หา Platform Social Media ที่ใช่เพื่อธุรกิจ SME ของคุณ

  • 382
  •  
  •  
  •  
  •  

การทำธุรกิจในแต่ละขนาดนั้น ย่อมมีความสามารถและความแตกต่างกันในการลงมือที่จะทำการตลาดเพราะด้วยปัจจัยและต้นทุนที่มีทำให้ธุรกิจในแต่ละขนาดนั้นย่อมต้องมีวิธีที่แตกต่างกันเพื่อทำให้เป้าหมายทำธุรกิจของตัวเองนั้นสำเร็จได้ แน่นอนธุรกิจขนาดใหญ่ย่อมมีงบประมาณมากมายและสามารถทุ่มงบประมาณไปกับวิธีการต่าง ๆ ได้ แต่ถ้าเป็น SME นั้นจะต้องใช้งบประมาณที่มีอย่างจำกัดให้ได้ถูกต้องที่สุด เผลอต้องเลือกวิธีการที่เหมาะกับธุรกิจ SME ของตัวเองอีกด้วย

Screen-Shot-2559-09-09-at-8.51.07-PM

ในธุรกิจขนาดใหญ่นั้นมีงบประมาณในการธุรกิจมหาศาล สามารถทำแคมเปญใหญ่ ๆ เพื่อเรียกความสนใจมวลชนให้เกิดความสนใจได้ หรือสามารถจ้างเอเจนซี่ให้มาทำงานต่าง ๆ ได้ เพื่อลงทุนในสื่อโฆษณาที่มีมากมาย กลับกันเมื่อหันไปดูธุรกิจขนาด SME หรือในยุคนี้ที่มี Startup ที่เริ่มต้นด้วยเงินตัวเอง หรือต้องใช้เงินประหยัดอย่างมากมาย การเลือกการทำการสื่อสารทางการตลาดให้ถูกนั้นเป็นเรื่องสำคัญ เพราะไม่สามารถใช้งบประมาณไปอย่างิ้นเปลืองเพื่อหว่านแห่ให้คนสนใจได้ หรือ มีช่องว่างแห่งการผิดพลาดได้น้อยมาก เพราะถ้าผิดมาก็หมายถึงความเป็นอยู่ในธุรกิจตัวเองได้เลย และ SME ส่วนใหญ่จะต้องทำการตลาดต่าง ๆ ด้วยตัวเอง เพราะต้องประหยัดงบเช่นนี้ การรู้ว่าการทำตลาดแบบไหนที่จะเหมาะกับตัวเองนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก ทั้งนี้ในยุคนี้ที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ใช้ Social Media ทำให้ช่องทาง social media นี้กลายเป็นที่ที่ SME ใช้เป็นช่องทางในการกับกลุ่มเป้าหมาย แต่ปัญหาคือหลาย ๆ คนไม่รู้จะเลือก Platform ไหนดี  หรือรูปแบบไหนที่จะเหมาะกับตัวเอง

Facebook : คือ Platform ที่สามารถกลายเป็นการประกาศตัวตนของแบรนด์ให้สาธารณะรู้ได้ และยังสามารถสื่อสารกลุ่มเป้าหมายได้ไม่จำกัดตัวอักษร เพราะฉะนั้นทำให้แบรนด์หรือ SME สามารถให้ข้อมูลได้อย่างเต็มที่ในรูปแบบต่าง ๆ ได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นภาพ วิดีโอ หรือจะแบบไม่เป็นทางการในรูปแบบ emoji หรือไฟล์ Gif ที่นิยมในปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ตามข้อความที่ยาวมาก ๆ ที่ไม่ได้สร้างความน่าสนใจตั้งแต่ต้นย่อมไม่ดึงดูดให้คนอ่านได้ เพราะฉะนั้นต้องคิดถึงความยาวในการทำเนื้อหาดี ๆ ข้อดีของ Facebook คือการเป็นเครื่องมือในการโฆษณาได้อย่างดี เพราะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบเฉพาะเจาะจงความสนใจ แต่อย่างไรก็ตามความสามารถของ Facebook นี้ตอนนี้จะถูกจำกัดเป็เนครื่องมือที่ตั้งรับอย่างมาก เพราะคนทำแบรนด์จะไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่าใครกำลังพูดอะไรเกี่ยวกับแบรนด์เราอยู่ใน Facebook ซึ่งทำให้ Facebook เหมาะกับการใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างชุมชนหรือปฏิสัมพันธ์กับคนที่สนใจแบรนด์ขึ้นมา

