ศึกของบริษัทใหญ่ Google vs. Apple

  • 1
  •  
  •  
  •  
  •  

หลังจากเปิดศึกแย่งชิงตลาดออนไลน์บนมือถือมาได้ซักระยะ ทั้งโลกก็จับตาดูการแข่งขันกันทางธุรกิจของสองยักษ์ใหญ่แห่งวงการ IT ระหว่าง Google และ Apple ที่ก่อนหน้านี้ต่างฝ่ายต่างวางตัวทางธุรกิจไปคนละทาง Google มีช่องทางขายโฆษณาผ่านระบบ Search ของตัวเองสนับสนุนการทำเว็บไซต์ทั่วโลก ออกบริการต่างๆให้น้ำไปใช้งานได้ง่ายขึ้นเพื่อเพิ่ม index ของระบบ search ตัวเองพูดง่ายๆว่ายิ่งมีเว็บเกิดขึ้นมาเท่าไหร่ Google ก็จะมีผลกำไรจากการขายโฆษณาได้มากขึ้นเท่านั้น


ส่วน Apple เองเดิมซึ่งหลายคนมองว่าเป็นคู่แข่งกับ Microsoft มานานทั้งเรื่องระบบปฏิบัติการ ซอฟแวร์ เครื่องเซิฟเวอร์ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต่างๆ และในยุคหลังก็ได้มองธุรกิจอื่นๆเพิ่มด้วยซึ่ง Apple ได้สนใจในเรื่องของการขาย Content มากขึ้นโดยเห็นได้จากมีการเปลี่ยนชื่อจาก Apple Computer Inc. มาเป็น Apple Inc. และเริ่มเห็นการทำธุรกิจในรูปแบบนี้มากขึ้นเห็นได้ชัดจากการขายเพลงออนไลน์ Music Store กับผลิตภัณฑ์ยอดฮิต iPod ที่สร้างให้เกิดการตื่นตัวของวงการเพลง digital มากขึ้นในวงกว้างจนทำให้ Apple สามารถกำหนดราคาขายได้เองแทนที่จะมาจากค่ายเพลงเป็นคนกำหนดราคา ต่อมา Apple เริ่มขยับเข้าสู่ธุรกิจมือถือโดยได้ออกมือถือตัวแรกออกมาชื่อว่า iPhone ซึ่งเป็นมือถือ Smartphone ตัวแรกที่ทำให้ Mobile Internet เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นซึ่งเดิม Microsoft มองตลาดนี้อยู่นานกับ Windows Mobile (Windows CE) แต่ก็ทำได้ไม่ดีเหมือนอย่าง iPhone มองตลาดไว้ได้ไกลกว่าเพียงแค่ขายระบบปฏิบัติการบนมือถือเท่านั้น ที่สำคัญ iPhone ได้สร้างเป็นจุดเปลี่ยนของการซื้อขาย Application ได้อีกด้วยเพราะสามารถทำให้ Apple เป็นเจ้าของตลาดซื้อขายโปรแกรมอันดับหนึ่งได้เพียงระยะเวลาไม่กี่เดือนเมื่อมีการเปิดให้ Developer สามารถสร้าง Application ส่งเข้าไปลงในเครื่อง iPhone ได้จากการส่งเข้าไปขายยัง iTunes Store ที่เป็นหมวดของการซื้อขาย Application นั่นคือสิ่งที่ทำให้กลายมาเป็นเบอร์หนึ่งของ App Strore นั่นเอง และล่าสุด iPad คือ gadget ตัวล่าสุดที่ Apple ต้องการจะเป็นเบอร์หนึ่งของตลาด Book Store ซึ่งตอนนี้ทาง Amazon เป็นเจ้าตลาดอยู่แต่คงต้องดูกันต่อไปว่า Apple จะสามารถโค่นความเป็นเบอร์หนึ่งจาก Amazon มาได้หรือไม่ ถ้าทำได้ Apple ก็จะกลายเป็นเบอร์หนึ่งใน 3 ตลาดทั้ง Music Store,  App Store และ Book Store บนระบบซื้อขายยอดเยี่ยมผ่าน iTunes Store นั่งเอง

มาทางฝั่ง Google บ้างหลังจากมองเห็นตลาดมือถือเติบโตอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งแน่นอน iPhone คือข้อพิสูจน์ที่ Google รายงานออกมาว่ามียอดการใช้งาน Mobile Internet จาก iPhone สูงขึ้นมหาศาลเพิ่งช่วงข้ามคืนหลังเปิดตัว iPhone นั่นคือสิ่งที่ Google เล็งเห็นและได้ริเริ่มโครงการมือถืออย่างเป็นจริงเป็นจัง จากการตั้งทีมงานเพื่อทำระบบปฏิบัติการมือถือขึ้นมาเป็นของตัวเองและเปิดให้เป็น Open Source ตั้งชื่อว่า Android โดยสร้างเครือข่ายของกลุ่มคนพัฒนาขึ้นมา โดยมีผู้สนับสนุนจากค่ายผู้ผลิตมือถือมากมายอย่าง HTC, Motorola, Samsung, LG, Acer และค่ายอื่นๆอีกมากมายมาร่วมกันสนับสนุนนำเอาระบบ Android OS ไปใช้กับมือถือของค่ายตัวเอง และมองว่าการมีระบบ Android มากขึ้นท่าไหร่ Google ก็ได้เปรียบในการลงโฆษณาผ่านมือถือได้สูงขึ้นตามไปด้วย (คล้ายการจำหน่าย Windows Mobile ของทาง Microsoft เพียงแต่เป็นในรูปแบบ Open Source) และแน่นอนว่า Google ก็เริ่มมองหา Mobile Advertising เข้ามารองรับเอาไว้ด้วยโดยได้เข้าซื้อบริษัทขายโฆษณาบนมือถืออันดับหนึ่งไปอยู่ในมือนั่นคือ AdMob นั่นเองแม้ว่า Apple เองก็กำลังเจรจาซื้ออยู่ด้วยเช่นเดียวกันในเวลานั้นแต่สุดท้าย Google ก็ได้ไปครอง นั่นถือเป็นจุดสำคัญที่หลายคนมองว่า Google และ Apple เริ่มเปิดศึกทางธุรกิจแล้ว เพี่ยงไม่นานหลังจาก Google ได้ซื้อกิจการ AdMob ไปด้วยมูลค่า $750 ล้านเหรีญไปเมื่อวันที่ 9 พฤษจิกายน ปี 2009 ทาง Apple เองก็ได้เข้าซื้อกิจการ Quattro Wireless ไปด้วยเงิน $275 ล้านเหรียญเช่นเดียวกันเมื่อวันที่ 5 มกราคม ปี 2010 และนี่คือสิ่งที่สรุปได้ว่าทั่ง Google และ Apple ดำเนินธุรกิจที่เข้ามาชนกันเสียแล้วในเรื่อง Mobile Advertising ซึ่ง Google มีจุดแข็งในเรื่อง Search ส่วน Apple มีจุดแข็งในเรื่อง Application ที่มีอยู่มาก

ภาพประกอบ:  http://gigaom.com/2010/02/12/google-vs-apple/


  • 1
  •  
  •  
  •  
  •  
@veedvil
Founder veedvil.com เว็บที่จะพาคุณไปอัพเดทข้อมูลเกี่ยวกับ Technology, Gadget และ Lifestyle สนุกๆ ด้วยความที่ชื่นชอบ Social Media เลยเกิดอารมณ์อยากแชร์ให้คนอื่นได้รู้บ้าง ^__^