ข้อคิดการตลาดบนโซเชียลมีเดีย…วันนี้คุณ”รุก”ผู้บริโภคมากเกินไปหรือเปล่า?

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

Asian selfie

ขอบคุณภาพประกอบจาก backstage

อาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อยและส่วนตัว แต่ทุกครั้งที่มีใครบางคนแชร์ข้อมูลผ่านเครือข่ายโซเชียลเนตเวิร์ค คุณไม่ทราบหรอกว่าดิจิตอลมาร์เกตเตอร์ทุกคนมองภาพหรือข้อความเหล่านั้นเป็นโอกาสทองที่จะเก็บเกี่ยวข้อมูลเชิงลึกจากผู้บริโภคของพวกเขา

แน่นอนว่าข้อมูลบนโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Instagram, Pinterest และอื่นๆ อาจไม่เพียงพอสำหรับการพยากรณ์พฤติกรรมผู้บริโภคให้แม่นยำ แต่สิ่งที่ไอเท็มเหล่านี้สามารถบอกได้อย่างแน่นอนคือ “ทางลม” หรือกระแสของผู้บริโภคว่าความนิยมกำลังไหลเวียนไปยังทิศทางไหน มาร์เกตเตอร์ที่ทำงานกับสตาร์ทอัพควรใส่ใจวิธีหาข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดียเป็นพิเศษเมื่อมันใช้ทุนต่ำแต่กลับสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างเจาะลึก และข้อมูลเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็มักจะเที่ยงตรงซะด้วย (จำไว้ว่าผู้บริโภคหลายคนคิดว่าโซเชียลมีเดียเป็นโลกเสมือนที่พวกเขาสามารถปลดปล่อยตัวตนออกมาได้อย่างไม่กลัวใคร ดังนั้น สิ่งที่เขาคิด เป็น หรืออยากจะเป็นนั้นจะถูกระบายออกมาผ่านโซเชียลมีเดียทั้งหมด)

อย่างไรก็ตามเมื่อมองในมุมของผู้บริโภค ความเข้าใจเรื่องนี้อาจทำให้คุณขนหัวลุกจนไม่กล้าแชร์ข้อมูลส่วนตัวใดๆ บนโลกออนไลน์อีกต่อไป ลองคิดสภาพว่าเมื่อเช้าคุณเพิ่งทานเบอร์เกอร์ที่ร้าน McDonald จากนั้นบ่ายๆ เปิดเช็ค Facebook เห็นโฆษณา McDonald ขึ้นมาตรงด้านขวามือของคุณ มันดูน่ากลัวแค่ไหนกัน! (ส่วนนี้น่าจะมีผลมาจาก retargeting marketing ที่ตรวจจับว่าคุณเคยมีความสนใจเรื่องใดมากก่อน) ดังนั้น ในฐานะผู้บริโภค คุณควรแน่ใจว่ารูปที่คุณแชร์เป็นสาธารณะและสามารถเปิดเผยได้ นอกจากนี้ยังควรดูว่าแพลตฟอร์มหรือแชนแนลที่คุณจะไปแชร์นั้นใครเป็นเจ้าของหรือดูแลอยู่

ความเข้าใจและตระหนักถึงจริยธรรมในการทำงานและการปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภคเป็นสิ่งสำคัญที่ดิจิตอลมาร์เกตเตอร์ควรคิดถึงและตอกย้ำให้ผู้บริโภครู้เสมอว่าคุณคิดถึง แบรนด์ที่ทำให้พวกเขา “ขนหัวลุก” (อย่างรู้ตัว) จะถูกจัดอยู่ในลิสต์ “คุกคามชีวิตฉัน” และเขาจะมองคุณในแง่ลบทันที ดังนั้น การหาทางสายกลางในการเข้าถึงผู้บริโภคน่าจะเป็นหนทางที่ดีที่สุดในการใช้ชีวิตร่วมกับพวกเขา

Source


  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
อุ้งทีนหมี
เตาะแตะในโรงเรียนชายล้วนแถวยศเส ก่อนเติบโตต่อในมหาวิทยาลัยริมฝั่งน้ำเจ้าพระยา ที่สุดจับพลัดจับผลูเข้าทำงานในนแวดวงสื่อสารมวลชนมาแล้วกว่า 4 ปี โต้ลมโต้ฝนทั้งในวงการข่าวต่างประเทศ เยาวชน ธุรกิจ การเมือง สังคม ฯลฯ แต่สุดท้ายกลับลำมาหลงรักวงการมาร์เก็ตติ้งที่ข้ามน้ำข้ามทะเลไปขี่จิงโจ้เรียนปริญญาโทมา เลยตัดสินใจหันหางเสือออกสู่การผจญภัยครั้งใหม่อีกสักตั้ง