5 รูปแบบ E-mail Marketing ที่นักการตลาดทำแล้วดีต่อใจ

  • 576
  •  
  •  
  •  
  •  

หนึ่งในเครื่องมือการตลาดที่สำคัญ แต่นักการตลาดนั้นมองข้ามหลาย ๆ ครั้ง นั้นคือการทำ e-mail Marketing โดยการทำ e-mail Marketing นี้ถ้าทำให้ดีจะได้ประโยชน์อย่างมหาศาลมาก ๆ เพราะสามารถเข้าถึงลูกค้าของนักการตลาดตัวเองได้โดยตรงและสามารถนำเสนอข้อมูลหรือสินค้าที่มีสิทธิ์ที่จะก่อให้เกิดการขายได้ทันที ถ้าทำถูกวิธี แต่หลาย ๆ ครั้งนักการตลาดก็ทำการตลาดผ่าน e-mail ไปผิดวิธีอย่างมาก

e-mail Marketing ที่ดี ๆ นั้นสามารถส่งผลหลาย ๆ อย่างได้ทันที ไม่ว่าจะทำให้เกิดกระแส การสร้างการรับรู้ การขาย หรือแม้กระทั้งการทำให้เกิด Customer Loyalty ขึ้นมา ในอุตสาหกรรมแบบ B2B และ e-Commerce นั้นใช้ e-mail marketing กันแบบเยอะมาก เพื่อที่จะสร้าง Lead แล้วเปลี่ยนเป็นลูกค้าขึ้นมา แต่ไม่ใช่ทุกอีเมล์นั้นจะดีหมด เพราะในบรรดา e-mail Marketing นี้ก็มีหลาย ๆ อันที่ทำแล้วไม่ได้ผลออกมา นั้นเป็นเพราะอีเมล์เหล่านั้นออกแบบมาไม่ดี ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่วิธีการวางแผนจนถึงดีไซน์ออกมา

getvero

ทั้งนี้ MailChimp ได้ให้ข้อมูลการทำ e-mail Marketing ที่น่าสนใจว่า e-mail Marketing นั้นแบ่งเป็น 2 แบบ คือ 1. Transactional emails ซึ่งเป็นอีเมล์ที่ส่งให้ผู้รับคนเดียว ส่วนใหญ่ทำเพื่อกระตุ้นให้ผู้รับเกิดปฏิสัมพันธ์กลับมาเมื่อใช้บริการไปแล้ว หรือทำการขอบคุณผู้ใช้ กับ One To Many Email ส่วนใหญ่เป็น Marketing Emails ที่ส่งให้กับผู้รับหลาย ๆ คนเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด เช่นการกระตุ้นกลุ่มเป้าหมายที่วาง Segmentation ไว้นั้นเอง ที่นี้จากอีเมล์ทั้ง 2  แบบนี้  เราสามารถสร้างสรรค์เป็นอีเมล์ดี ๆ ได้ต่าง ๆ กัน ซึ่งวันนี้ผมจะมาแนะนำ 5 รูปแบบย่อยของ e-mail marketing ที่ควรทำกัน

1. Behavioral Emails : เป็นอีเมล์ที่อยู่ในกลุ่ม Transactional emails เป้าหมายของอีเมล์นี้คือการเชิญชวน กระตุ้นและตอบสนองต่อพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายขึ้นมา เช่นการตอบสนองต่อความเห็น การแนะนำ การทำ Consumer Survey และการยกเลิกสมาขิกนั้นเอง การทำอีเมล์แบบนี้ต้องมีวิธีการดีไซน์อีเมล์เพื่อให้เปิดอีเมล์หรือปฏิสัมพันธ์ต่ออีเมล์นั้นด้วยการออกแบบอีเมล์ให้สั้นกระชับ ออกแบบได้เรียบง่าย และมี Objective หรือ Purpose เดียวออกมา

withings-reward-email

2. Inaugural Emails : เป็นอีเมล์ที่อยู่ในกลุ่ม Transactional emails เป้าหมายของอีเมล์นี้คือการทำการแสดงความยินดีและต้อนรับต่อลูกค้าในสิ่งใหม่ ๆ ออกมา หรือการที่ลูกค้าได้รับสิ่งใหม่ ตัวอย่างของอีเมล์นี้ได้แก่ อีเมล์ที่ยินดีในการได้รางวัล ยินดีในการสมัครสมาชิก หรือการลองเป็นสมาชิกต่าง ๆ ขึ้นมา การออกแบบอีเมล์เหล่านี้ จะมีข้อความที่สร้างสรรค์ในการกระตุ้นให้อ่าน และมี Call To Actions หลาย ๆ แบบอยู่ด้านใน เพื่อกระตุ้นให้ผู้ที่รับอีเมล์มี  action ต่าง ๆ กันออกไป

