ทำความรู้จัก PHEV ที่ช่วยให้ผู้ใช้เข้าใกล้รถยนต์ไฟฟ้ากว่าที่เคย เดินทางไกลได้แบบไม่ต้องกังวล

  • 3.4K
  •  
  •  
  •  
  •  

 

รถยนต์ไฟฟ้ายังคงเป็นสิ่งที่หลายคนให้ความสนใจ และแน่นอนว่าหลายคนตั้งเป้าในการได้เป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าไว้ซักคัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถยนต์ไฟฟ้าในยุคปัจจุบันที่มีเทคโนโลยีเข้ามาเสริมเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ นอกจากนี้รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ยังได้รับการออกแบบให้มีความทันสมัยล้ำอนาคต

อีกหนึ่งจุดเด่นที่ส่งผลให้รถยนต์ไฟฟ้ากลายเป็นที่ต้องการของหลายๆ คน นั่นคือเรื่องของการใช้พลังงานไฟฟ้าทดแทนการใช้เชื้อเพลิงน้ำมัน ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดค่าน้ำมันลงได้อย่างมหาศาลแล้ว (เมื่อเทียบค่าน้ำมันต่อลิตรกับอัตราค่าไฟฟ้าต่อยูนิต) ผลที่ได้จากรถยนต์ไฟฟ้าคือการขับเคลื่อนแบบไม่มีการปล่อยมลพิษ เนื่องจากไม่มีการเผาไหม้น้ำมันเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์

 

รถยนต์ไฟฟ้าและความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน

และถ้ามองหาผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพจำหน่ายในประเทศไทยและทุกคนสามารถเข้าถึงได้ คงต้องยอมให้ MG ที่อาจเรียกได้ว่าเป็นผู้บุกเบิกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยตัวจริงที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ นอกจากราคาค่าตัวของรถยนต์ไฟฟ้า MG จะสามารถเข้าถึงได้ การดูแลรักษายังเป็นเรื่องง่ายเนื่องจากไม่มีเครื่องยนต์ทำให้ไม่จำเป็นต้องบำรุงดูแลรักษามากมาย

 

 

แต่อย่างที่ทราบว่าโครงสร้างพื้นฐานสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย อาจเรียกได้ว่ายังไม่พร้อม 100% โดยเฉพาะสถานีชาร์จไฟฟ้าที่ยังมีอยู่จำนวนจำกัดและส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่เขตเมืองหลวงและหัวเมืองขนาดใหญ่ ซึ่งหากใช้รถยนต์ไฟฟ้าวิ่งเฉพาะในเมืองอาจจะไม่มีปัญหามากเท่าไหร่ แต่ถ้าจำเป็นต้องออกต่างจังหวัดคงกลายเป็นเรื่องปวดหัวเพราะต้องคำนวณระยะทางและค้นหาสถานีชาร์จตามรายทางที่วิ่งผ่าน

 

 

แต่เพราะทิศทางของตลาดรถยนต์โลกกำลังไปในแนวทางของรถยนต์ไฟฟ้า และให้ผู้บริโภคชาวไทยที่ต้องการใช้รถยนต์ไฟฟ้าแต่ยังกังวลเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า MG จึงได้ส่งรถยนต์ในรูปแบบของ Plug-in Hybrid (PHEV) หรือรถยนต์ไฮบริดแบบเสียบปลั๊กชาร์จไฟได้เข้าสู่ตลาด ในรุ่น MG HS PHEV

 

ทำไมต้องใช้รถยนต์ PHEV

ก่อนอื่นมาทำความรู้จัก PHEV ก่อนว่าคือรถยนต์อะไร PHEV ย่อมาจาก Plug-in Hybrid Electric Vehicle อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ คือรถยนต์ลูกผสมที่มีทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า หลายคนอาจคิดว่านี่คือรถ Hybrid แต่จริงๆ แล้วมีความแตกต่างกันอยู่ระหว่าง PHEV และรถยนต์ Hybrid เล็กน้อย โดยรถยนต์ Hybrid ใช้กำลังเครื่องยนต์เป็นหลัก และใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อช่วยในการออกตัว รวมไปถึงช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ และแหล่งพลังงานของมอเตอร์ไฟฟ้ามาจากแบตเตอรี่ขนาดเล็ก เมื่อทำการเบรกระบบจะชาร์จไฟกลับเข้าสู่แบตเตอรี่

 

 

ขณะที่ PHEV เป็นรถยนต์ที่มีทั้งมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์เหมือนรถยนต์ Hybrid แต่ PHEV สามารถเลือกระบบขับเคลื่อนได้ว่าต้องการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าผสานเครื่องยนต์ (ไฮบริด) หรือใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ซึ่งหากเลือกใช้มอเตอร์ไฟฟ้า ก็จะมีการทำงานที่เหมือนรถยนต์ไฟฟ้าเลย และสามารถเสียบปลั๊กชาร์จไฟได้เช่นเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งหากแบตเตอรี่หมดและไม่สามารถหาที่ชาร์จไฟได้ สามารถเลือกระบบขับเคลื่อนด้วยระบบไฮบริดเพื่อเดินทางได้อย่างต่อเนื่อง

