กลุ่มผู้บริโภคในยุคที่เติบโตมาพร้อมเรื่องดิจิทัลนั้นมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปจากอดีตอย่างมาก โดยเฉพาะวัย 18-24 ปีที่เป็นกลุ่มที่ใช้เวลาอย่างมาก ผ่าน Social media และ Social media ในยุคนี้ก็มีเครื่องมือมากมายที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กลุ่มผู้บริโภคกลุ่มนี้ในการค้นหาและเจอสิ่งที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าและบริการจากแบรนด์ต่าง ๆ ที่ทำให้ผู้บริโภคนี้สนใจจนต้องค้นหา สิ่งที่แบรนด์ต้องทำคือการสรา้งความสนใจของตัวเองจนให้ผู้บริโภคสนใจ เพื่อที่จะสามารถดึงผู้บริโภคเข้ามาในสิ่งแวดล้อมแบรนด์เองได้ โดยแบรนด์นั้นสามารถได้ประโยชน์จากการที่ผู้บริโภคอยู่กับตัวเองได้ 2 ทางคือ Social media platform นี้สามารถสร้างการขายและทำให้เกิดรายได้กลับมาได้จากการการค้นหาและการเจอสินค้าและบริการนั้น ๆ และทำให้ผู้บริโภคได้ประสบการณ์ที่ดีในการที่จะเจอสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ความค้องการตัวเองขึ้นมา
จากการวิจัยของ Epiphany ค้นพบว่าผู้บริโภคอายุ 18-24 ปีกว่า 1/3 ของการสำรวจทั้งหมด ใช้ social media ในการค้นหาเมื่อมีความต้องการที่จะซื้อสินค้า และ 1/4 ของการสำรวจทั้งหมดใช้ Youtube เพื่อดูรายละเอียดมากขึ้นในการที่จะตัดสินใจซื้อสินค้าบางอย่างออกไป ทั้งนี้การเข้าใจกลุ่มผู้บริโภคยุคดิจิทัลว่าทำการค้นคว้าต่าง ๆ ก่อนการซื้อสินค้าอย่างไร และเข้าใจความคาดหวังว่าผู้บริโภคนี้อยากเจออะไรผ่าน Platform ต่าง ๆ เมื่อค้นหา ซึ่งจะทำให้นักการตลดาเข้าใจบทบาทแต่ละเครื่องมือต่อไปในอนาคตในการทำการตลาดอีกด้วย สิ่งที่น่าสนใจจากการวิจัยนี้ที่ทำให้นักวิจัยสนใจคือ การที่ผู้บริโภคยุคดิจิทัลชอบที่จะค้นหาสินค้าและบริการผ่าน Social media มากกว่า Search engine นอกจากนี้ยังพบว่าผลการค้นหานั้นจะเกี่ยวข้องกับความสนใจของตัวเองและอารมณ์ของผู้ค้นหาอีกด้วย ซึ่งสัญญาณนี้น่าสนใจมากและกลายเป็นโอกาสที่สำคัญของนักการตลาดที่จะเข้าไปจับผู้บริโภคใน Platform ที่สามารถจับความสนใจของผู้ใช้งานได้อย่าง Facebook และ Instragram ที่รู้ว่าแต่ละคนที่ใช้ Platform นั้นสนใจอะไร
