เริ่มต้นปีใหม่กันแล้ว หลาย ๆ คนคงเริ่มเตรียมตัวกันที่จะลุยปี 2018 นี้อย่างเต็มที่ด้วยการวางแผนการทำการตลาดว่าจะต้องอะไรบ้างทั้งปี หรือเริ่มต้องมีการปรับแก้แผนที่เคยวางเอาไว้จากปีก่อนหน้าเป็นต้นมา ทั้งนี้ในการทำ Social Media Marketing นั้นก็มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากจากปีที่ผ่านมาที่หลาย ๆ คนเจอเหตุการณ์ปรับเปลี่ยนหรือฟีเจอร์ใหม่ ๆ หลาย ๆ อย่างออกมาจาก Platform ดัง ๆ
ทั้งนี้การเตรียมตัวจึงกลายเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากที่จะทำให้การเดินหน้าการทำการตลาดในออนไลน์นั้นไม่มีสะดุด การเรียนรู้ที่จะรับมืออะไรใหม่ ๆ จึงกลายเป็นเรื่องสำคัญขึ่นมาทันที ซึ่งวันนี้ผมจะเอาเรื่องสำคัญ ที่น่าจับตามอง 3 เรื่องมาแชร์กัน ซึ่งจะเป็น Tactics ที่สำคัญในการทำ Social Media Marketing ในปีนี้อย่างแน่นอนขึ้นมา
1. ทำความเข้าใจบทบทเครื่องมือ Social Media แต่ละตัวในการทำ Marketing ให้ดี
Social Media นั้นใช้ให้ดีก็ก่อให้เกิดพลังมากมายที่จะช่วยให้การตลาดของคุณติดปีกได้อย่างทันที ทำให้การตลาดจากที่ไม่มีอะไรเลย ไปสู่ความสำเร็จได้ทันที แต่สิ่งที่คุณต้องรู้นั้นก็คือบทบาทของ Social Media ตัวเองที่จะเข้าไปอยู่ตรงไหนในการตลาดของตัวเอง สิ่งสำคัญในตอนนี้คือคุณจะสักแต่ใช้ตาม ๆ คนอื่นไม่ได้แล้ว แค่มันมีความจำเป็นที่คุณต้องเริ่มเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าเครื่องมือแต่ละตัวและ Platform ที่ใช้งานอยู่นั้นมีความสามารถอย่างไร ทำงานอย่างไร และจะทำอย่างไรถึงจะรีดประสิทธิภาพออกมาให้ได้มากที่สุดออกมา
ทั้งนี้สิ่งที่คุณต้องทำ คือการย้อนกลับไปรีวิวว่าในปี 2017 นั้นสิ่งที่ทำพลาดไปมีอะไรบ้าง เครื่องมือที่ใช้งานแล้วยังไม่ได้เต็มประสิทธิภาพ หรือไม่ก่อให้เกิดประสิทธิภาพออกมา และเครื่องมือไหนที่ไม่เคยได้ลองใช้งานเลยแล้วควรต้องลอง ลองเอาข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์เพื่อวางว่าเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพหรือเครื่องมือใหม่ ๆ ที่จะใช้ในปี 2018 นั้นจะเข้าไปอยู่ใน Marketing Strategy ตรงไหน สิ่งสำคัญในปีนี้ที่คุณต้องรู้ไว้คือ Social Media ตอนนี้เป็น Echo Chamber อย่างมาก ทำอย่างไรที่คุณจะทลาย Echo Chamber นี้ออกมาเพื่อเชื่อมต่อกับผู้บริโภคได้ ลองวางเครื่องมือให้ดีว่าแต่ละตัวจะทำหน้าที่อย่างไรในแต่ละ Marketing Stage หรือทำอย่างไรให้ทุก ๆ เครื่องมือ Social Media นั้นทำงานสอดประสานกัน