 

 

ซึ่งในรถยนต์ MG HS PHEV สามารถใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100% ได้ไกลสุดถึง 67 กิโลเมตรต่อการชาร์จแบตเตอรี่เต็มเพียง 1 ครั้ง แถมยังสามารถชาร์จไฟกลับเข้าแบตเตอรี่ได้ในระหว่างการขับขี่ และสามารถเลือกระดับการชาร์จไฟกลับได้ถึง 3 ระดับ แต่บอกก่อนว่ายิ่งระดับสูงความหนืดในการขับขี่จะสูงมากเช่นกัน นั่นหมายความว่าคนที่ใช้ MG HS PHEV เดินทางระยะสั้นสามารถใช้งานได้เหมือนรถยนต์ไฟฟ้า โดยไม่ต้องเสียค่าน้ำมันแม้แต่บาทเดียว

 

MG HS PHEV สมรรถนะแบบรถยนต์ไฟฟ้า และอุ่นใจด้วยเทคโนโลยี

ถ้าการตัดสินใจใช้รถยนต์ไฟฟ้ายังระแวงเรื่องการชาร์จไฟเมื่อต้องเดินทางไกล MG HS PHEV ตอบโจทย์ปัญหานั้นได้ ด้วยเทคโนโลยี Plug-in Hybrid ที่ผสานประสิทธิภาพของมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุดถึง 122 แรงม้า เรียกว่าให้กำลังเทียบเท่ารถยนต์ให้เซ็กเม้นต์เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร และประสิทธิภาพจากเครื่องยนต์เบนซินพร้อมเทอร์โบขนาด 1.5 ลิตร ที่ให้กำลังสูงถึง 162 แรงม้า เรียกประสิทธิภาพสูงสุดถึง 284 แรงม้า และอาจเทียบได้กับรถยนต์เครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตรพร้อมเทอร์โบ เป็นรถที่มีอัตราเร่งดี ตอบสนองทันใจแบบรถยนต์ไฟฟ้า อีกทั้งยังมีระบบไฮบริดรองรับการเดินทางระยะไกล ขับไปไหนก็ได้ไม่ต้องห่วงเรื่องสถานีชาร์จ

 

 

พร้อมด้วยระบบความปลอดภัยที่มาแบบจัดเต็มถึง 25 ระบบ ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีที่ช่วยในการขับขี่ หรือ ADAS ที่เทียบเท่าระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับที่ 2 ทำให้ขับขี่ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และยังมีอุปกรณ์ต่างๆ อีกหลายรายการ ทั้งถุงลมนิรภัย 6 จุดที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องทุกคนในห้องโดยสาร กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ ช่วยให้เห็นได้ทุกมุมรอบรถ จะทางแคบ จอดเทียบ ถอยเข้าซอง ก็สะดวก

 

 

และขาดไม่ได้กับเอกลักษณ์ของ MG อย่าง i-SMART ที่ยังคงเชื่อมต่อรถยนต์กับมือถือเข้าไว้ด้วยกัน พร้อมคำสั่งภาษาไทยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องสำเนียงการออกเสียง ที่สำคัญยังมีระบบ Charging Management ที่จัดมาเพื่อผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าและ PHEV ในการตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ และการชาร์จไฟฟ้า รวมถึงการค้นหาสถานีชาร์จไฟฟ้า ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าและ PHEV ไม่ต้องกังวลเรื่องพลังงานระหว่างเดินทาง ยิ่งในรุ่น MG HS PHEV ที่สามารถสลับมาใช้ระบบไฮบริดในการขับเคลื่อนได้ สถานีชาร์จอยู่ไกลแค่ไหนก็ไปต่อได้

 

 

ทั้งหมดนี้คือรถยนต์ MG HS PHEV ที่จัดมาให้เพื่อที่ผู้สนใจอนาคตของยานยนต์โลก แต่ยังกังวลเรื่องการชาร์จไฟโดยเฉพาะการเดินทางไกล โดย MG HS PHEV มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1,359,000 บาท เหมาะอย่างยิ่งกับคนที่ชอบเทคโนโลยี รักษ์สิ่งแวดล้อม และมองถึงความคุ้มค่าในอนาคตที่รถยนต์ไฟฟ้าจะเข้ามาแทนที่รถยนต์ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง และมองเห็นถึงศักยภาพของพลังงานไฟฟ้าในอนาคต

 

 

 


  • 3.4K
  •  
  •  
  •  
  •