แอปฯ วิดีโอสั้นกำลังได้รับความนิยมอย่างมากไปทั่วโลก โดยเฉพาะแอปฯ ที่มีการใช้งานมากที่สุดอย่าง TikTok ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า TikTok เป็นแอปฯ ที่มีบริษัทแม่อยู่ที่ประเทศจีน แต่ในความเป็นจริงแอปฯ TikTok ที่ใช่กันในหลายประเทศแทบจะเป็นคนละรูปแบบกับแอปฯ TikTok ที่อยู่ในจีน แต่นั่นไม่ทำให้ความสงสัยหรือความระแวงของรัฐบาลสหรัฐฯ ลดน้อยลง
ส่งผลให้สภาคองเกรสของสหรัฐฯ เรียกผู้บริหารของ TikTok เข้าสอบสวนในประเด็นความมั่นคงของชาติ โดยทางสภาคองเกรสต้องการสอบสวนเพื่อให้แน่ใจว่า TikTok ที่ให้บริการอยู่ในสหรัฐฯ ไม่มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันในแง่ของข้อมูล ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการนำเสนอเนื้อหาในแอปฯ TikTok ที่เกี่ยวข้องกับการเมืองของสหรัฐฯ
ซึ่งจากการสอบสวนได้พบว่า ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา TikTok ในสหรัฐฯ เคยปฏิเสธคำขอของเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลจีนเพื่อให้ดำเนินการลบวิดีโอ นอกจากนี้ยังมีหลักฐานว่าข้อมูลของผู้ใช้งานในสหรัฐฯ ถูกเก็บไว้ในเซิฟเวอร์ที่สหรัฐฯ และไม่อยู่ภายใต้กฎหมายของรัฐบาลปักกิ่ง ทั้งนี้ TikTok กลายเป็นแอปฯ ยอดนิยมอย่างรวดเร็วโดยมีการติดตั้งมากกว่า 1.4 พันล้านครั้งทั่วโลก เฉพาะในสหรัฐฯ มีการติดตั้งมากกว่า 120 ล้านครั้ง
จากผลการสำรวจยังพบว่า ช่วงสามไตรมาสแรกของปีนี้ การดาวน์โหลดแอปฯ TikTok ในสหรัฐฯ ผ่านช่องทาง App Store และ Google Play Store มีสัดส่วนการดาวน์โหลดเทียบเท่าหรือมากกว่าคู่แข่งที่มีชื่อเสียงทั่วโลกอย่าง Facebook, Snapchat และ Instagram โดย TikTok ถือเป็นบริษัที่มีต้นกำเนิดจากสหรัฐฯ โดยชื่อเดิมคือ Musical.ly ก่อนจะถูกบริษัทสัญชาติจีนอย่าง ByteDance ซื้อกิจการไป และเปลี่ยนชื่อเป็น TikTok อย่างในปัจจุบัน
ล่าสุด มีการร้องขอให้ TikTok ร่วมเป็นพยานในการสอบสวนเพื่อหาบริษัทที่มีความสัมพันธ์กับรัฐบาลจีนในวันอังคารนี้ ซึ่งผู้บริหารของ TikTok ตอบปฏิเสธไป ด้วยการยืนยันถึงความไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลจีน จนนักวิชาการต่างมองว่าการสอบสวนครั้งนี้ เป็นผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่กำลังเกิดขึ้นอยู่
Source: The Washington Post