Twitter : คือ Platform ที่เป็นข้อความสั้น ซึ่งปัจจุบันในประเทศไทยนั้นกลายเป็น Platform ที่วัยรุ่นใช้กันเป็นส่วนใหญ่เพราะสามารถหนีผู้ปกครองตัวเองจาก Facebook ได้ นอกจากนี้คนที่ใช้ Twitter ส่วนหนึ่งก็เข้ามาติดตามศิลปินต่างประเทศ โดยเฉพาะเกาหลีที่ใช้ Twitter พูดคุยกับแฟน ๆ กัน การใช้ Twitter ต่างกับ Facebook เพราะเป็นการสื่อสารแบบ SMS มากกว่า และยังทำให้คนธรรมดาเข้าถึงดาราและเซเล็ปต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้นด้วย ทั้งนี้ข้อดีคือ Facebook คือการสามารถใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาดในทางรุก เพราะสามรรถค้นหาข้อความของแบรนด์ตัวเอง หรือความต้องการต่าง ๆ เข้าไปปฏิสัมพันธ์ต่าง ๆ ได้ทันที ซึ่งทางแบรนด์ใครอยากจับวัยรุ่น หรือมีวัยรุ่นเป็นกลุ่มเป้าหมาย การใช้ twitter จะเหมาะมาก นอกจากนี้ Twitter ยังมีการใช้ tag เป็นเรื่องปกติ ซึ่งสามารถนำมาสร้างกระแสและสร้างการบอกต่อจนกลายเป็นไวรัลในสื่อ Platform ได้ทันที

Youtube : เป็น Platform Video ที่ต่างจาก Facebookด้วยการที่ Video Facebook ส่วนใหญ่จะเป็นการดูเพื่อความบันเทิงหรือเจอด้วยความบังเอิญจากเพื่อนหรือแบรนด์แชร์มาทำให้การตั้งใจดูจะน้อยมาก แต่กับ Youtube คนที่เข้ามาที่นี้จะมีความต้องการที่จะดู Video และต้องการให้ Video ตอบโจทย์ปัญหาหรือความต้องการตัวเอง ณ ขณะนั้นให้ได้ การที่เข้าไปอยู่ในนี้จึงสามารถจับคนที่กำลังมี moment of problem หรือ moment of need ในช่วงเวลานั้นได้พอดี นักการตลาดที่อยู่ในนี้จะสามารถใช้ Platform นี้ช่วยเสริมยอดขายหรือดึงไปถึงยอดขายได้ทันทีจากการที่สามารถแก้ปัญหาต่าง ๆ ของคนที่เข้ามาค้นหาได้ทันที

Instagram : คือ Platform ของภาพถ่ายที่เรียกได้ว่า เป็นการเล่าด้วยภาพถ่ายออกไป สามารถแสดงความเป็น Branding หรือ Mood & tone ของแบรนด์มาแสดงได้เลย พร้อมยังสามารถใส่ความจริงใจ หรือภาพจริง ๆ ของแบรนด์เข้าไปด้วย ข้อดีของ Instagram คือการใช้ Tag แบบเดียวกับ Twitter ที่สามารถเชื่อมคนด้วย Tag ได้ หรือสามารถใช้ User Generated Content ของแบรนด์มาสร้างตัวตนภาพของแบรนด์ขึ้นมาได้อีกด้วย ซึ่งถ้า SME เป็นแบรนด์ Lifestyle หรือถ้าสร้างแบรนด์ผ่านภาพถ่ายได้จะเหมาะกับ Platform นี้มาก

Screen-Shot-2559-09-09-at-8.53.53-PM

ทั้งนี้ คนทำ SME ต้องลองมองดูว่า Platform แบบไหนจะใช้อย่างไรที่เหมาะกับตัวเอง และจงใช้แต่ละ Platform ให้ถูกวิธี ทดลองในการทำ ดูว่าอันไหนเหมาะกับตัวเองที่สุด เพื่อที่จะสามารถทำงานให้ได้มีประสิทธิภาพมากที่สุดออกมาได้


  • 382
  •  
  •  
  •  
  •  
Molek
Head of Strategic Marketing ใน Integrated Service Agency ที่หนึ่ง ผู้หลงใหลในหลาย ๆ ที่มีความอยากรู้และเรียนรู้ในเรื่อง Startup, นวัตกรรม, การตลาด จากมุมมองหลาย ๆ ด้านและวัฒนธรรมของแบรนด์ต่าง ๆ