3 ทางที่จะใช้ข้อมูลให้มีความหมาย

  • 235
  •  
  •  
  •  
  •  

ข้อมูลนั้นเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากในยุคนี้ การใช้ข้อมูลเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั้นเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากที่จะทำให้นำหน้าคู่แข่งได้การแข่งขันที่ผู้บริโภคนั้นเลือกแต่สิ่งที่ตัวเองสินใจ การมีข้อมูลมากมายแต่ใช้ไม่เป็นหรือใช้ไม่เกิดประโยชน์นั้นอาจจะทำให้ข้อมูลนั้นไร้ค่าได้ทันที ถ้าบริษัทหรือองค์กรคุณนั้นขาดกลยุทธ์หรือทิศทางที่จะใช้ข้อมูลนั้นให้ได้ดีได้

นักการตลาดหลาย ๆ คนในตอนนี้สนใจในเรื่อง Vanity ในตอนนี้ แต่ในอนาคตนั้นการเข้าใจข้อมูลที่ลึกซึ้งจนถึงในเรื่อง ROI ซึ่งนักการตลาดต่างประเทศสนใจอย่างมากและมีแรงกดดันสูงในการที่จะทำให้ ROI ของตัวนั้นดีขึ้นมา และมีการถึงขั้นตรวจสอบการทำงานในแต่ละขั้นตอนอย่างละเอียดหรือปรับปรุงประสิทธิภาพอย่างละเอียดใน ROI นอกจากนี้ยังต้องหาทางสร้างโอกาสใหม่ ๆ ทางการตลาดและหาผู้บริโภคกลุ่มใหม่ ๆ เพื่อมาสร้างให้เป็นลูกค้า ซึ่งวันนี้ผมมี 3 วิธีที่จะทำให้ข้อมูลที่มีสามารถใช้ได้อย่างมีความหมายมานำเสนอ

1. ใช้ข้อมูลมาทำ Insight เพื่อการทำการตลาดได้ถูกที่ ถูกทาง ถูกเวลา

การสื่อสารที่จะมีประสิทธิภาพได้นั้นเริ่มต้นมาจากการที่มี insight ที่ดีในการสื่อสาร เพื่อที่จะได้ insight ที่ดี การมีข้อมูลที่ดีและเชิงคุณภาพที่ถูกต้องนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ การเข้าใจในการเก็บข้อมูลและการสกัดเอาข้อมูลออกมาเพื่อนำมาดูในมุมมองต่าง ๆ นั้นสามารถส่งผลให้เราเห็น insight อะไรใหม่ ๆ ของผู้บริโภคออกมาได้ และสามารถนำมาวางแผนทางการตลาดต่าง ๆ หรือประเมินผลที่จะได้จากการทำการตลาดที่ทำไปได้อีกด้วย

26aea96

การใช้ข้อมูลเพื่อสร้าง Insight นั้นสามารถทำให้ได้เห็นถึงโอกาสต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นมาจากกลุ่มเป้าหมายที่ไม่เคยคิดมาก่อนได้ เช่นการได้ STP (Segment, Target, Positioning) ใหม่ ๆ  จากการทำในตลาดเดิม ๆ ที่เคยทำ จุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเองและของคู่แข่ง หรือสามารถกำหนดราคา จุดขาย เวลาขาย หรือการสื่อสารที่จะขายออกไปได้ และทำให้สามารถนำหน้าคู่แข่งออกไปได้ยิ่งด้วย
2. ใช้ข้อมูลเพื่อสร้างการเล่าเรื่องที่ดีได้ 

การทำการเล่าเรื่องนั้นกลายเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากในยุคนี้ และการเล่าเรื่องที่ทำให้ผู้บริโภคตราตรึงในจิตใจได้นั้นก็ต้องเข้าใจว่าผู้บริโภคอยากได้ยินและได้เห็นอะไรจากการเล่าเรื่อง ซึ่งข้อมูลสามารถทำให้เรารับรู้ได้ว่าผู้บริโภคผ่านอะไรเข้ามาในชีวิตในแต่ละวันบ้าง ซึ่งจะทำให้แบรนด์สร้างข้อความทางการสื่อสารที่จะช่วยให้ผู้บริโภครู้สึกดีขึ้นในตีและวันหรือช่วยให้ผู้บริโภคใช้ชีวิตได้ดีขึ้นอีกด้วย ในยุคนี้การใช้มีเดียนั้นไม่เพียงพออีกต่อไปแล้วเพราะมีโฆษณาและข้อมูลมากมายที่ทำให้ผู้บริโภครู้สึก information overload การส่งข้อความที่ทำให้ผู้บริโภครู้สึกมีประโยชน์หรือเกี่ยวข้องกับผู้บริโภคนั้นจำเป็น

