ปัจจุบันแบรนด์ที่แข็งแกร่งและยั่งยืน ไม่ใช่แค่การเป็นที่รู้จักหรือมอบคุณค่าให้กับผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังต้องมุ่งเน้นในด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจึงได้จัดอันดับความแข่งแกร่งของแบรนด์ โดยเป็นการดำเนินการในปีที่ 7 ซึ่งมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องทุก 2 ปี โดยประเมินจาก
- ความตระหนักของแบรนด์ (Awareness)
- ความชื่นอบในแบรนด์ (Preference)
- การใช้ผลิตภัณฑ์ (Usage)
- ภาพลักษณ์ (Image)
ด้าน รศ.ดร.ณัฐพล อัสสะรัตน์ หัวหน้าโครงการวิจัย ชี้ว่า โครงการดำงกล่าวได้ทำการสำรวจจากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 24,000 ตัวอย่าง แบ่งเป็นพื้นที่ กทม.และปริมณฑลจำนวน 12,000 ตัวอย่าง และใน 13 จังหวัดหัวเมืองใหญ่ทั้งประเทศอีก 12,000 ตัวอย่าง โดยเป็นกลุ่มผู้บริโภคชาวไทยอายุ 18-69 ปีมีความหลากหลายทางเพศ และต้องเป็นผู้ตัดสินใจซื้อและใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการด้วยตัวเอง
สำหรับแบรนด์ที่ได้รับรางวัล ประกอบไปด้วย
อุตสาหกรรม Automotive
- กลุ่ม Passenger Car – TOYOTA Yaris
- กลุ่ม Commercial Vehicle – TOYOTA Hilux Revo
- กลุ่ม Motorcycle – HONDA
อุตสาหกรรม Beverage
- กลุ่ม Juice – Unif
- กลุ่ม Energy Drink – M-150
- กลุ่ม Functional Drink – C-Vitt
- กลุ่ม Coffee – Nescafe
อุตสาหกรรม Food & Snacks
- กลุ่ม Instant Noodle – มาม่า
- กลุ่ม Canned Food – สามแม่ครัว
- กลุ่ม Snacks – Lay’s
- กลุ่ม Milk – FOREMOST
- กลุ่ม Seasoning – รสดี
อุตสาหกรรม Personal Care & Household Products
- กลุ่ม Facial and Skin Care – NIVEA
- กลุ่ม Body Wash – LUX
- กลุ่ม Hair Care – sunsilk
- กลุ่ม Oral Care – Colgate
- กลุ่ม Fabric Wash – บรีส
อุตสาหกรรม Restaurant, Financial Services & Property
- กลุ่ม Chain Restaurants – MK RESTAURANTS
- กลุ่ม Coffee Shop – Café Amazon
- กลุ่ม Bank – SCB
- กลุ่ม Life Insurance – AIA
- กลุ่ม Car Insurance – วิริยะประกันภัย
- กลุ่ม Property (Residence) – PRUKSA
อุตสาหกรรม F
- กลุ่ม Laptop / Notebook – acer
- กลุ่ม Mobile Phone – SAMSUNG
- กลุ่ม Online Shopping – Lazada
- กลุ่ม Food Delivery Platform – GrabFood
- กลุ่ม Social Network – facebook
- กลุ่ม TV Streaming – NETFLIX