ตามล่าหาเทรนด์อย่างไรให้ถูกวิธีและมีประโยชน์กับธุรกิจ?

  • 161
  •  
  •  
  •  
  •  

เวลาเราพูดถึงเทรนด์ เราจะรู้ได้อย่างไรว่ามันคือเทรนด์จริงๆ ไม่ใช่นึกเอาเองหรือใครมาบอกว่าเป็นเทรนด์ ไม่ใช่กด Google Trend พิมพ์คีย์เวิร์ดแล้วบอกว่ามันเป็นเทรนด์ พิมพ์คำว่าเทรนด์ใน Google หรือดูคอนเทนต์ตามสื่อสังคมออนไลน์หรือแมกกาซีนที่จั่วหั่วว่า “20 เทรนด์ที่ต้องรู้” “เสื้อผ้าที่ต้องติดตู้ในปี 2018” แบบนี้คิดง่ายไป (และผิดง่ายด้วยเช่นกัน) เพราะพวกนี้มักจะเป็น Fad ที่มาไวไปไว

1890939E-A7A1-4E66-A8B1-6D6163215DFD

เทรนด์คืออะไรกันแน่?

ก่อนจะบอกว่าอะไรเป็นเทรนด์ อะไรไม่ใช่เทรนด์ ขอเอาประสบการณ์ เอาหลักการ ความชอบส่วนตัวของเรา คุณธรรมจริยธรรมออกไปก่อน ไม่ใช่ไม่สำคัญกับการทำธุรกิจ แต่เพราะมันไม่เกี่ยวกับการบอกว่าอะไรคือเทรนด์ 

ส่วนการระบุเทรนด์นั้น เราต้องสังเกตเหตุการณ์รอบตัวเรา ทำให้เทรนด์นั้นจับต้องได้ เอาไปเป็นข้อมูลใช้ทำงานได้จริง

Facebook CEO Mark Zuckerberg Testifies At House Hearing

“เทรนด์” คือวิธีใหม่ๆในการตอบความต้องการและให้คุณค่ากับกลุ่มคนหรือกลุ่มลูกค้าที่ใหญ่พอที่เราพอสังเกตเห็นได้ และต้องมั่นใจด้วยว่าความต้องการหรือคุณค่าที่ว่ามันมีมาเรื่อยๆ

สมมติเช่น “มีกลุ่มผู้หญิงอายุ 60 ขึ้นไปที่คิดว่าหุ่นตัวเองค่อนข้างใหญ่ โดยเฉพาะพุงกับแขน แต่อยากให้ตัวเองดูดี มีผู้ชายสนใจ” เวลาจะพูดถึงเทรนด์ ต้องระบุให้ได้แบบนี้ว่า พูดถึงใครอยู่ 

คราวนี้มาดูว่ามีวิธีอะไรที่จะตอบโจทย์กลุ่มคนแบบนี้? แน่นอนว่าต้องเกี่ยวกับแฟชั่น แต่แฟชั่นแบบไหนล่ะที่เป็นคำตอบและเป็นเทรนด์

Sack Dress ก็เป็นคำตอบสำหรับผู้หญิงที่ไม่มั่นใจในหุ่นตัวเอง เพราะเจ้า Sack Dress มันช่วยซ่อนทุกอย่างที่ทำให้ผู้หญิงรู้สึกอาย ไม่กล้าอวดกล้าโชว์ เจ้า Sack Dress จึงกลายเป็นวิธีใหม่ๆ เป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์กลุ่มคนแบบนี้และกลายเป็นเทรนด์ในที่สุด

6436F0BA-4E13-4DAF-81B6-820C7BB8DBB7

เทรนด์จึงต้องเกี่ยวกับวิธีแก้ปัญหาใหม่ๆที่กลุ่มคนที่เราสังเกตเห็นได้ชัดเจนกำลังไล่ล่าตามหาวิธีนั้นอยู่ นั่นจึงเป็นจังหวะที่เราสามารถจับลูกค้าที่เราต้องการจะสื่อออกไป

แล้วเทรนด์มีกี่แบบ?

ประเภทของเทรนด์ขึ้นอยู่กับระยะเวลาของเทรนด์ ฉะนั้นเทรนด์ทั้งหมดบนโลกนี้มีแค่อยู่ 4 แบบ

1. Macro Trend: ต้องเป็นเทรนด์ที่มาไม่ตำ่กว่า 10 ปี เทรนด์แบบนี้ถึงจะมาช้าๆแต่ทรงพลังเพราะเป็นเทรนด์ให้กับอีก 3 เทรนด์ประเภทหลังได้เกาะกระแส

2. Consumer Trend กินเวลาอย่างน้อย 3 ปีขึ้นไป มีแนวโน้มเป็น Macro Trend ต้องนานพอที่เราจะนึกถึงมันย้อนหลังได้

3. Micro Trend: ใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งปี

4. Fad แบบนี้อย่าเรียกว่าเทรนด์ มันเป็นกระแสมาไวไปไว อยู่ไม่ถึงเดือนก็ดับ

 

จะหาเทรนด์ได้จากที่ไหน?

  1. ดูจาก Trend Report ที่ Trend Agency รวบรวมข้อมูลอย่างละเอียดและรอบด้านและวิเคราะห์มาแล้ว และเราสามารถต่อยอดตีความ แม้แต่สร้างแรงบันดาลใจให้เข้ากับงานที่เรากำลังทำได้
  2. เข้าไปที่ www.trendwatching.com จะรวม newletter ที่ให้ระละเอียดที่เราสังเกตได้ว่ามันเป็นเทรนด์ หรือ www.trendchecker.com ที่คอยบอกว่าอะไรเป็น Micro Trend 
  3. คอยติดตามผู้นำทางความคิด (Opinion Leader) ที่คอยสังเกตรายละเอียดและใส่ความเห็นของตัวเองลงไปว่าเขาเห็นอะไรและเขาได้ผลิตผลงานอะไรจากสิ่งที่สังเกตเห็น
  4. สังเกตและสร้างเทรนด์เองเลยจากประสบการณ์ในการสังเกตที่ “มากพอ” และแหล่งข้อมูลจำนวน “มาก” ถ้าใครมั่นใจวิธีนี้ก็ลองดู 

และอย่าลืมเวลารวบรวมข้อมูลเพื่อหาเทรนด์ก็อย่าลืมข้อมูลนอกจากอินเตอร์เน็ตด้วย เช่นจากงานแสดงศิลปะหรืออีเวนท์นอกสถานที่ก็สำคัญไม่แพ้กัน

 

แหล่งที่มา


  • 161
  •  
  •  
  •  
  •  
Sarunjade
แชร์มุมมองเกี่ยวกับ Digital Marketing, Digital Business และ Technology เท่าที่รู้ สามารถติชมหรืออยากให้เจาะลึกเรื่องไหนเป็นพิเศษ ส่งเมลมาเลยที่ contact@oopsnetwork.co.th