ตัวอย่างของ Facebook นั้นเป็นตัวอย่างที่ดี เพราะด้วยการทำตัวอขง Facebook นั้นทำให้กลายเป็น One Stop shop ในทุกอย่างในตอนนี้ และทำให้คนใช้ Facebook สามารถหาอะไรก็ได้ผ่าน Facebook ตามความสนใจของตัวเอง แถมทำให้ Facebook รักษาผู้บริโภคของตัวเองเอาไว้ใน Platform ตัวเองจนไม่ต้องออกไปข้างนอกเพื่อตอบความต้องการต่าง ๆ เลย เราจึงเห็นบริการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Newsfeed, Video, Group, Pages ตอนนี้เรามีการซื้อขาย การโอนเงิน และการบริจาคผ่าน Facebook และล่าสุดก็จะบริการหางานผ่าน Facebook อีกด้วย ซึ่งทำให้ Facebook กลายเป็นอินเทอร์เนตย่อม ๆ ในอินเทอร์เนตอีกที จากการวิจัยของทีม Epiphany พบว่าคน 19% ของช่วงอายุ 18-24 ปีใน Facebook นั้นระบุว่ามีความสุขที่จะให้ข้อมูลส่วนตัวกับ Facebook ถ้าสามารถได้รับบริการที่ตรงใจและถูกใจเพิ่มมากขึ้นไปอีก
- millennials อยากค้นหาอย่างไร : จากการค้นคว้านี้ทำให้พบว่ากลุ่มผู้บริโภคยุค millennials นี้อยากค้นหาอะไรก็ตามที่มากกว่าการค้นหาแบบเดิมในอดีต 25% ของ millennials นั้นอยากให้บริการ Search นั้น ๆ สามารถเรียนรู้ Lifestyles ของผู้ค้นหา และสามารถนำเสนอผลการค้นหาที่ตรงกับ Lifestyles ที่เป็นมากกว่าการ Query จากข้อมูลต่าง ๆ ขึ้นมานอกจากนี้การค้นหาจากอารมณ์ก็เป็นส่วนสำคัญเช่นกัน เพราะกว่า 23% ก็อยากให้ระบบเข้าใจอารมณ์ตัวเองในการค้นหาและทำให้การค้นหาที่เกิดขึ้นตรงอารมณ์ตัวเองมากขึ้น ในตอนนี้เราจึงเห็นอย่าง Google Search ได้ออกข่าวมาว่าจะเปลี่ยน Algorithm การค้นหาจากปัจจุบันไปเรียงอันดับการ index search จากข้อมูล Engagement แทนเช่นกัน นอกนากการค้นหาเหล่านี้กลุ่ม millennials ยังต้องการให้การค้นหาแบบรูปนั้นเป็นส่วนสำคัญอย่างมาก โดยการถ่ายรูปและสามารถหาข้อมูลหรือสินค้าที่ถ่ายไว้ได้ทันทีผ่านออนไลน์
- อนาคตของการค้นหา : การค้นหาด้วยภาพนั้นจะกลายมามีความสำคัญและเป็นโอกาสให้แบรนด์เข้าไปแทรกคู่แข่งได้ ด้วยการจับว่าภาพนั้นมีแบรนด์คู่แข่งรึเปล่า และนำเสนอโฆษณาที่เกี่ยวข้องทั้งทางด้านอารมณ์และความต้องการเข้าไป นอกจากนี้การค้นหาด้วยภาพนี้ยังสามารถได้ข้อมูลต่าง ๆ ของผู้บริโภคมาทำ Segmentation และ Personalisation ในแต่ละแบบ สามารถสร้างเนื้อหาโฆษณาที่ตรงไลฟสไตล์ และความต้องการออกมาได้ด้วยอย่างง่ายดาย ทั้งนี้นักการตลาดต้องเริ่มคิดนอกกรอบมากขึ้นว่าจะใช้เทคโนโลยีเหล่านี้สร้างเนื้อหาโฆษณาที่จับภาพที่ผู้บริโภคสนใจได้อย่างไรต่อไป
ทั้งนี้ผู้บริโภคหลายๆคนนั้นกลัวการใช้ข้อมูลในยุคนี้ว่าแบรนด์นั้นจะเอาข้อมูลไปใช้ผิดๆกันแต่ในอนาคตโดยเฉพาะผู้บริโภค millennials เป็นต้นไปไม่ได้รู้สึกเช่นเดียวกับผู้บริโภคที่ผ่านมาและยินดีให้ใช้ข้อมูลต่างๆตราบใดที่ยังได้รับบริการที่ถูกใจและไม่ได้รุกล้ำความเป็นส่วนตัวของตัวเอง