2. ใช้คนของตัวเองให้เป็นประโยชน์
สิ่งหนึ่งที่หลาย ๆ องค์กรลืมไปนั้นคือพนักงานตัวเอง หลาย ๆ ที่มักมองข้ามความสามารถ ประสิทธิภาพ และพลังของ connection ของพนักงานตัวเอง นอกจากนี้ยังไม่คิดใช้พนักงานของตัวเองให้เป็นประโยชน์ในเรื่องการสร้างการตลาดอีกด้วย หลาย ๆ ที่มักยกเรื่องของการตลาดให้เป็นส่วนของแผนก PR หรือ Marketing แต่เอาเข้าจริงแล้วในต่างประเทศนั้นมองว่าพนักงานทุกคนของริษัท คือหน้าตาของบริษัทและเป็นตัวประชาสัมพันธ์อย่างดีให้กับบริษัททั้งหมด
ซึ่งทำให้บริษัทที่มองพนักงานเป็นตัวแทนนั้นจะทำการเริ่มอบรมพนักงานให้เข้าใจบทบาทของแบรนด์ รู้จักเรื่องภาพลักษณ์แบรนด์ และสามารถทำตัวประชาสัมพันธ์แบรนด์ให้คนรอบข้างออกไปได้ ไม่ว่าพนักงานคนนั้นจะอยู่แผนกไหนก็ตาม ลองนึกถึงว่าพนักงานคนนั้นมีเพื่อน 500 คนใน Facebook ใน Instagram อีก 1000 และอื่น ๆ อีกมากมาย แค่พนักงานนั้นช่วยประชาสัมพันธ์แบรนด์ออกไป ก็ก่อให้เกิดแรงกระเพื่อมมากมายสู่คนอื่นอีก ทำให้งบประมาณในการประชาสัมพันธ์หรือการตลาดนั้นลดลงอย่างมากเลยทีเดียว มีการพบว่าการทำให้พนักงานกลายเป็นภาพลักษณ์บริษัทนี้ก่อให้เกิดทั้งรายได้ใหม่ ๆ เข้ามาสู่บริษัท ทำให้เกิดการจ้างงานได้ง่ายขึ้น แถมก่อให้เกิดการเชื่อมต่อไปยังผู้บริโภคได้เพิ่มมากขึ้นไปอีก
3. โฟกัสใน Micro Influencer
การใช้ Influencer นั้นยังจะเป็น Tactics ที่สำคัญอยู่ เพราะ Influencer นั้นสามารถทำหน้าที่ในการเป็นสะพานที่เชื่อมระหว่างแบรนด์เข้ามากับผู้บริโภคได้ ทำให้เกิดความเชื่อใจ หรือทำให้เกิดการอยากมาเป็นลูกค้าของแบรนด์ได้ทันที แต่ที่ผ่านมานั้นการใช้ Influencer จะตกอยู่ในคนที่มีจำนวนคนตามเยอะ ๆ เพราะสามารถหวังได้และคาดหวัง “การเปลี่ยน” คนที่ติดตามเยอะ ๆ นั้นให้เป็นประโยชน์ (ซึ่งการการันตีการเปลี่ยนนั้นแทบเป็นไปไม่ได้)
ทั้งนี้ในปี 2018 นี้การใช้ Influencer จะเปลี่ยนไป จากการที่ใช้ Influencer ที่คนตามเยอะ ๆ นั้นจะเปลี่ยนมาเป็น Influencer ที่มีคุณภาพของผู้ติดตามแทน โดยเฉพาะ Influencer ที่มีความสนใจเฉพาะจนถึงขั้นระดับ Niche Market เลยทีเดียวกลุ่ม Influencer เหล่านี้อาจจะมีคนตามไม่เยอะ แต่คนตามเหล่านั้นเป็นคนที่มีคุณภาพมาก และสามารถไปโน้มน้าวคนอื่นได้ต่ออีกมากมาย หรือคนตามทั้งหมดอาจจะเปลี่ยนมาเป็นลูกค้าได้เลย ทั้งนี้ในเมืองไทยตัวอย่างเช่น Jaytherabbit ที่มีคนตามไม่ได้เท่ากับเพจใหญ่มากมาย แต่ลูกเพจมีคุณภาพมากมายที่สามารถส่งผลถึงการตลาดของแบรนด์ได้ทันที