1*SDJ9nhd5VDyjj4fmyhQwsw

3. Promotional Emails : เป็นอีเมล์ที่อยู่ในกลุ่ม One To Many emails เป้าหมายคือการขายของ หรือการประกาศอย่างใดอย่างหนึ่งให้กับกลุ่มเป้าหมายกลุ่มความสนใจที่วางเป้าหมายเอาไว้นั้นเอง ตัวอย่างอีเมล์แบบนี้คือ การประกาศเชิญชวนแข่งขัน ทำกิจกรรม การลดราคา การสมนาคุณ การลดแลกแจกแถม จนถึงการประกาศสินค้าใหม่ออกมา รูปแบบการดีไซน์อีเมล์เหล่านี้ ต้องออกแบบให้มี Visual Stunning นั้นคือการที่ต้องมีภาพใหญ่ ๆ ตัวอักษรใหญ่ ๆ มีสีที่กระตุ้นความต้องการทันที รวมทั้งต้องมี Objective หรือ Purpose เดียวออกมา

bebe_mobile1_719x1024_resed

4. Punctual Emails : เป็นอีเมล์ที่อยู่ในกลุ่ม Transactional emails และบางครั้งก็เป็น One To Many emails อีเมล์เหล่านี้มีเป้าหมายเฉพาะตัวเมื่อเกิดเหตุการ์ณสำคัญ และออกแบบมาเพื่อชี้แจงข้อมูลที่มีความอ่อนไหวสูงนั้นเอง ตัวอย่างของอีเมล์แบบนี้คือ Newsletter, ประกาศการเปลี่ยนแปลงราคาต่าง ๆ, การเตือนความจำในการใช้งานหรือบริการ, การชี้แจงข้อมูลความปลอดภัย จนถึงการสนับสนุนการช่วยเหลือผู้บริโภคต่าง ๆ ขึ้นมา การออกแบบอีเมล์เหล่านี้มักไม่มีรูปแบบที่แน่นอน แต่ส่วนใหญ่จะมีเรื่องราวข้อมูลต่าง ๆ ที่จำเป็นที่ต้องทำความเข้าใจ และส่วนนึงจะมีการระบุระยะเวลาเช่น เงื่อนไขต่าง ๆ ออกมา

introducing-a-breakthrough-in-mobile-email-marketing

5. Notification Emails : เป็นอีเมล์ที่อยู่ในกลุ่ม Transactional emails เป็นอีเมล์ที่มีวัตุประสงค์ในการชี้แจงต่อลูกค้าในเรื่องต่าง ๆ ออกมา ซึ่งตัวอย่างของอีเมล์เหล่านี้ได้แก่ อีเมล์ประเภท กิจกรรมที่ทำไปของผู้บริโภค ความผิดพลาดในการใช้งาน การเตือนหรือยืนยันในการซื้อของ หรือการแจ้งการรีเซตรหัสผ่านต่าง ๆ ออกมา ทั้งนี้การออกแบบอีเมล์เหล่านี้ต้องทำให้สั้น ง่ายต่อความเข้าใจ และแสดงถึงกิจกรรมหรือรายละเอียดของผู้ใช้เรื่องเดียวเท่านั้น

defaultshipnotificationemail83115

ทั้งนี้การออกแบบอีเมล์ที่ดีนั้นสร้างผลแตกต่างให้มากมายในการที่ผู้ใช้จะเปิดอ่านแล้วมีปฏิสัมพันธ์ต่อ กับไม่เปิดอ่านเลย การใช้เครื่องมือให้ถูกนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก ที่จะทำให้การใช้เครื่องมือนั้นแสดงประสิทธิภาพชองคัวเองได้อย่างเต็มที่นั้นเอง


  • 576
  •  
  •  
  •  
  •  
Molek
Head of Strategic Marketing ใน Integrated Service Agency ที่หนึ่ง ผู้หลงใหลในหลาย ๆ ที่มีความอยากรู้และเรียนรู้ในเรื่อง Startup, นวัตกรรม, การตลาด จากมุมมองหลาย ๆ ด้านและวัฒนธรรมของแบรนด์ต่าง ๆ