที่ก็สำคัญไม่แพ้กัน
แหล่งที่มา