dd4879c0-34c2-4bc5-b411-8bee13334410

การที่จะสร้างเรื่องราวจากข้อมูลได้ถูกต้องนั้นเริ่มจากการตั้งคำถามที่ถูกต้องหรือสมมุติฐานที่ถูกต้องในผู้บริโภคแล้วหาคำตอบจากข้อมูลที่มี เพื่อที่จะให้ข้อมูลและกรอบของคำถามนั้นสร้างกรอบที่ควรจะเดินไปจนสามารถสร้างเป็นเรื่องราวที่ตรงใจกับผู้บริโภคได้ หลาย ๆ นักการตลาดในต่างประเทศนั้นถึงขั้นใช้ข้อมูลทาง emotional โดยใช้ศาสตร์ของ Neuromarketing, Sensory Marketing เพื่อทำให้ผู้บริโภคจดจำเรื่องราวนั้นได้อีกด้วย
3.  ใช้ข้อมูลเพื่อสร้างความเชื่อใจและสร้างความจงรักภักดี 

จากงานวิจัยนั้นชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคนั้นต้องการประสบการณ์ที่เรียกว่า Personalised ซึ่งข้อมูลที่เก็บมานั้นสามารถเอามาช่วยในเรื่องการทำ Personalised ตรงนี้ได้อย่างมากและสามารถทำให้เกิดความเชื่อใจและความเชื่อมั่นของลูกค้าต่อแบรนด์ได้ด้วยว่า แบรนด์จะรู้ใจและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างที่ผู้บริโภคต้อการ ซึ่งจะนำไปสู่ความจงรักภักดีจ่อแบรนด์ได้ในที่สุด

Burberry-Scarf-Bar-Interactive-E-mail
Ads ของ Burberry ใช้ข้อมูลผู้บริโภคมาสร้างโฆษณาที่ Personalised

นอกจากนี้ใช้ข้อมูลที่ทำให้เกิดความจงรักภักดีต่อแบรนด์และ Personalised แบบนี้ทำให้ผู้บริโภคนั้นเชื่อว่าแบรนด์จะมอบสิ่งดี ๆ ให้กับผู้บริโภคที่เป็นลูกค้าแบรนด์เสมอ ถ้าไม่ใช่ลูกค้าแบรนด์ก็สามารถสร้างความเชื่อใจได้ในการสร้างข้อเสนอดี ๆ จากข้อมูลผู้บริโภคที่เข้ามาใกล้ร้านเพื่อดึงมาให้เป็นลูกค้าต่อไปได้อีกด้วย

ทั้งนี้อนาคตนั้นนักการตลาดคงหลีเลี่ยงไม่ได้แน่นอนที่จะต้องใช้ข้อมูลไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่การมีข้อมูลเยอะไม่ใช่ว่าจะได้เปรียบ แต่การมีข้อมูลที่ฉลาดและใช้ข้อมูลให้เป็นนั้นจะเป็นตัวสร้างความแตกต่างว่าจะสื่อสารและทำการตลาดออกไปได้อย่างไร การเตรียมตัวหรือเริ่มทำการตลาดด้วยข้อมูลนี้จึงจำเป็นเพิ่มขึ้นมาอย่างมาก และนักการตลาดควรจะเริ่มใส่ใจได้แล้ว


  • 235
  •  
  •  
  •  
  •  
Molek
Head of Strategic Marketing ใน Integrated Service Agency ที่หนึ่ง ผู้หลงใหลในหลาย ๆ ที่มีความอยากรู้และเรียนรู้ในเรื่อง Startup, นวัตกรรม, การตลาด จากมุมมองหลาย ๆ ด้านและวัฒนธรรมของแบรนด์ต่าง ๆ